แขวนพระเครื่องให้คอหักก็ช่วยไม่ได้

เลิกศาสตร์ของคนหลับ มามีศาสตร์ของคนตื่น หวังการกระทำที่ถูกต้องแล้วมันจะช่วยเราได้

การกระทำที่ถูกต้องจะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ได้ แต่ถ้ากระทำอย่างไม่ถูกต้อง มันไม่ช่วย เอาพระเครื่องมาแขวนคอให้เต็มคอหักก็ช่วยอะไรไม่ได้

เอาพระเครื่องมาแขวนคอคนทุกคน ในโลกนี้ก็ไม่มีสันติภาพ ถ้าไม่ปฏิบัติธรรมะ

หรือจะพัฒนาให้ฝนตกลงมาเป็นทองคำ มันก็ช่วยไม่ได้ มันไม่มีสันติภาพ ให้ฝนตกลงมาเป็นทองคำ มันก็ฆ่ากันตายเพราะแย่งกันเก็บทองคำหรือใครมีไว้ก็ถูกปล้นถูกจี้ มันเอาทองคำไปลงทุนเพื่อส่งเสริมสร้างสรรค์ค์สิ่งที่ล่อกิเลสเต็มบ้านเต็มเมือง ฝนจะตกลงมาเป็นทองคำก็หาสันติภาพไม่ได้ เพราะมันไม่มีความถูกต้อง ฝนไม่ตกลงมาเป็นทองคำ มันก็มีสันติภาพได้

เราจะทำพิธีรีตองให้เต็มบ้านเต็มเมืองแต่ไม่มีการปฏิบัติธรรมะ มันก็ไม่มีสันติภาพ ขอให้สนใจเถอะ เราต้องมีความถูกต้องในหน้าที่ ธรรมะคือความถูกต้อง


มะนาวนาฬิเก

เนี่ยเรียกว่าพูดกันตรง ๆ น่ะ ก็มาบอกให้พูดเพื่อแก้ปัญหาเมืองนคร ก็ถือสิทธิโอกาสในฐานะที่เป็นชาวนครคนหนึ่งด้วยเหมือนกัน เลยพูดตรง ๆ ไม่กลัวโกรธ

รอบอ่าวบ้านดอนเนี่ยเนื่องถึงกันหมดแหละ นครศรีธรรมราช กาญจนดิษฐ์ เวียงสระ คีรีรัฐ ไชยา ว่าไปแล้วรอบอ่าวบ้านอนมันเคยสัมพันธ์กันอย่างยิ่ง รับพระพุทธศาสนาพร้อมกันในสมัยศรีวิชัย พันกว่าปีมาแล้ว ท่านทั้งหลายเหล่านั้นปฏิบัติธรรมะสูงสุด มีความสงบสุข จนแม้แต่บทร้องเพลงที่ใช้ร้องเพลงกล่อมลูกให้นอน ก็เป็นเรื่องนิพพาน

มะนาวนาฬิเก ต้นเดียวโนเน กลางทะเลขี้ผึ้ง ฝนตกไม่ต้อง ฟ้าร้องไม่ถึง กลางทะเลขี้ผึ้ง ถึงได้แต่ผู้พันบุญ

มันจะมีแต่รอบอ่าวบ้านดอนนี้ ที่อื่นไม่มีหรอก ยังจะยึดไปถึงพัทลุงหน่อยแต่ก็ยังเนื่องกันอยู่ ความเจริญของพระพุทธศาสนาในสมัยศรีวิชัยเมื่อพันกว่าปีมาแล้ว เจริญกันจนแม้แต่เพลงกล่อมลูกให้นอนก็เป็นเรื่องของนิพพาน ก็มีอยู่หลายๆ เพลงที่นครไม่รู้เป็นอย่างไร ก็เชื่อว่าเหมือนกัน เรื่องมะม่วงหิมพานก็ดีเรื่องส้มซ่าก็ดี เรื่องบทกล่อมลูกหลานเป็นเรื่องของนิพพานทั้งนั้นแหละ แต่คนร้องก็ไม่รู้ว่าอะไร คนแก่ก็ตายไปหมดแล้ว

ทรายทุกเม็ดเหยียบย่ำโดยคนมีธรรมะ

ผู้มีธรรมะสูงสุด เหยียบย่ำดินทุกเม็ด ทรายทุกเม็ดให้ศักดิ์สิทธิ์ ทรายทุกเม็ดเคยเหยียบย่ำโดยคนมีธรรมะ

