การเล่นสะบ้าจะต้องปักลูกขี้ตั้งเป็นแถวตามรูปแบบการเล่นสะบ้าแต่ละประเภทกำหนด ระยะห่างของลูกประมาณ 3 - 5 นิ้ว แถวลูกชี้ตั้งนี้เรียกว่า "เน็ด" ลูกสะบ้าริมสุดทั้ง 2 ข้างของเน็ด เรียกว่า"หู" แบ่งชั้นหูซ้ายและหูขวา ลูกขี้ตั้งระหว่างหูซ้ายหูขวา เรียกว่า "ช่องกลาง" ในการปักลูกสะบ้าจะขุดเน็ดคือขุดดินพอให้วางลูกสะบ้าด้านข้างให้ทรงตัวมั่นคง แล้วเอาลูกสะบ้าปักลงไปเรียกว่า "ปักบ้า" การปักการปักต้องให้สะบ้าได้ระดับการตลอด

         การยิงมี 2 วิธี วิธีแรกใช้ลูกเกย จับขอบลูกเกยด้วยนิ้วหัวแม่มือ ให้ด้านแบนเข้าหาฝ่ามือ บางคนใช้นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือ บางคนจับลูกเกยทั้ง 5 นิ้ว ใช้นิ้วชี้อีกมือหนึ่งสอดในลูกเกยด้านตรงข้ามกับหัวแม่มือ ดันให้ลูกเกยหลุดจากมือหมุนอย่างเร็วอย่างแรง พุ่งเข้าหาเน็ดบ้า ลูกเกยจะยิ่งหมุนตีลูกสะบ้าให้ล้มลง
        วิธีที่2 ใช้ลูกคุง จับลูกคุงด้วยมือทั้ง 2 โยนให้กลิ้งไปยังเน็ดบ้า การยิงจะยิงเป็นชุด แต่ละชุดเรียกว่า "ดาน"(กระดาน)


วิธียิง

        


ลานสะบ้าหลาก สะบ้าชุด สะบ้าคุ้ม

         ปักลูกขี้ตั้งแถวเดียว 8 ลูก ผู้เล่นมีนายมือ 1 คน รับแทงจากผู้แทงซึ่งเรียกว่า "ลูกมือ" ลูกมือมีกี่คนก็ได้ การเล่นจะกำหนดเป็นกระดานๆ ไป เรียกว่า "ดาน" หรือ "ชุด" ลูกมือจะแทงคนละเท่าใดก็ได้ ก่อนเล่นนายมือจะจัด"ปอลี" (คนดูแลเงินของนายมือ) ทำหน้าที่ขีดตาราง 4 เหลี่ยมเล็กๆ เท่าจำนวนผู้แทงลงพื้นใกล้เน็ดบ้าเพื่อให้ลูกมือวางเงินแทง จากนั้นนายมือจะยิงเป็นคนแรกจากหัวลานห่างจากเน็ด 2 เมตรเศษ ถ้าลูกขี้ตั้งล้มหมดจะได้กินเงินแทงของลูกมือทุกคน โดยลูกมือไม่ต้องยิง ถ้านายมือยิงลูกขี้ตั้งล้มเพียงลูกเดียว ก็ต้องจ่ายแก่ลูกมือทุกคนตามจำนวนเงินแทงของลูกมือแต่ละคน โดยลูกมือไม่ต้องยิง ถ้านายมือยิงลูกขี้ตั้งล้มตั้งแต่ 2 ลูกขึ้นไปแต่ไม่ต้องหมดแถว ต้องให้ลูกมือทุกคนยิงการยิงของลูกมือ แต่ละคนถือเป็นการแข่งกับนายมือเท่านั้น ก่อนยิงต้องปักสะบ้าให้เต็มทุกแถวทุกครั้ง ถ้ายิงผิดมีสิทธิ์ยิงใหม่ได้ การตัดสินถือเอาจำนวนสะบ้าที่ยิงล้มเปรียบเทียบกับนายมือยิงได้ ถ้ายิงน้อยกว่านายมือ นายมือได้กินเงินแทง ถ้ายิงได้มากกว่านายมือจ่าย ถ้าได้เท่านายมือ จ่ายเงินแทงคืนการเล่นจะดำเนินไปเช่นนี้จนลูกมือทุกคนได้ยิงทั่วกัน จึงเริ่มกระดานใหม่

