| |
"หญิง...พลังแห่งความยิ่งใหญ่ |
| |
ท่านทั้งหลาย ในโอกาสวันส่งท้ายปีเก่า ขึ้นปีใหม่ ได้เวียนมาครบอีกครั้งหนึ่ง จึงขอถือโอกาสนี้สดุดีเชิดชูในพลังความยิ่งใหญ่ของผู้หญิงทั้งมวล
โดยเฉพาะ ผู้หญิงไทย |
| |
การจะดูว่าหญิงไทยมีพละกำลัง เก่งก้า สามารถขนาดไหนไม่ต้องดูอื่นไกลถึงบรรดาผู้นงผู้นำในระดับสูงไฮโซ ไฮโส ใด ๆ ดูแค่หญิงชาวบ้านธรรมดา ๆ ที่อยู่ใน
ระดับต่ำกว่ารากหญ้า ซึ่งเป็นคำฮิต ๆ ติดปาก เราก็พอจะเห็นได้ชัดเจน คิดดูแล้วกัน ผู้หญิงเหล่านี้ กลางวันก็ต้องออกไปรับจ้าง ตกกลางคืนก็ยังหารายได้พิเศษด้วยการรับจ้างเย็บเสื้อผ้าอยู่ที่บ้าน เธอใช้อวัยวะทุกส่วนในร่างกายทำงานอย่างทรงประสิทธิภาพ มือซ้ายคอยดุนผ้าเข้าฝีเข็ม มือขวาอุ้มลูกคนเล็กที่
กำลังดูดนมจากอก |
|
คิดว่าไม่ค่อยจะเป็นธรรมนัก ที่โบร่ำโบราณท่านขยัน คิดแต่สุภาษิต คำพังเพย สำนวนโวหาร มาต่อว่า ต่อขานแต่ผู้หญิง บางอย่างถึงขั้นไม่ให้เกียรติผู้หญิงเลยทีเดียว อย่างโคลงโลกนิติที่ว่า
"ช้างสาร หกคอกไซร้ เสียงา
งูเห่า กลายเป็นปลา อย่าต้อง
ข้าเก่า เกิดแต่ตา ตนปู่ ก็ดี
เมียรัก อยู่ร่วมห้อง อย่าได้ วางใจ
|
|
คิดดูซีครับ มาสอนให้ครอบครัวเขาแตกแยกให้ผัวระแวงเมีย ผมว่าโครงโลกนิติบทนี้ คงใช้ไม่ได้กับสังคมไทยปัจจุบัน ยุคนี้อย่าไปเสียเวลาระแวดระวัง ระแวง "ช้างสาร งูเห่า ข้าเก่า เมียรัก"
อยู่เลย ผมว่าสมัยนี้ที่ต้องระวังให้หนักก็คือ "นักการเมือง นักบวช ตำรวจ ผัวรัก มากกว่า ซึ่งก็สามารถเขียนเป็นโคลงแทนบาทเก่าได้ว่า
"นักการเมือง ตอแหลไซร้ ปวงประชา
นักบวช เสพย์กามา อย่าข้อง
ตำรวจ ปกประชา กลับกลาย เป็นโจร
ผัวรัก หายจากห้อง อยู่ห้อง น้องเมีย"
|
|
นอกจากนี้ยังมีสำเนาที่พยายามยัดเยียดให้ผู้หญิงต้องคอยดักดานอยู่กับผัวซึ่งไม่ได้ความว่า "เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร"
|