แต่ลูกหลานมันทำสกปรกเลอะเลือนไปหมด แล้วจะเอาอย่างไร

ย้อนกลับไปใหม่เถิด ถึงความเจริญรุ่งเรืองด้วยธรรมสมัยเมื่อพันกว่าปีมาแล้ว เรียกว่าสมัยศรีวิชัย นี่เรามีศีลธรรม มีวัฒนธรรมสูงสุดกัน ถึงขณะนี้มันก็ค่อยๆ เสื่อมหายไป ความเลวร้ายก็เกิดขึ้นมาแทนเป็นวิกฤติการณ์ แสดงบทบาทมาก ไม่เฉพาะที่นครหรอก แม้ที่สุราษฎร์ก็เหมือนกัน มีปัญหาอย่างนี้เหมือนกัน เพราะละทิ้งธรรมะ ไม่ถือธรรมะโดยธรรมชาติ ไม่ถือธรรมะโดยความรับผิดชอบ

พุทธศาสนาเป็นวิทยาศาสตร์สูงสุด

เราจะต้องถือหลักพุทธศาสนาในการดับทุกข์ เราจะต้องถือหลักของธรรมชาติ ธรรมชาติมันมีไว้อย่างไร มีกฎเกณฑ์อย่างไรปฏิบัติแล้วไม่เกิดความทุกข์ ถือเคร่งครัด ถือตากหลักศาสนาก็ได้ถืออย่างกฎของธรรมชาติก็ได้ เดี๋ยวนี้ยิ่งสำคัญมาก

ที่ว่าโลกมันนิยมวิทยาศาสตร์ ต้องปรับปรุงหลักพุทธศาสนาและการปฏิบัติให้ตรงหลักวิทยาศาสตร์ เป็นที่ยอมรับได้ในโลกที่กำลังเจริญด้วยวิทยาศาสตร์ มันจะได้ดึงวิทยาศาสตร์มาสู่สันติภาพไม่อย่างนั้นมันก็จะเอาวิทยาศาสตร์ไปส่งเสริมกิเลสตัณหาหมดให้โลกนี้วินาศ วินาศในเวลาอันสั้น ถ้ามันเอาความเฉลียวฉลาดไปส่งเสริมกิเลสตัณหา

พุทธศาสนาเป็นวิทยาศาสตร์สูงสุด แต่ว่าเป็นเรื่องทางจิตใจก็ต้องทำให้เป็นที่รู้ เป็นที่เข้าใจกันในหมู่นักวิทยาศาสตร์ ก็จะชวนกันหันหลังเดินทางกลับให้มันถูกต้อง ตรงต่อความดับทุกข์คือนิพพาน ความเยือกเย็นไม่มีกิเลสไม่มีไฟ ไม่มีความร้อนหรือความทุกข์

ธรรมะต้องอยู่ในตัวคน

รวมความว่าเราจะต้องมีธรรมะอยู่ที่เนื้อที่ตัว ธรรมะจึงจะแก้ปัญหาของเราได้ ถ้าแยกธรรมะไว้ต่างหาก ธรรมะก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ มันต้องมาอยู่ที่เนื้อที่ตัว คือการปฏิบัติธรรมะ พระรัตนตรัยก็เหมือนกัน ไม่มีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ท่านก็อยู่แต่พระรัตนตรัย เว้นไว้แต่มาอยู่กับเรานี้ เราปฏิบัติให้มีพระรัตนตรัย

ถ้าอ้างว่าพระรัตนตรัยเฉยๆ มีอำนาจมีปาฏิหาริย์ เป็นไสยศาสตร์ไปแล้ว ไม่ใช่พุทธศาสตร์ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่รู้ว่าอะไร เหมาเอาเองว่าอย่างนั้น พระรัตนตรัยจะกลายเป็นไสยศาสตร์ไปเสียอีก ต้องเอาพระรัตนตรัยมาอยู่ในอำนาจแห่งเหตุผลในการประพฤติปฏิบัติอยู่เพื่อจำกัดความทุกข์ พระรัตนตรัยจึงจะเป็นสิ่งที่มีอานุภาพช่วยเราได้

ต้องเป็นธรรมะที่มีอยู่ในคนผู้ปฏิบัติ ไม่ใช่อยู่ในตู้พระไตรปิฎก อย่างนี้มันช่วยไม่ได้ ต้องมาอยู่ที่เนื้อที่ตัว ปฏิบัติอยู่ที่กาย วาจา ใจ และรับผลปฏิบัติอยู่อย่างนี้ จึงจะช่วยได้