        
         ปักลูกขี้ตั้ง 8 - 15 ลูกตามแต่จะตกลงกัน วิธีเล่นมีต่างกันหลายแบบ ดังนี้

         แบบที่ 1 เล่นคล้ายสะบ้าหลาก ดดยให้ลูกมือ(ผู้แทง)ลงเงินที่ปอลี แล้วนายมือยิงก่อน จากนั้นลูกมือยิงตามลำดับของจำนวนเงินที่แทงจากเงินมากไปหาน้อย ก่อนลูกมือแต่ละคนจะยิงต้องปักสะบ้าให้ครบชุดเสมอ หลังจากยิงผ่านไปทุกคนแล้ว จะคิดแพ้ชนะกับแบบเดียวกับสะบ้าหลาก
         แบบที่ 2 เล่นแบบต่อแต้ม โดยนายมือยิงก่อนแล้วลูกมือยิงทีหลัง อาจจะยิงทีละคนหรือลูกมือรวมกันเป็นทีมเดียว เลือกตัวแทนยิงแข่งกับนายมือก็ได้ โดยมีข้อตกลงว่า"หกกิน - เอี่ยวใช้" หมายความว่า ถ้าเจ้ามือยิงสะบ้าล้มตั้งแต่ 6 เม็ดขึ้นไป เรียกว่า "หกกิน" หรือ "ใช้" นายมือจะกินเงินที่ลูกมือแทงทั้งหมดดดยผู้แทงไม่ต้องยิง แต่ถ้าเจ้ามือยิงสะบ้าล้มเพียวเม็ดเดียวเรียกว่า "เอี่ยว" หรือ "จด" หรือ "ผก" หรือ"โผง" เจ้ามือต้องจ่ายเดิมพันรอบวงดดยไม่ต้องยิงแต่ถ้านายมือยิงได้ตั้งแต่ 2 เม็ดขึ้นไป ลูกมือจะยิงแข่งกับนายมือเหมือนแบบที่ 1
         แบบที่ 3 เล่นแบบเก็บคะแนน โดยตั้งคะแนนไว้ ตามแต่จะกำหนด เช่น 30 คะแนน 45 คะแนน การเล่นแบ่งผู้เล่นเป็น 2 ฝ่าย ๆ ละเท่ากัน ผลัดกันยิงฝ่ายละคนไปเรื่อยๆ ก่อนที่แต่ละคนจะยิงต้องปักสะบ้าให้ครบเสมอแต่ละคนของแต่ละฝ่าย ยิงได้กี่ลูกก็รวมกับที่คนก่อนยิงได้โดยคิดคะแนนลูกละ 1 คะแนน ฝ่ายใดยิงถึงคะแนนเต็มที่ตั้งไว้ก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ ได้กินเงินเดิมพัน

         การเล่นพนันสะบ้าหลาก และสะบ้าชุด คนดูที่เล่นพนันวงนอกเรียกว่า "เล่นรอบนอก" มี 2 แบบ


การเล่นพนันของพวกรอบนอก ในการเล่นสะบ้าหลาก และสะบ้าชุด

         แบบที่ 1 พนันกันว่าแต่ละคนยิงจะยิงสะบ้าล้มจำนวนเลขคู่หรือคี่ วิธีเล่นจะตั้งโต๊ะขึ้นอย่างน้อย 2 โต๊ะ เรียกว่า "โต๊ะคู่" โต๊ะหนึ่ง และ"โต๊ะคี่" อีกโต๊ะหนึ่งที่โต๊ะจะมีเจ้ามือนั่งรับแทงพนันจากผู้แทง ผู้ดูการแข่งสะบ้าคนใดอยากแทงพนันก็นำเงินมาลงโต๊ะที่ตนคาดว่าผู้ยิงจะยิงสะบ้าล้มจำนวนคู่หรือคี่ เช่น คาดว่าจะยิงล้มจำนวนคู่ก็นำเงินไปวางยังโต๊ะคู่ ถ้าผู้ยิงๆ ล้มจำนวนคู่ เจ้ามือจะต้องจ่าย ถ้าผิดก็กิน การเล่นรอบนอกไม่จำกัดจำนวนผู้เล่น

         แบบที่2 แทงพนันจำนงคี่ คาดว่าสะบ้าจะถูกยิงล้ม วิธีเล่น นายมือจะตั้งโต๊ะรับแทงพนันขึ้นโต๊ะหนึ่ง เรียกว่า"โต๊ะเชงเลง" บนโต๊ะตีตารางรูป 4 เหลี่ยมเท่าจำนวนลูกสะบ้าที่ปัก แต่ละช่องเขียนเลขเรียง 1, 2, 3, 4,.. ไปจนเท่าจำนวนสะบ้า ผู้ดูคนใดอยากจะแทงว่าผู้เล่นจะยิงสะบ้าล้มกี่ลูก ก็นำเงินไปวางที่อยากแทง ถ้าแทงผิดเจ้ามือกินถ้าถูกเจ้ามือจะจ่ายเป็นจำนวนเท่าของช่องที่แทง เช่น แทงช่อง 3 จำนวน 10 บาท ต้องจ่าย 30 บาท ถ้าแทงช่อง 5 จำนวน10 บาท ต้องจ่าย 50 เป็นต้น

