![]() |
![]() |
ชื่อท้องถิ่น |
พลูจีน(ภาคกลาง), ซีเก้อ, พลูเป้ายวน, ซีเก(ใต้), พลู(ทั่วไป), ปู(พายัพ), ซีเกะ(นราธิวาส), กื่อเจี่ย(แต้จิ๋ว), จวี้เจี้ยง(จีนกลาง) |
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Piper betle Linn. |
วงศ์ |
PIPERACEAE |
ชื่อสามัญ |
Betel Vine |
ลักษณะ |
ูเป็นไม้เถาเลื้อย เนื้อแข็ง เลื้อยไปตามค้าง เกาะโดยใช้รากฝอยที่แตกตามข้อ ใบ เป็นใบเลี้ยงเดี่ยวเรียงสลับ รูปหัวใจ กว้าง 8-12 ซม. ยาว 12-16 ซม. ปลายใบแหลม หน้าใบมัน ใบมีกลิ่นหอมเฉพาะ รสเผ็ดร้อน ดอกออกเป็นช่อที่ซอกใบ ดอกย่อยขนาดเล็กอัดแน่นเป็นรูปทรงกระบอก แยกเพศ สีขาว ผล เป็นผลสดกลมเล็กเบียดอยู่บนแกน ใน 1 ผล จะมีเพียงเมล็ดเดียว พลูมีหลายพันธุ์ เช่นพลูเหลือง พลูทองหลาง |
การขยายพันธุ์ |
ใช้วิธีปักชำ โดยตัดเถาพลูเป็นท่อน แต่ละต้นให้มีข้อ 3 - 5 ข้อ โดยใช้ส่วนที่เป็นเถาแก่ นำไปปักชำบริเวณที่มีความชื้น ปักชำจนรากออกดีแล้วจึงย้ายลงปลูกในหลุม ควรหาหลักให้เถาเลื้อยขึ้นไป โดยใช้ไม้ปัก หรือปลูกพืชโตเร็ว คอยดูแลความชุ่มชื้น มีการระบายน้ำที่ดี ใส่ปุ๋ยสม่ำเสมอ |
ส่วนที่นำมาเป็นยา |
ใบสด |
สารเคมีและสาร อาหารที่สำคัญ |
ใบพลูมีน้ำมันหอมระเหย (Essential oil) ประกอบด้วย chavicol ,chavibitol, cineol, eugenoi, carvacrol, caryophyllene และ B-sitosterol |
สรรพคุณทางยา และวิธีใช้ |
![]() |
![]() |
|
![]() |
|
ข้อควรระวัง |
ชาวเอเซียและอัฟริกานิยมใช้ใบพลูเคี้ยวกับหมากและปูน นับเป็นยาเสพติดชนิดอ่อน เช่นเดียวกับบุหรี่ |
พญาปล้องทอง | ![]() |
![]() |
![]() |
เพกา |