|
|
|
![]() |
|
| ชื่อท้องถิ่น | ผักเอื้อง เอื้องนา |
| ชื่อวงศ์ | ไม่มี |
| ชื่อวิทยาศาสตร์ | ไม่มี |
| ลักษณะลำต้น | เป็นพืชล้มลุกอยู่ในน้ำลักษณะเป็นเถา และมีปล้องคล้ายผักบุ้ง |
| ลักษณะใบ | ใบยาวเรียวปลายแหลมกว่าเอื้องช้างใบ และเถามีขนอ่อนตลอดแนว ใบสีเขียวอ่อน |
| ลักษณะดอก | เป็นช่อสีขาว เหมือนดอกฝอยทองออกจากปลายยอด |
| ลักษณะผล | - |
| ส่วนที่ใช้เป็นอาหาร | ลำต้นอ่อนและยอด เก็บกินได้เฉพาะหน้าน้ำ โดยจะรูดใบจากส่วนบนลงล่างแล้วหักที่โคนมัดไว้ เวลาปรุงอาหาร ใช้วิธีลอกเปลือกจากโคนไปหายอดแล้วหักเป็นท่อนๆ ไม่ใช้มีดตัด |
| ใช้เป็นอาหารประเภท | แกงส้ม แกงทะทิ ลวกจิ้มน้ำพริก หรือเป็นผักเหนาะสด |
| รสชาติ | หวานเจือฝาด |
| ส่วนที่ใช้ขยายพันธุ์ | เมล็ดจากดอกแก่ |
| พื้นที่ที่เจริญเติบโตได้ดี | ที่ดินน้ำท่วมขัง |
| ฤดูกาลที่ให้ผลผลิต | ตลอดปี |
| ส่วนที่เป็นพิษ | ไม่มี |
| ประโยชน์ใช้สอย | ไม่มี |
| ความเชื่อ | ไม่มี |
| สรรพคุณทางสมุนไพร | ใบสด ผสมกับใบจันทน์ หอมสด คั้นเอาน้ำ หยอดตาเจ็บ ตาแดง ตำพอกท้องแก้ปวดท้อง ทั้งต้นต้มแก้ขับโลหิตระดู ขับลมในลำไส้ แก้เป็นเถาเป็นดานในท้อง (นาโนช วามานนท์,พนิตนาฎ ลัคนาโฆษิต, วีณาพร สำอางศรีม สมชาย สี่สิน) |