|
พื้นที่การทำสวนปาล์ม
การผลิตปาล์มน้ำมันทั้งหมดของประเทศไทยอยู่ในภาคใต้โดยเกษตรกรใน 12 จังหวัด (ยกเว้นยะลาและปัตตานี) ได้ปลูกปาล์มน้ำมันกันตั้งแต่รายละ 10 6,000 กว่าไร่ จังหวัดที่มีการปลูกปาล์มน้ำมันมากที่สุดตามลำดับดังนี้ คือ
- กระบี่ 390,413 ไร่
- สุราษฎร์ธานี 291,830 ไร่
- ชุมพร 66,897 ไร่
- สตูล 44,070 ไร่
- ตรัง 39,585 ไร่
- พังงา
11,346 ไร่
สงขลา 10,074 ไร่
นครศรีธรรมราช 2,875 ไร่
ระนอง 1,079 ไร่
ภูเก็ต 200 ไร่
- พัทลุง
70 ไร่
- นราธิวาส 10 ไร่
รวมเป็นเนื้อที่ปลูกปาล์มน้ำมันทั้งสิ้น 858,449 ไร่ ( ปี พ.ศ. 2535) และมีผลผลิตเฉลี่ย เท่ากับ 2,172 กิโลกรัมต่อไร่ หรือเมื่อคิดเป็นปริมาณน้ำมันปาล์มจะเท่ากับ 250 กิโลกรัมต่อไร่ สำหรับราคาซื้อขายของผลปาล์มทะลาย จะอยู่ระหว่างกิโลกรัมละ1.50 2.50 บาท และราคาน้ำมันดิบจะอยู่ระหว่าง 10 14 บาทต่อกิโลกรัม เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันมี 3 ประเภทด้วยกันคือ
- ประเภทบริษัท ซึ่งมักจะมีพื้นที่ปลูกปาล์มขนาดใหญ่เป็นพัน ๆไร่
- ประเภทเกษตรกรทั่วไป ซึ่งมีพื้นที่ปลูกตั้งแต่ 1 150 ไร่
- ประเภทสมาชิกสหกรณ์หรือสมาชิกนิคม ซึ่งมีเนื้อที่ถือครองประมาณ 22 ไร่ต่อครัวเรือน
แต่ ถ้าจะแบ่งตามขนาดของเนื้อที่ถือครองจะ พบว่า
- มีบริษัทเอกชน 62 รายหรือร้อยละ 1.4 ซึ่งเป็นผู้ทำสวนปาล์มขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 4,500 6,000 ไร่ต่อบริษัท
- เกษตรกรที่ทำสวนปาล์มขนาดใหญ่ขนาด 200 ไร่ขึ้นไป มีอยู่ 210 ราย (ร้อยละ4.6 )
- ทำสวนขนาด 50 200 ไร่ มีอยู่ 510 ราย (ร้อยละ11.3 )
- และเกษตรกรจำนวนมากที่สุด 3,746 รายหรือร้อยละ 82.7 จะทำสวนปาล์มขนาดเล็กซึ่งต่ำกว่า 50 ไร่
เนื่องจากการผลิตปาล์มน้ำมันมีคู่แข่งอยู่มาก รัฐบาลจึงมีนโยบายที่จะจำกัดเนื้อที่ปลูกไว้ประมาณ 9 แสนไร่
โดยจัดให้มีการจดทะเบียนผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน เร่งการค้นคว้าวิจัยในเรื่องพันธุ์ การดูแลรักษา และการแปรรูปเพื่อเพิ่มผลผลิตให้มากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะผลผลิตปาล์มน้ำมันใน ประเทศไทยยังต่ำกว่าผลผลิตของมาเลเซียและอินโดนีเซียอีกมาก
|