        


ลานสะบ้าเลย หรือสะบ้าราว หรือสะบ้ายืน

         ใช้ลานขนาด 3 x 20 เมตร ผู้เล่นไม่จำกัดจำนวนแต่โดยทั่วไปเล่นกันราว 3 - 5 คน โดยผู้เล่นตกลงกันว่าจะ "ลงบ้า" (ลงลูกสะบ้าที่ปัก) คนละกี่ลูก ทุกคนต้องลงเท่ากัน ส่วนมากถ้าเล่น 5 คนก็ลงคนละ 2 ลูก นำสะบ้าที่ลงไปปักกลางลานในแนวขวาง ผู้เล่นตกลงกันว่าใครจะยิงก่อนหลังตามลำดับถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ใช้วิธีเสียงทายหรือยิงสะบ้าคนละครั้งแข่งขันก่อน ใครยิงได้มากกว่าก็ได้ยิงก่อน จุดเริ่มยิงจะกำหนดให้ห่างจากเน็ดราว 1.5 - 2.0 เมตร วิธียิงในหนึ่งกระดานจะยิงคนละ 2 ครั้ง ครั้งแรกเรียก"ขาขึ้น" ครั้งที่ 2 เรียก "ขาลง" ในการยิงขาขึ้นจะยืนยิงจากเส้นเริ่มต้น ณ จุดเดียวกัน คนแรกยิงลูกเกยไปหยุดที่จุดใดก็ทำเครื่องหมายเอาไว้ ลูกขี้ตั้งที่ถูกยิงล้มก็กวาดออกไป ไม่ต้องปักให้ครบและไม่ต้องเลื่อนสะบ้าให้ชิดกัน แล้วให้คนถัดๆ ไปยิงในลักษณะเดียวกัน คนที่ยิงลูกเกยใกล้เน็ดเรียกว่า "นั่งเน็ด" เมื่อยิงขาขึ้นหมดทุกคนแล้วก็ยิงขาลงในลักษณะเดียวกันอีก โดยคนยิงได้ไกลในลำดับถัดๆ ไป มายิงในลำดับถัดมา สำหรับคนนั่งเน็ดจะมีวิธีต่างไปจ่กคนอื่นๆ คือ ต้องเดินจากจุดที่ลูกเกยหยุดไปตามแนวขนานกับเน็ดบ้าจนชิดขอบลานแล้วนั่งเฉียงเข้าทางหูเน็ด ในการเล่นบางครั้งผู้ยิงก่อนยิงลูกขี้ตั้งล้มหมดเสียก่อน คนหลังๆ ที่ยังไม่ได้ยิงเรียกว่า "ค้างเดย" ก้จะได้ยิงก่อนในกระดานใหม่

         ในการตัดสินแพ้ชนะ จะถือเอาจากลูกขี้ตั้งที่แต่ละคนยิงได้ ใครยิงได้มากกว่าลูกสะบ้าที่ตนลงคราวแรกก็ถือว่าชนะในการเล่นเขาจะตกลงกันก่อนเล่นว่าสะบ้าลูกหนึ่งมีราคากี่บาท เมือจบกระดานผู้แพ้ต้องซื้อลูกสะบ้าให้ครบจำนวนที่ลงคืนมาจากผุ้ชนะ อีกวิธีหนึ่งจะไม่มีการซื้อลูกสะบ้าคืน แต่จะเล่นไปเรื่อยๆ พอครบกระดานก็ปักสะบ้าใหม่ ในแต่ละกระดานใครยิงได้ที่ลูกก็บันทึกไว้ เมื่อเล่นจบก็รวมจำนวนลูกสะบ้าที่แต่ละคนยิงได้มาหักลบกันคิดออกมาเป็นตัวเงิน เช่น เล่นกัน 4 คน ลงสะบ้าคนละ 2 ลูก เล่น 3 กระดาน ในแต่ละกระดานแต่ละคนยิงได้ดังนี้ กระดานแรก นาย ก ได้ 1 ลูก นาย ข ได้ 3 ลูก นาย ค ได้ 2 ลูก นาย ง 2 ลูก , กระดานที่ 2 นาย ก ได้ 2 ลูก นาย ข ได้ 4 ลูก นาย ค ได้ 1 ลูก นาย ง ได้ 1 ลูก , กระดานที่ 3 นาย ก ได้ 1 ลูก นาย ข ได้ 2 ลูก นาย ค ได้ 2 ลูก นาย ง ได้ 3 ลูก , รวมแล้ว 3 กระดาน นาย ก ได้ 4 ลูก นาย ข ได้ 9 ลูก นาย ค ได้ 5 ลูก นาย ง ได้ 6 ลูก สรุปแล้ว นาย ก แพ้ นาย ข 5 ลูก แพ้ นาย ค 1 ลูก แพ้ นาย ง 2 ลูก รวมแพ้ 8 ลูก , นาย ข ชนะ นาย ก 5 ลูก ชนะ นาย ค 4 ลูก ชนะ นาย ง 3 ลูก รวมชนะ 12 ลูก , นาย ค ชนะ นาย ก 1 ลูก แพ้ นาย ข 4 ลูก แพ้ นาย ง 1 ลูก รวมแพ้ 4 ลูก , ส่วน นาย ง ชนะ นาย ก 2 ลูก แพ้ นาย ข 3 ลูก ชนะ นาย ค 1 ลูก รวมแล้วเสมอตัว ถ้าตอนเริ่ทเล่นคิดสะบ้าที่ลงลูกละ 10 บาท นาย ก ก็แพ้ 80 บาท นาย ข ชนะ 120 บาท นาย ค แพ้ 40 บาท ส่วน นาย ง ไม่ได้ ไม่เสีย

