![]() |
![]() |
ชื่อท้องถิ่น |
หมากแดง (แม่ฮ่องสอน) ; อำเปียล (เขมร) ; มะขามไทย,ม่วงโคล้ง (กระเหรี่ยง - กาญจนบุรี) ; ตะลูบ(ชาวบน - โคราช) ; ขาม(ใต้) |
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Tamarindus indica L. |
วงศ์ |
LEGUMINOSAE (FABACEAE) CAESALPINIOIDEAE |
ชื่อสามัญ |
Tamarind |
ลักษณะ |
เป็นไม้ต้น สูง 15 - 25 เมตร ลำต้นขรุขระ เปลือกต้นสีเทาเกือบดำ แตกกิ่งก้านมากมาย ใบประกอบแบบขนนกเรียงสลับใบย่อยรูปขอบขนาน กว้าง 5-8 มม. ยาว 1-1.5 ซม. ดอก ออกเป็นช่อที่ซอกใบ กลีบดอกสีเหลือง มีลายม่วงแดง ผล เป็นฝักสีน้ำตาลหรือน้ำตาลอมเทา รูปฝักเมื่อยังอ่อนจะแบนยาว เมื่อฝักแก่ขึ้นจะกลมยาว เนื้อแข็งเป็นสีขาวนวลอมเขียว และเปลือกจะติดแน่นเนื้อ ฝักเมื่อแก่จัดมากๆ เนื้อในฝักจะฝ่อลงไม่ติดกับเปลือก เนื้อจะนิ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเรียกว่ามะขามเปียกมีทั้งรสหวานและเปรี้ยว ช่วงนี้เปลือกฝักจะเปราะและแตกง่าย ขนาดฝักเมื่อโตเต็มที่จะกว้างราว 2 - 3 เซนติเมตร ยาว 10 - 15 เซนติเมตร ในฝักมีเมล็ดสีน้ำตาลราว 3 - 12 เมล็ด |
ขยายพันธุ์ |
ด้วยเมล็ด การใช้กิ่งทาบกิ่ง ติดตา หรือ ตอนกิ่ง เจริญเติบโตได้ดีในทุกภาคของประเทศไทย |
ส่วนที่นำมาเป็นยา |
เมล็ด, ดอก, ใบ, เนื้อในฝัก, ราก, เปลือก |
สารเคมีและสาร อาหารที่สำคัญ |
เนื้อในฝักที่แก่จัด มีกรดอินทรีย์ คือ กรดทาร์ทาริก ,กรดมาลิก และกรดซิตริก |
สรรพคุณทางยา และวิธีใช้ |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
ข้อควรระวัง |
รับประทานมากไปอาจทำให้ท้องเสียได้ |
มะเกลือ | ![]() |
![]() |
![]() |
มะขามแขก |