รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
หมวด ๑   บททั่วไป
หมวด ๒   พระมหากษัตริย์
หมวด ๓   สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย
หมวด ๔   หน้าที่ของชนชาวไทย
หมวด ๕   แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ
หมวด ๖   รัฐสภา
    ส่วนที่ ๑   บททั่วไป
    ส่วนที่ ๒   สภาผู้แทนราษฎร
    ส่วนที่ ๓   วุฒิสภา
    ส่วนที่ ๔   คณะกรรมการเลือกตั้ง
    ส่วนที่ ๕   บทที่ใช้แก่สภาทั้งสอง
    ส่วนที่ ๖   การประชุมร่วมกันของรัฐสภา
    ส่วนที่ ๗   ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา
    ส่วนที่ ๘   คณะกรรมการสิทธมนุษยชน
                  แห่งชาติิ
หมวด ๗   คณะรัฐมนตรี
หมวด ๘   ศาล
หมวด ๙   การปกครองส่วนท้องถิ่น
หมวด ๑๐  การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ
หมวด ๑๑  การตรวจเงินแผ่นดิน
หมวด ๑๒  การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
บทเฉพาะกาล
กลับหน้าแรก

 

ส่วนที่ ๘

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ


        มาตรา ๑๙๙ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประกอบด้วยประธานกรรมการคนหนึ่ง และกรรมการอื่นอีกสิบคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภาจากผู้ซึ่งมีความรู้หรือประสบการณ์ด้านการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนเป็นที่ประจักษ์ ทั้งนี้ โดยต้องคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของผู้แทนจากองค์การเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนด้วย

        ให้ประธานวุฒิสภาลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

        คุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม การสรรหา การคัดเลือก การถอดถอน และการกำหนดค่าตอบแทนกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ

        กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีวาระการดำรงตำแหน่งหกปีนับแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง และให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว

        มาตรา ๒๐๐ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้

        (๑) ตรวจสอบและรายงานการกระทำหรือการละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรืออันไม่เป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นภาคี และเสนอมาตรการการแก้ไขที่เหมาะสมต่อบุคคลหรือหน่วยงานที่กระทำหรือละเลยการกระทำดังกล่าวเพื่อดำเนินการ ในกรณีที่ปรากฏว่าไม่มีการดำเนินการตามที่เสนอ ให้รายงานต่อรัฐสภาเพื่อดำเนินการต่อไป

        (๒) เสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ ต่อรัฐสภาและคณะรัฐมนตรีเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน

        (๓) ส่งเสริมการศึกษา การวิจัย และการเผยแพร่ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชน

        (๔) ส่งเสริมความร่วมมือและการประสานงานระหว่างหน่วยราชการ องค์การเอกชน และองค์การอื่นในด้านสิทธิมนุษยชน

        (๕) จัดทำรายงานประจำปีเพื่อประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน ภายในประเทศและเสนอต่อรัฐสภา

        (๖) อำนาจหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ

        ในการปฏิบัติหน้าที่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติและประชาชนประกอบด้วย

        คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีอำนาจเรียกเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องจากบุคคลใด หรือเรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยคำ รวมทั้งมีอำนาจอื่นเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ


Go to TOP