ทีนี้ด้านจิตใจ
มนุษย์ก็มีปัญหามากขึ้น มีความอ้างว้างว้าเหว่ความรู้สึกแปลกแยก ความเครียด
ความกระวนกระวายอะไรพวกนี้ จนกระทั่งเป็นโรคจิตกันมากขึ้น
ซึ่งถือกันว่าเป็นสภาพของสังคมที่เจริญแล้ว โดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาแล้ว
เราจะเห็นว่าปัญหาทางจิตใจมากขึ้น คนเป็นโรคจิตมากขึ้น ฆ่าตัวตายมากขึ้น
|
ต่อไปก็ด้านสังคม
สังคมก็มีการแข่งขันแย่งชิงมีความไม่ยุติธรรม การว่างงาน อาชญากรรมมากขึ้น
การติดยาเสพติด พฤติกรรมเบี่ยงเบนต่าง ๆ ความรุนแรงมากขึ้น
ตลอดจนกระทั่งความขัดแย้งในระดับกว้างออกไปเป็นสงคราม
ทั้งสงครามในประเทศและสงครามระหว่างประเทศ ตลอดกระทั่งสงครามที่คนหวาดกลัวที่สุดในประเทศที่เจริญแล้ว
ก็คือหวาดกลัวสงครามนิวเคลียร์ อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ว่าสังคมเจริญขึ้น
อารยธรรมเจริญขึ้น แต่เราก็ต้องแก้ปัญหากันไม่รู้จักจบสิ้น
แล้วปัญหาบางอย่างก็รุนแรงมากขึ้น
|
จากนั้นก็มาถึงข้อสำคัญที่สุดซึ่งไม่เคยเป็นปัญหามาก่อนเลย
แต่กลับมาเป็นปัญหามากในยุคปัจจุบัน
ก็คือปัญหาสภาพแวดล้อมที่ปัจจุบันนี้มาบัญญัติศัพท์ใช้ว่านิเวศวิทยา
คือสภาพแวดล้อมปัจจุบันนี้มีความเสื่อมโทรมมาก สภาพแวดล้อมเป็นพิษ
เกิดความร่อยหรอของทรัพยากร เป็นปัญหายิ่งใหญ่ของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน
โดยเฉพาะคนที่ห่วงใยต่ออารยธรรมของมนุษยชาติก็หวั่นเกรงว่า
สิ่งเหล่านี้จะนำมนุษยชาติไปสู่ความพินาศย่อยยับในที่สุด
หรือว่าสูญพันธุ์อย่างที่กล่าวมาแล้ว
|
เป็นอันว่าปัญหาของมนุษย์ในปัจจุบันนี้มันร้ายแรงขึ้น
แล้วก็มีปัญหาใหม่ ๆ ฉะนั้นเราก็จะต้องมาคิดว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร
เมื่อมองในทรรศนะใหม่นี้ก็ถือว่าเรื่องทั้งหมดนั้นมีจุดเน้นอยู่ที่ว่า
จะต้องมองปัญหาทั้งหมดนี้ว่ามันเป็นเหตุปัจจัยที่อิงอาศัยซึ่งกันและกัน
เชื่อมโยงกันทั้งหมด เรามองมนุษย์จะแยกจากสังคมไม่ได้
สังคมจะแยกจากนิเวศวิทยาไม่ได้ มนุษย์ก็จะแยกจากนิเวศวิทยาไม่ได้
เพราะฉะนั้นทุกอย่างจะต้องมองเป็นองค์รวม
ที่มีส่วนประกอบเชื่อมโยงอิงอาศัยซึ่งกันและกันทั้งหมด
|