http://www.tungsong.com
Home
| Guestbook
|Local Agenda 21
|Download Document
 
 
ประวัติ เศรษฐกิจ การเกษตร ประชากร ไทยกับอเมริกา รวมภาพ

ประวัติ
ก่อนที่ก้าวขึ้นมาเป็นประเทศได้นั้น ดินแดนที่เราเรียกว่าอเมริกานี้ ตั้งอยู่บนทวีปอเมริกาเหนือ เป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษมาก่อน ซึ่งได้กลายเป็นแผ่นดินใหม่สำหรับผู้ที่อพยพเข้าไปหวังที่จะขุดทองบนแผ่นดินนี้ เพราะคนยากจนหรือมีความคิดขัดแย้งกันทางศาสนานั้น หมดหนทางที่จะอาศัยอยู่บนมาตุภูมิ ก็เลยตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตใหม่ ด้วยการอพยพไปตั้งรากฐานอยู่บนทวีปอเมริกาเหนือ ในสมัยศตวรรษที่ 17-18 คนเหล่านี้มาจากทุกภูมิภาคของเกาะอังกฤษข้ามไปถึงยุโรปทั้งเยอรมัน เนเธอร์แลนด์และประเทศอื่น ๆ เมื่อมีมีผู้คนเข้ามาอยู่อาศัยมากขึ้น แต่ความเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ซึ่งยังต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญของอังกฤษ ตลอดจนยังต้องเสียภาษีให้ ในที่สุดจึงได้ประกาศอิสระภาพในปี ค.ศ. 1776 ประกอบด้วย 13 รัฐ ซึ่งรวมกันเป็นสมัชชาแผ่นดินใหญ่ ผู้มีส่วนสำคัญในการร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญและสร้างเป็นประเทศสหรัฐอเมริกาคือ โทมัส เจฟเฟอร์สัน ผู้ซึ่งต้องการเห็นอเมริกาเป็นต้นแบบของการปกครองระบอบประชาธิปไตย ให้ประชาชนมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน และอุดมการณ์ดังกล่าว ก็ได้สืบทอดมาถึงคนอเมริการุ่นต่อมา จนกระทั่งทุกวันนี้
ประธานาธิบดีคนแรกคือ จอร์จ วอชิงตัน ความเป็นมาโดยคร่าว ๆ เกี่ยวกับดินแดนสหรัฐอเมริกาเริ่มเมื่อปี 1803 ซื้อหลุยส์เซียนา จากฝรั่งเศส และในปี ค.ศ.1819 ซื้อรัฐฟลอริดาจากสเปน ในปี ค.ศ.ปี ค.ศ.1849 ทำสงครามกับเม็กซิโก ผนวกดินแดนกับแคลิฟอเนีย และพื้นที่ที่เหลือทางตะวันตก ในปี ค.ศ.1955 รวมเอาฮาวายเข้ามาเป็นรัฐ มีทั้งหมด 50 รัฐ โดยอลาสก้าเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งซื้อมาจากสหภาพโซเวียต และได้ถือเอาวันที่ 4 กรกฎาคม เป็นวันประกาศเอกราชและมีการฉลองทุกปี
เศษฐกิจ
เศษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ถือว่ามีความมั่นคงมากที่สุดในโลก เนื่องจากมีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลประมาณ 3,618,770 ตารางไมล์ อยู่ในเขตอบอุ่น และมีภูมิประเทศและภูมิอากาศแตกต่างกัน จึงทำให้การเกษตรกรรมของประเทศแตกต่างกันไปด้วย ส่วนลักษณะภูมิประเทศที่มีแนวฝั่งทะเลยาว จึงทำให้สหรัฐอเมริกา พัฒนาด้านการประมงและเมืองท่าพาณิชย์ ตลอดจนระบบข่นส่งทางน้ำ ป่าไม้ก็อุดมสมบูรณ์ทั้งไม้เนื้อแข็งและไม้เนื้ออ่อน เฉลี่ยแล้วมีพื้นที่ป่าไม้ทั้งหมดร้อยละ 25 ของประเทศ แร่ธาตุก็มีมากมาย เช่น ผลิตปิโตรเลียมได้ร้อยละ 25 ของโลกบริเวณอ่าวเม็กซิโก และรัฐหลุยส์เซียนาเป็นแหล่งถ่านหินอีกร้อยละ 20 ของโลก ด้านอุตสาหกรรมนั้นมีอุตสาหกรรมเหล็ก เหล็กกล้า เครื่องจักร อาหาร สิ่งทอ เคมีภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และสิ่งพิมพ์เป็นต้น
การเกษตร
สหรัฐอเมริกาถือได้ว่า อเมริกา ผลิตข้าวโพดได้ประมาณครึ่งหนึ่งของโลก ข้าวสาลีผลิตได้มากเกินความต้องการภายในประเทศ ส่วนข้าวเจ้าผลิตได้เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศ ปัจจุบันมุ่งส่งไปขายยังตะวันออกกลางและประเทศจีน อ้อยผลิตได้มากที่รัฐหลุยส์เซียนา ฝ้ายผลิตได้ร้อยละ 25 ของโลก ยาสูบผลิตได้มากที่สุดในโลก โดยเฉพาะทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ สำหรับการปศุสัตว์นั้น พบว่าเลี้ยงวัวและหมูมากที่สุดในโลก
ประชากร
ประชากรอเมริกัน แม้จะมีหลายเชื้อชาติ ร้อยละ 73 อพยพมาจากยุโรป แต่ประชากรส่วนใหญ่ทีความรู้ ดังเห็นได้จากอัตราผู้รู้หนังสือร้อยละ 97 จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่สะดวกต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมการคมนาคมขนส่งและที่สำคัญ นโยบายทางการเมืองถือว่ามั่นคง ประกอบด้วยมีพรรคการเมือง 2 พรรค คือ พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต
ไทยกับอเมริกา
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับไทยนั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 1833 โดยคณะมิชชันนารีอเมริกาคณะแรกที่เดินทางมาถึงกรุงเทพฯ เพื่อเผยแพร่ศาสนาเป็นหลัก ซึ่งมิชชันนารีคนแรกคือ หมอเดวิด เอบีล นอกจากเข้ามาเพื่อเผยแพร่ศาสนาแล้ว ก็ยังเผยแพร่ทางด้านการแพทย์ด้วย ซึ่งมิชชันนารีคนแรกคือ แดน บีช บัดเลย์ หรือหมอบรัดเลย์ เป็นผู้ที่ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศไทยหลายอย่าง นับตั้งแต่การรักษาโรคด้วยการแพทย์แผนใหม่ การปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ศัลยกรรม การพิม์หนังสือ และงานหนังสืมพิมพ์ในประเทศไทยเป็นเล่มแรกคือ บางกอกรีคอเดอร์ จากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกาก็มีการติดต่อทางด้านการค้าขึ้น ตลอดจนความสัมพันธ์ทางด้านการทูต จนกระทั่งมีการลงนามในสนธิสัญญา ไทย-อเมริกัน ฉบับแรกปีพ.ศ. 2375 แต่งตั้งให้ เอ็ดมันด์ โรเบิตร์ เป็นทูตอเมริกาคนแรก