|
 |
 |
|
 |
|
|
|
การทำสวนยาง
|
|
|
ยาง พารา(Hevea brasilienis) เป็นพืชเมืองร้อนที่ขึ้นได้ดีในภาคใต้ของไทย อาชีพการทำสวนยางเป็นการผลิตทางพืชที่สำคัญที่สุดของเกษตรกรในภาคใต้ เพราะยางพาราสามารถปลูกขึ้นได้ดีทั้ง 14 จังหวัดของภาคใต้ โดยในขณะนี้ในภาคใต้มีพื้นที่ปลูกยางทั้งสิ้นประมาณ 9.4 ล้านไร่ เป็นเนื้อที่ที่ยางให้ผลผลิตแล้ว 6.7 ล้านไร่ ได้ผลผลิตเฉลี่ย 195 กิโลกรัมต่อไร่ หรือประมาณ 1.3 ล้านตัน เมื่อประมาณ 40 ปีมาแล้วเกษตรกรส่วนใหญ่จะปลูกยางพื้นเมืองกันมากยางพันธุ์ดีมีน้อย

ยางพารา
ประวัติ
ประวัติการทำสวนยางได้กลายเป็นอาชีพและเป็นวัฒนธรรมของท้องถิ่นภาคใต้มาเกือบร้อยปี โดยที่พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง ) เจ้าเมืองตรังสมัยนั้นได้เป็นผู้นำเมล็ดยางจากประเทศมาเลเซียมาปลูกที่อำเภอกันตังเป็นต้นแรกในระหว่าง พ.ศ. 2442 2444 จากนั้นก็ได้มีการนำพันธุ์ยางเข้ามาปลูกหรือขยายพันธุ์จากต้นยางเหล่านี้ไปปลูกกันในหลายจังหวัดภาคใต้ จนเรียกกันติดปากว่ายางพันธุ์พื้นเมือง ยางพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในประเทศบราซิล จึงมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hevea brasiliensis ดังกล่าวแล้ว ประชาชนในภาคใต้ได้ปลูกยางพันธ์พื้นเมืองกันมานาน เพราะเป็นยางที่มีความต้านทานต่อดินฟ้าอากาศ ทนต่อโรคใบร่วง โรคเส้นดำ และโรคอื่น ๆ
แต่ทว่ายางพันธุ์พื้นเมืองจะให้ผลผลิตต่ำคือให้ผลผลิตเพียง 60 กิโลกรัมต่อไร่ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2503 ที่ได้มีพระราชบัญญัติจัดตั้งกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางขึ้นทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้ให้เงินสงเคราะห์แก่เกษตรกรในการโค่นยางเก่าแล้วปลูกแทนด้วยยางพันธ์ดีที่ให้ผลผผลิตสูงระหว่าง 250 350 กิโลกรัมต่อปี ยางพันธุ์ใหม่ที่ทางราชการแนะนำให้ปลูกสมัยนั้น ได้แก่ พันธุ์ยางจากมาเลเซีย และอินโดนีเซีย เช่น พันธุ์อาร์อาร์ไอเอ็ม (RRIM 600) ทีเจไออาร์ (TJIR 1) อาวรอส (AVROS 1659 , 1734) พันธุ์แอลซีบี (LCB 1320 ) พันธุ์จีที (GT 1) พันธุ์พีบี (PB 5/51) และอื่น ๆ ในปัจจุบันนี้พันธุ์ยางที่ทางราชการแนะนำและเป็นที่นิยมของเกษตรกร ได้แก่ พันธุ์อาร์อาร์ไอเอ็ม 600 , จีที 1 , อาร์อาร์ไอเอ็ม 623 , พีอาร์ (PR 107 , 261 ) พีบี 235 , 255 และหอหงส์ (KRS) เบอร์ต่าง ๆ
|
|
แหล่งปลูกยางในภาคใต้
สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานที่ส่งเสริมและและสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกยางพันธุ์ดี โดยให้เงินสงเคราะห์แก่ชาวสวนยางถึงไร่ละ 6,800 บาทเพื่อให้เกษตรกรล้มยางเก่าแล้วปลูกแทนปีละ 3 4 แสนไร่ เจ้าหน้าที่ของกองทุนฯ จะแนะนำให้เกษตรกรปลูกพืชแซมในสวนยางหรือจะเลี้ยงสัตว์ก็ได้ ในที่สุดก็จะแนะนำวิธีกรีดยางที่ถูกต้อง