|
|
 |
เหตุการณ์เมืองทุ่งสง
|
ที่มาของชื่อ "ทุ่งสง"
|
เหตุการณ์ไฟไหม้เมืองทุ่งสง
|
ประวัติศาสตร์การศึกษา |
|
ไฟไหม้ตลาดทุ่งสง |
|
|
เมืองทุ่งสงยุคเรือนแถวไม้ 2 ชั้น
ก่อนเหตุการณ์ไฟไหม้ใหญ่ |

เหตุการณ์ไฟไหม้ใหญ่ตลาดทุ่งสง
|

โรงแรมเอเชีย สร้างใหม่เป็นตึก
|
|
ในราวปี พ.ศ.
2501 เกิดไฟไหม้ใหญ่เมืองทุ่งสง
โดยเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่มีวัวชนคู่เด่นที่สนามชนโค
โดยวัวคู่ชนในวันนั้น ลุงไข่แจ้ง ท้าวฉาย ปัจจุบันอายุ 77 ปี
ซึ่งเกิดที่ตำบลนาหลวงเสนแต่มาทำงานอยู่ในตลาดเมืองทุ่งสง
(ตำบลปากแพรก) จำได้ว่า คือ
“ไอ้ขาวฉ้อน”
วัวดังของเมืองทุ่งสง ชนกับ “ไอ้หัวเล”
วัวจากเมืองตรัง
โดยก่อนมีเหตุการณ์ไฟไหม้มีบางคนได้ยินนักเลงพนันฝั่งเชียร์วัวจากตรังได้กล่าวอาฆาตว่า
ถ้า “ไอ้หัวเล”
วัวฝ่ายตนแพ้ วันนี้เป็นได้เกิดไฟไหม้ตลาดทุ่งสงเป็นแน่
อย่างไรก็ดี
ขณะที่เกิดไฟไหม้นั้นวัวคู่ดังกล่าวยังชนกันไม่รู้ผลแพ้ชนะ
แต่ไฟได้ไหม้ขึ้นแล้ว จากการสัมภาษณ์ผู้เฒ่าผู้แก่หลายคน
ได้บอกตรงกันว่าต้นเพลิงเกิดจากห้องพักชั้น 2 ของโรงแรมเอเซีย
ลามติดเรือนไม้ไปทั้งแปลงที่ดินจนสิ้นสุดที่ผนังปูนของโรงแรมศรีอรุณ
เพราะเทศบาลตำบลปากแพรกได้นำรถดับเพลิงมาเลี้ยงไฟอยู่ที่จุดดังกล่าว
เนื่องจากจุดอื่นดับได้ยากเพราะเป็นเรือนไม้เป็นส่วนใหญ่
ขณะที่คำบอกเล่าของยายปราณี เปรมสถิตย์ ปัจจุบันอายุ 83 ปี
บอกว่าเมื่อเทียบตำแหน่งกับอาคารที่ตั้งอยู่ในปัจจุบันนี้ต้นเพลิงเริ่มจากร้านทุ่งสงบรรณาคารลามข้ามถนนไปจนถึงตลาดเก่า
ขณะที่โกแบน (นาย เทพชัย เจ้าของโรงแรมเทียมฟ้า) เล่าว่า
เหตุการณ์ไฟไหม้เมืองทุ่งสงครั้งนั้น ตนยังเรียนชั้นประถมอยู่
บ้านไม้ของพ่อแม่ตนถูกไฟไหม้หมด ไม่สามารถเอาอะไรออกมาได้ทัน
แม่วิ่งหาลูกๆ กันจ้าละหวั่น กว่าจะรวมลูกๆ ได้ครบ
แล้วพากันอาศัย “สุขศาลา”
ซึ่งเป็นตึกปูนชั้นเดียวยกพื้นเตี้ยราว 3-4
ขั้นบันได
(ต่อมาถูกรื้อแล้วสร้างเป็นศาลาประชาคมอำเภอทุ่งสงในปัจจุบัน)
นอนเป็นการชั่วคราว
จากนั้นจึงไปขออาศัยอยู่บ้านญาติที่เมืองนคร
แล้วจึงกลับมาเริ่มต้นนับหนึ่งชีวิตกันใหม่ จนเกิดเป็น
“ร้านซินเฮง” ร้านแรก
และย้ายไปอีกที่หนึ่ง จนมาเป็นร้านซินเฮงตำแหน่งที่ 3
ซึ่งตั้งอยู่ในปัจจุบันโดย “โกเหยี่ยน”
พี่ชายของ “โกแบน”
เป็นเจ้าของคนปัจจุบัน
ส่วนโกแบนก็มีธุรกิจคือโรงแรมเทียมฟ้าอยู่หน้าตลาดโต้รุ่งเมืองทุ่งสงจนกระทั่งปัจจุบัน |
|
 |