|
ใบประกอบวิชาชีพ ครู |
|
อาชีพครูเป็นอาชีพที่หนักและเหนื่อย
ในแต่ละวันแทบจะไม่ได้เป็นของตัวเองต้องอดทนอดกลั้น กับเด็กที่มาจากต่างฐานะ ต่างครอบครัว ต่างกันทุกอย่าง เรียกว่า "ร้อยพ่อพันแม่"แต่ครูจะได้เปรียบ อาชีพอื่นตรงที่มองเห็นผลงานได้อย่างเป็นรูปธรรม
ชัดเจน จากเด็กน้อย ๆ ที่ครูพร่ำสอนมา เป็นคนดีมีหน้ามีตาในสังคม ในบ้านเมือง ครูจะภาคภูมิใจจนหายเหนื่อย
มันเป็นภาคภูมิใจที่บอกไม่ถูก บรรยายไม่ได้ ดังนั้นคนเป็นครูจึงยอมทนต่องานหนัก ความเหนื่อยและทนแม้กระทั่งความเป็นอยู่ที่แร้นแค้น เพราะค่าตอบแทนต่ำเพียงเพื่อให้เห็นความสำคัญของลูกศิษย์ตัวเอง
ซึ่งคนที่ไม่ใช่ครูจะไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกนี้เป็นอันขาด ครูทนอยู่กับอาชีพที่คนส่วนใหญ่ไม่อยากเป็น ครูไม่ได้รับค่าตอบแทนอะไรมากไปกว่าเงินเดือน และคำเรียกขานที่สวยหรูจากสังคมว่า "ผู้ทรงเกียรติ"
"ปูชนียบุคคล" แต่ในความเป็นจริงครูยังคงต้อยต่ำในสายตาของใครต่อใครอีกมากนัก
|
|
ต่อมาเมื่อได้มีการตราพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2542 ได้กำหนดให้มีการปฏิรูปการศึกษาและให้มีการปฏิรูปครูและวิชาชีพครูให้เป็นวิชาชีพชั้นสูง
โดยให้ครูได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพซึ่งจะเป็นหลักประกันคุณภาพครู และนัยว่าทำให้ครูได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น มีเกียรติขึ้น ดังนั้นจึงอยากให้คุณครูทุกท่านได้รู้จักกับสิ่งสำคัญในการประกอบวิชาชีพของตนต่อไปในอนาคต
ตามพระราชบัญญัติการศึกษา มาตรา 53 กล่าวว่า การออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูเป็นมาตรการหนึ่งของการพัฒนา วิชาชีพครู ให้เป็นวิชาชีพชั้นสูง วัตถุประสงค์ในการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ก็คือ
1. เพื่อยกระดับมาตรฐานวิชาชีพครูให้เป็นวิชาชีพชั้นสูง
2. เพื่อพัฒนาเยาวชนให้เป็นคนเก่ง คนดี มีความสุขในการเรียนรู้
3. เพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพการศึกษาไทย
4. เพื่อปฏิรูปครูและปฏิรูปการศึกษา
|
|
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ขอรับใบอนุญาประกอบวิชาชีพครู
1. จบการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี
2. มีประสบการณ์สอนไม่น้อยกว่า 2 ปี
3. ต้องไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสีย และไม่เคยต้องโทษจำคุก
|
|
เมื่อคณะกรรมการประเมินและอนุญาตให้ได้รับใบประกอบวิชาชีพแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะได้รับไปจนตลอดชีวิต
จะต้องมีการต่อใบอนุญาตกันทุก 3 ปี หรือทุก 5 ปี แล้วแต่องค์กรวิชาชีพครูจะพิจารณากำหนด ก็ต้องมีการประเมินกันอีกทุกครั้งที่มีการขอต่อใบอนุญาต เป็นการประเมินว่าครูได้พัฒนาตัวเองขึ้นหรือไม่ ในกรณีที่ครูประพฤติตนเสื่อมเสียหรือผิดจรรยาบรรณครูอย่างร้ายแรง
และไม่มีการพัฒนาตนเองเลยเป็นเวลานานต่อเนื่อง ก็จะถูกเพิกถอนใบอนุญาต ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติการสอนต่ไปได้
จากนี้ไปสถานภาพของครูจะดีขึ้นหรือเป็นเพียงยาหอมก็ตาม ครูก็ยังต้องเหนื่อย ต้องทนกันต่อไปเมื่อใดที่ครูทนต่อความเหนื่อย ความแร้นแค้นไม่ไหว
ลองหลับตานึกดูเถิดว่าอนาคตของประเทศไทยเราจะเป็นอย่างไร ครูใช่ไหมที่ทำให้เด็กเล็ก ๆ คนหนึ่ง กลายเป็นผู้บริหารประเทศที่ดี มีคุณธรรม นำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง แล้วครูอีกใช่ไหมที่ทำให้เด็กอีกคนหนึ่ง
กลายเป็นผู้นำประเทศที่โกงกิน ขาดคุณธรรมนำชาติไปสู่ความพินาศ ดังนั้น ขอให้คุณครูภูมิใจเถิดว่า "ท่านคือผู้กำอนาคตของชาติไว้ในกำมือ"
|
|
โดย ผช.อุณาโลม อินทรสุวรรณ |