การทำยางแผ่นชั้นดี และการแปรรูปยางต่าง ๆ ขณะนี้ผลิตภัณฑ์ยางของไทยจะอยู่ในรูปยางแผ่นหรือยางแผ่นรมควันร้อยละ 80 ยางแท่งร้อยละ 14 ยางเครพ (crepe) ร้อยละ 4 และน้ำยางข้นร้อยละ 2 สำหรับยางแผ่นรมควันนั้นก็มียางแผ่นรมควันชั้น 1 2 ประมาณร้อยละ 7 ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ร้อยละ 78 และยางแผ่นรมควันชั้น 4 ร้อยละ 15 ทั้งนี้เพราะเกษตรกรยังไม่ค่อยระมัดระวังเรื่องความสะอาด ใช้น้ำกรดผิดประเภทมีทรายและสิ่งสกปรกในน้ำยาง ขาดน้ำที่จะทำความสะอาด เป็นต้น ในปีเพาะปลูก พ.ศ. 2533 2534 จังหวัดที่มีการปลูกยางมากที่สุด เรียงตามลำดับ ดังนี้
1.48 ล้านไร่
จังหวัดสุราษฎร์ธานี   1.28 ล้านไร่
จังหวัดนครศรีธรรมราช   1.13 ล้านไร่
จังหวัดตรัง 1.12 ล้านไร่
จังหวัดนราธิวาส 0.94 ล้านไร่
จังหวัดยะลา 937,659 ไร่
กระบี่ 621,252 ไร่
พังงา 595,200ไร่
พัทลุง 413,534 ไร่
ปัตตานี 302,423 ไร่
สตูล 248,065 ไร่
ชุมพร 219,064 ไร่
ภูเก็ต 112,602 ไร่
ระนอง 59,517 ไร่
|
|
ตลาดการค้ายางในภาคใต้
เมื่อ ปี พ.ศ. 2536 ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดตั้งและ เปิดตลาดกลางยางพาราขึ้นที่บริเวณศูนย์วิจัยยางสงขลา อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นแม่แบบและเป็นตลาดการค้าขายยางที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ นอกจากนี้ก็ยังมีโรงงานรมยางของกลุ่มเกษตรกรและของเอกชนโรงงานอุตสาหกรรมยางแผ่นรมควัน ( 22 โรง)
โรงงานยางแท่ง โรงงานแปรรูปเป็นน้ำยางข้น โรงงานทำผลิตภัณฑ์ยาง โรงงานผลิตแปรรูปไม้ยางพารา และมีบริษัทส่งออกยางพาราหลายบริษัท ที่ทำธุรกิจซื้อยางจากเกษตรกรส่งไปขายต่างประเทศ โดยใช้บริการของท่าเรือน้ำลึกสงขลา ภูเก็ต กันตัง สุราษฎร์ธานี ชุมพร อีกด้วย จึงกล่าวได้ว่าอาชีพการทำสวนยาง เป็นอาชีพที่สำคัญของประชาชนในภาคใต้ และเป็นแหล่งรายได้สำหรับประเทศชาติโดยส่วนรวมอีกด้วย |
|
อาชีพเสริม
เมื่อ ปี พ.ศ. 2536 ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดตั้งและ เปิดตลาดกลางยางพาราขึ้นที่บริเวณศูนย์วิจัยยางสงขลา อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นแม่แบบและเป็นตลาดการค้าขายยางที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ นอกจากนี้ก็ยังมีโรงงานรมยางของกลุ่มเกษตรกรและของเอกชนโรงงานอุตสาหกรรมยางแผ่นรมควัน ( 22 โรง)
โดยเกษตรกรจะเลือกที่ตั้งกลุ่ม จัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ในการทำยางแผ่นชั้นดี แล้วนำน้ำยางมาทำยางแผ่นที่นี่ ภายใต้คำแนะนำของเจ้าหน้าที่กองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง ศูนย์วิจัยยางหรือกรมส่งเสริมการเกษตร เมื่อได้ยางแผ่นคุณภาพคุณภาพดีแล้ว เกษตรกรก็จะนำยางไปขายที่กลุ่มขายยาง ซึ่งจะได้ราคาดีกว่าการขายให้แก่พ่อค้าคนกลางหรือพ่อค้าในเมือง
|
|
|
|
 |
 |
 |
|
|