พระเจ้าแผ่นดินของประเทศไทยเรานั้น เป็นผู้ปฏิบัติธรรมตั้งแต่กรุงสุโขทัยเป็นราชธานีมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ พระเจ้าแผ่นดินท่านประพฤติธรรม มีธรรมะ 10 ประการ มีทานเป็นต้น มีอวิโรธนะ คือการไม่มีความพิรุธภายในภายนอกให้ปรากฏ บ้านเมืองจึงอยู่เย็นเป็นสุขพ้นจากความทุกข์ ความเดือดร้อน เพราะพระเจ้าแผ่นดินท่านพระพฤติธรรมและอยู่รอดไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของชาติอื่น ก็เพราะพระเจ้าแผ่นดินท่านใช้ธรรมะ |
ประเทศพม่านับถือพุทธเหมือนกัน แต่ใช้ธรรมะไม่เป็น บ้านเมืองจึงตกเป็นเมืองขึ้นฝรั่ง 99 ปี จึงได้หลุดรอดมาได้ หลุดมาแล้วก็ไม่เรียบร้อย วุ่นวายสับสน บ้านเมืองไม่ได้พัฒนาอะไร ไม่เจริญก้าวหน้า แต่ประเทศไทยเรานั้นไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของใคร เพราะว่าธรรมะรักษา ธรรมะคุ้มครองคน เมื่อคนมีธรรมะประเทศก็สงบสบาย เรียกว่าเป็นคนมีธรรม เมื่อคนมีธรรม ประเทศก็มีธรรมะคุ้มครอง ชาติประเทศก็มั่นคง แต่ถ้าไร้ธรรมอะไรมันก็เสียหาย |
เราต้องคิดให้มันถูกจุด แก้ให้ถูกจุด เวลานี้เราไม่แก้ที่ธรรมะ ไม่แก้คน ไม่พัฒนาจิตใจคน แต่เราคิดไปสร้างวัตถุเพื่อให้บ้านเมืองมันดีขึ้น นั่นเป็นความคิดตามแบบไสยศาสตร์ไม่ใช่พุทธศาสนา |
ไสยศาสตร์นั้น เขามีไว้สำหรับใคร มีไว้สำหรับคนปัญญาอ่อน ไม่ใช่คนที่มีปัญญาแก่กล้า คนใดมีปัญญาแก่กล้าในด้านธรรมะไสยศาสตร์มันหายไป โหราศาสตร์ก็หายไป ศาสตร์ที่โง่ ๆ หมดไปเพราะคนฉลาดด้วยปัญญา |
สิ่งที่จะทำคนให้ฉลาดก็คือธรรมะของพระพุทธเจ้า เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนสิ่งที่ให้คนปฏิบัติด้วยตัวของตัวเอง สอนคนให้รู้จักช่วยตัวเอง รู้จักพึ่งตัวเอง รู้จักทำตัวเองให้ดีขึ้น ให้รู้จักแก้ปัญหาที่ตัว ไม่ใช่ไปแก้ด้วยวัตถุด้วยอะไรต่าง ๆ แต่ว่าชาวพุทธในเมืองไทยเรานี้หลงผิดกันมานานแล้ว แทนที่จะเอาธรรมะของพระพุทธเจ้ามาใช้ในการแก้ปัญหา เราแก้ปัญหาด้วยวิธีไสยศาสตร์ ด้วยวิธีบนบานศาลกล่าว ด้วยพิธีวิงวอนขอร้อง ทำพิธีต่าง ๆ ซึ่งมันขัดกับหลักของพระพุทธศาสนา ไม่ตรงกับคำสอนของพระพุทธเจ้า |
พระเราก็พลอยผสมโรงไปกับเขาด้วย ชาวบ้านไม่รู้พระก็ไม่บอกให้ว่าไอ้นั่นมันไม่ถูก กลับไปส่งเสริมไอ้สิ่งที่ไม่ถูกต้องแล้วประเทศชาติจะอยู่อย่างไร ศาสนาจะอยู่ได้อย่างไร อยู่ได้แต่วัตถุแต่ว่าธรรมะไม่มี |
เราจึงต้องช่วยกันแก้ไขปรับปรุงดึงคนเข้าหาธรรมะ อย่าดึงคนไปหาสิ่งอื่นมันมิใช่ธรรมะของพระพุทธเจ้า อย่าจูงคนให้ตกบ่อ ตกหลุม แต่จูงคนให้ขึ้นไปยืนบนที่สูงแล้วมองไปรอบทิศ เห็นทิวทัศน์สวยงามเรียบร้อยสบายใจ ถ้าอยู่ในบ่อมันจะเห็นอะไร มันก็เห็นแต่บ่อนั่นแหละ มองก็บ่อกับฟ้ามันไม่ได้เรื่อง แต่ถ้าไปยืนอยู่บนที่สูงเห็นหมด อะไร ๆ เห็นหมดชัดเจนแจ่มแจ้ง |
เราต้องช่วยกันจูงคนขึ้นไปยืนบนที่สูงแห่งธรรมะ ไปยืนบนปราสาทที่มีปัญญา ไม่ใช่อยู่กับความโง่เขลา เวลานี้เราชอบชักจูงคนให้โง่กัน ให้หลงกัน ให้ไปทำพิธีรีตรองนอกวัด นอกรอย ไปกราบไปไหว้สิ่งที่ไม่ควรกราบไหว้ แม้ไปไหว้พระก็ไม่ถูกพระ ไปไหว้เหมือนกับไหว้ผี เพราะไปไหว้แบบวิงวอนขอร้องบนบานศาลกล่าว ติดสินบนกับพระพุทธรูปว่าถ้าสำเร็จคราวนี้จะเอาทองมาปิดบ้าง จะเอาไก่ปิ้งมาถวาย เอาหัวหมูมาถวาย จะทำบายศรีมาถวาย นั่นเป็นการกระทำของคนที่ไม่รู้จักพระพุทธศาสนา ไม่เข้าใจพุทธศาสนา จึงทำแบบงมงายไร้สาระ พระที่เป็นสมภารก็ไม่สอนให้รู้ว่ามันไม่ถูก ทำไมจึงไม่กล้าสอน กลัวจะเสียลาภผลที่ตนได้จากความโง่ ปล่อยให้คนโง่ไป จะได้หากินสบาย ๆ แล้วศาสนาจะอยู่ได้อย่างไร |
เข็นคนเข้าหาพระธาตุ | กลับหน้าแรก | ศาสนาของปัญญาชน |