ผ้าทอกับชีวิตของชาวนคร
ความสำคัญของผ้า

        ผ้าเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญของการดำรงชีวิตเพราะเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ ในสมัยโบราณทุกครัวเรือนมีการทอผ้าไว้ใช้สอยกันเองและมีการถ่ายทอดกรรมวิธีให้ แก่บุตรหลาน แม่และยายมักเป็นผู้รับหน้าที่อบรมและถ่ายทอดวิธีการ และประสบการณ์ในการทอผ้าแก่ลูกหลาน จนกลายเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่รับการถ่ายทอดจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง
        ผ้าทอในนครศรีธรรมราช นอกจากจะใช้เป็นเครื่องนุ่งห่มแล้ว ยังใช้ประกอบพิธีต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับชีวิตและงานนักขัตฤกษ์ เช่น งานแต่งงาน งานศพ งานเข้าพรรษา และงานแห่ผ้าขึ้นธาตุ เป็นต้น แม้ปัจจุบันผ้าก็ยังคงมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของชาวนครอยู่เช่นเดิม

วัตถุประสงค์ของการทอ

1.เพื่อสนองความต้องการขั้นพื้นฐาน
        ผ้าเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ นับเป็นปัจจัยที่สำคัญของการดำรงชีวิตตั้งแต่โบราณกาล ทั้งนี้เพื่อใช้ปกปิดร่างกายและกันความหนาวเย็น


2.เพื่อแบ่งปันหน้าที่ระหว่างชายหญิง
        ชาวนครส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรมมาตั้งแต่โบราณ ยามว่างจากงานในสวนไร่นา ผู้หญิงจะทอผ้าดังคำกล่าวที่ว่า "เมื่อเสร็จหน้านาผู้หญิงทอผ้า ผู้ชายตีเหล็ก" ซึ่งทำให้เห็นถึงการแบ่งหน้าที่ระหว่างชายและหญิง ทั้งยังเป็นการแสดงออกถึงเพศและอุปนิสัยของผู้หญิง เพราะการทอผ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความขยันอดทน ความพยายาม และความละเอียดอ่อนประณีต


3.เพื่อเป็นเครื่องแสดงฐานะของผู้ใช้
        การแต่งกายของคนไทยโบราณแสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดถึงฐานะในสังคมได้อย่างหนึ่ง โดยทั่วไปชาวบ้านมักใช้ผ้าฝ้ายเพราะมีขั้นตอนและกรรมวิธีผลิตไม่สลับซับซ้อน ส่วนเจ้านายและชนชั้นสูงมักใช้ผ้าไหม เพราะต้องใช้ฝีมือในการทอและการดูแลรักษา

        ในนครศรีธรรมราชก็เช่นกัน ผ้ายกทองมักใช้ เฉพาะเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หรือเจ้าพระยานครสั่งทำขึ้นมาถวายเจ้านายในกรุงเทพมหานครเท่านั้น ผู้หญิงมักจะนุ่งผ้ายกดอกหน้านาง หรือผ้าเก็บนัด ผู้ชายก็นุ่งผ้าหางกระรอก (ใครมีฐานะอย่างไรก็สังเกตได้จากการใช้ผ้านี่เอง)


4.เพื่อเป็นรายได้แก่ครอบครัว
        สมเด็จพระเจ้าพระบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษี สว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช เมื่อครั้งตรวจราชการหัวเมืองปักษ์ใต้ พ.ศ.2427 ได้กล่าวถึงสินค้าออกของเมืองนครที่เกี่ยวกับผ้ายกดังนี้ "ราคาสิ่งของที่ขายในตลาด ผ้านุ่งผ้าห่ม ผ้ายกไหม ผ้ายกทอง ไม่มีขายตลาดเป็นของทอเฉพาะผู้สั่งจะซื้อ และเป็นของทำในบ้านผู้ว่าราชการเมือง ผ้าม่วงผืนละ ๕-๖ เหรียญ ผ้าริ้วผ้าตาผืนละ ๖ ก้อน หรือ ๒ ยำไปหรือ 6 สลึง ผ้าขาวม้าไหมผืนละ ๗ เหรียญ แสดงว่าผ้าเหล่านี้ช่วยสร้างรายได้ ให้ครอบครัวชาวนครไม่น้อย


5.เพื่อช่วยสร้างเสริมอบรมขัดเกลาทางสังคมแก่ผู้หญิง
        สตรีในสังคมไทย วิชาการเป็นกุลสตรี และรู้งานบ้านงานเรือนนับเป็นสิ่งสำคัญ การทอผ้าเป็นอีกงานหนึ่งที่มีความสำคัญของสตรีไทย เพราะต้องใช้ความละเอียดอ่อน



การสืบสานภูมิปัญญา

ผ้าทอกับประเพณี