สิ่งที่พระพุทธเจ้าควรเคารพ

เอาละที่นี้จะพูดถึงกันเป็นข้อ ๆ ไป

ข้อแรก “ธรรมะ” นั้นคืออะไร

ช่วยสนใจเป็นพิเศษว่า ธรรมะนั้นคืออะไร ที่มันช่วยได้ปฏิบัติแล้วจะช่วยได้ คืออะไร ตอบอย่างจำง่าย เข้าใจง่ายที่สุดครั้งหนึ่งก่อนว่า ธรรมะ นั้นคือสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงเคารพ คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านเคารพ สิ่งนั้นคือธรรมะ

บางคนอาจไม่รู้ รู้ตามประสาเด็ก ๆ ที่สอนกันในโรงเรียนครูสอนว่า ธรรมะคือ คำสั่งสอนของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งไม่จริง ไม่จริงนิดเดียว เพราะคำว่าธรรมะ คำนี้ ที่เขาพูดเขามีเขาสอนเขากล่าวเขาใช้กัน แต่ก่อนพระพุทธเจ้าเกิดหลายพันปีแล้วด้วย ก็มีคำนี้ใช้พูดจากันอยู่



หน้าที่ที่ถูกต้องแก่ความรอด

ธรรมะในที่นี้หมายถึงหน้าที่ที่ถูกต้องแก่ความรอด นั่นแหละคือธรรมะ หน้าที่ที่ถูกต้องแก่ความรอด ท่านจะต้องเป็นมนุษย์คนแรกในโลกที่สังเกตเห็นว่า โอ้…มันมีสิ่งนี้ หน้าที่ที่ถูกต้องจึงจะช่วยได้ แล้วเราเรียกมันในภาษาที่นั่นในสมัยนั้นว่า “ธรรมะ” แต่ถ้าจะเรียกในภาษาไทยของเรา ก็คือ “หน้าที่”

เพราะฉะนั้น ธรรมะคือสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงเคารพ นั่นก็คือหน้าที่ที่ช่วยให้รอด พระพุทธเจ้าท่านประกาศเอง ไม่ได้มีใครมาบอก

เมื่อท่านตรัสรู้แล้วใหม่ ๆ ท่านก็ทรงฉงนขึ้นมาว่า ต่อไปนี้จะเคารพใคร ในที่สุดท่านก็ โอ้…เคารพธรรมะที่ตรัสรู้นั่นแหละคือหน้าที่ที่ตรัสรู้ หน้าที่ที่จะดับทุกข์ได้ ก็คือธรรมะนั่นหละ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์เคารพหน้าที่ ท่านประกาศอย่างนี้กลายเป็นเรื่องของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์เคารพธรรมะ



ต้องจัดการที่เหตุ

ธรรมะที่ถูกต้องช่วยได้ก็ต่อเมื่อผู้ปฏิบัติอย่างถูกต้องแก่การดับทุกข์ ความทุกข์มีเหตุปัจจัยอย่างไร ความรู้จักจัดการกับเหตุปัจจัยเหล่านั้นอย่างถูกต้อง ความทุกข์มันก็ดับ

ช่วยจำไว้ว่า มันต้องไปจัดการที่เหตุของความทุกข์ คือดับกิเลสก็ตาม ความดับทุกข์ก็ตามถ้าไปเล่นงานตรง ๆ เข้าที่ความทุกข์หรือที่กิเลส มันจะมีผลเหมือนกับเอาไม้สั้นไปรันขี้ คิดดูเองเถอะมันจะเลอะเทอะยุ่งยากสักเท่าไร

แต่ถ้าเรามีธรรมะที่รู้จักกำจัดต้นเหตุปัญหา ทำให้มันไม่เกิดกิเลส ไม่เกิดความทุกข์ มันก็ไม่มีอาการที่เรียกว่า เอาไม้สั้นไปรันขี้ เมื่อมีความรู้ที่ถูกต้องว่าอะไรเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ จัดการป้องกันเสีย กำจัดเสียที่ต้นเหตุ

หน้าที่ที่ถูกต้อง จึงจะดับเหตุดับทุกข์เหล่านั้นได้ ถ้าไม่ถูกต้องมันดับไม่ได้



หน้าที่มันดับทุกข์ได้

เมื่อพูดถึงหน้าที่ หน้าที่ที่เรามี ๆ กันอยู่นี่แหละ คือธรรมะ

หน้าที่ทำมาหากิน เลี้ยงชีวิต นี้ก็คือธรรมะ

หน้าที่บริหารร่างกายในปรจำวัน จะกินข้าว จะอาบน้ำ จะปัสสาวะอุจจาระเหล่านั้น บริหารร่างกายก็เป็นหน้าที่ คือธรรมะ

หน้าที่ที่จะต้องสังคมกันให้ดี ๆ โดยรอบด้านก็หน้าที่

หน้าที่เหล่านี้แหละ คือตัวธรรมะ ทำกันแล้วมันแก้ปัญหาได้ มันดับทุกข์ได้

สรุปกันสัก 3 หน้าที่ คือ หน้าที่ทำมาหากิน ที่ออฟฟิตที่ไหน และหน้าที่บริหารตัวเอง ซึ่งอยู่ในบ้านเรือนของตัวเองทุกอย่าง ตื่นขึ้นล้างหน้า ถูฟัน อาบน้ำ ถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ แล้วก็ทานอาหาร ล้างถ้วยล้างจานกวาดบ้านถูเรือน อะไรก็ตามเหล่านี้ก็เป็นหน้าที่บริหารร่างกาย หน้าที่ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันนั้น ข้างหน้าบิดามารดา ข้างหลังบุตรภรรยา ข้างซ้ายมิตรสหาย ข้างขวาครูบาอาจารย์ ข้างบนผู้อยู่เหนือ ผู้บังคับบัญชา ข้างใต้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา ทุกทิศทำให้ถูกต้อง หน้าที่ทางสังคม สังคมถูกต้อง

มันถูกต้องทั้งสามหน้าที่แล้ว มีธรรมะสมบูรณ์ที่รอดจากความทุกข์