|
|
|
![]() |
|
| ชื่อท้องถิ่น | เขลียง เหมียง เหลียง มันควาย |
| ชื่อวงศ์ | GNETACEAE |
| ชื่อวิทยาศาสตร์ | Gnetum gnemon Lonn.Var.Tenerum Markgr |
| ลักษณะลำต้น | เป็นไม้ทรงพุ่มอยู่ใต้ร่มเงา ลำต้น เป็นข้อ ๆ สูงประมาณ 3-4 เมตร แต่ส่วนใหญ่สูงประมาณ 3 เมตร |
| ลักษณะใบ | ใบจะออกมาจากปลายยอดและกิ่ง ใบรีปลายแหลม ออกมาเป็นคู่ ๆ ใบยาว 10-20 เซนติเมตร |
| ลักษณะดอก | ดอกออกเป็นช่อมีขนาดเล็ก ออกมาตามข้อกิ่ง แต่ละช่อดอก ยาวประมาณ 3-4 เซนติเมตร คล้ายดอกพริกไทย มีปุ่มหุ้มโคนดอก เวลาบานกลีบดอกสีขาวเกสรสีขาวเป็นฝอย |
| ลักษณะผล | ผลมีลักษณะกลมรี คล้ายรูปไข่ หัวแหลม ท้ายมน ผลอ่อนและผลแก่สีเขียว เมื่อสุกเหลืองเข้ม ช่อหนึ่งจะมีผลประมาณ 10-15 ผล |
| ส่วนที่ใช้เป็นอาหาร | ยอดอ่อน ผลดอกอ่อน |
| ใช้เป็นอาหารประเภท | ต้มกะทิ แกงกะทิ แกงส้ม แกงพริก ทำห่อหมก แกงจืดหมูสับ ผัดเผ็ด ลวกจิ้มน้ำพริก กินสดเป็นผักเหนาะ ผลสุก ผลแก่ นำมาต้มรับประทานได้ รสชาติเหมือนถั่ว |
| รสชาติ | หวานอมขม มีฝาดเล็กน้อย |
| ส่วนที่ใช้ขยายพันธุ์ | ต้นอ่อนติดราก ปักชำ ตอนกิ่ง หรือเพาะเมล็ด |
| พื้นที่ที่เจริญเติบโตได้ดี | ดินร่วนซุย และมีปุ๋ยอินทรีย์ ตามธรรมชาติ สมบูรณ์ปริมาณน้ำเพียงพอ และมีร่มเงาได้เป็นอย่างดี |
| ฤดูกาลที่ให้ผลผลิต | - |
| ส่วนที่เป็นพิษ | กล่าวกันว่าถ้าใช้มือที่เปียกน้ำเก็บใบเขลียงมาก ๆ จะทำให้แสบมือแต่ถ้ามือแห้งจะไม่มีอาการ |
| ประโยชน์ใช้สอย | ไม่มี |
| ความเชื่อ | ไม่มี |
| สรรพคุณทางสมุนไพร | ใบอ่อน มีคุณค่าทางอาหารสูงเป็นยาบำรุงกำลัง ตำพอกใบหน้า ช่วยลอกฝ้า ใบหน้าเป็นนวลใย |