        
         เล่นบนลานดินเรียบ แบ่งผู้เล่นเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายละคน นั่งหันหน้าเข้าหากัน ห่างกันราว 2.5 - 3.0 เมตร ตรงหน้าของผู้เล่นแต่ละฝ่ายปักลูกสะบ้าจำนวนเท่ากัน อาจจะเป็น 8 - 12 ลูก ตามแต่จะตกลงกัน จากนั้นผู้เล่นฝ่ายหนึ่งยิงลูกเกยไปยังเน็ดบ้าฝ่ายตรงข้าม ถ้ายิงถูกฝ่ายรับก็แยกสะบ้าที่ยิงได้แล้วนั้นไว้ต่างหาก แล้วเอาเกยยิงไปยังเน็ดบ้าของอีกฝ่ายหนึ่ง ยิงกลับไปกลับมาเช่นนี้จนกว่าฝ่ายหนึ่งจะถูกยิงลูกขี้ตั้งหมดก่อนและไม่มีเกยอยู่ในมือถือว่าเป็นฝ่ายแพ้ การเล่นพนันจะคิดจากสะบ้าของฝ่ายที่ยังปักเหลืออยู่บนลานโดยตกลงกันไว้ก่อน เช่น เล่นกันลูกละ 2 บาท ถ้าเหลือสะบ้าอยู่บนลาน 3 ลูก ฝ่ายที่ยิงล้มหมดต้องจ่ายให้ฝ่ายที่ยังเหลือสะบ้า 6 บาท ถ้าข้อตกลงเป็นการลงโทษ เช่น ดขกหัวเข่า การลงโทษก็คิดแบบเดียวกัน

        
         ใช้ลานและอุปกรณ์การเล่นเหมือนกับการเล่นสะบ้าชุด ต่างกันแต่วิธีการเล่นคือ ผู้เล่นๆ ได้ตั้งแต่2 - 5 คนลงลูกสะบ้าคนละคุ้มหรือคนละชุด ถ้าเล่น 4 คนก็เรียกว่า 4 คุ้ม ถ้าเล่น 5 คนก็เรียกว่า 5 คุ้ม คุ้มละกี่ลูกก็แล้วแต่จะตกลงกัน ปักลูกสะบ้าทั้งหมดลงเป็นแถวเรียกหนึ่งที่ปลายลานสะบ้า หันเหลี่ยมเล็กมาทางคนเล่น (คนยิง) ห่างกันเม็ดละประมาณ 10 เซนติเมตร

         วิธีเล่น ผู้เล่นทั้งหมดจะต้องยิงเสียงทายลำดับก่อนหลังเสียก่อน ผู้ยิงสะบ้าแตกมากหรือล้มมากที่สุดจะได้เล่นเป็นคนแรก นอกนั้นเรียงลำดับไปตามที่ยิงล้มมากและน้อย เมื่อได้ลำดับผู้เล่นแล้ว ผู้เล่นคนแรกก็ยิงเก็บคะแนนจากจำนวนเม็ดสะบ้าที่ยิงแตกก่อนที่คนลำดับต่อไปจะยิงเก็บคะแนนจะต้องจัดแถวเม็ดสะบ้าที่เหลือในแถวให้ได้ระยะเท่ากันทุกเม็ดเสียก่อน คือประมาณ 10 เซนติเมตร แล้วคนลำดับถัดไปจะเริ่มยิงเก็บคะแนนจนครบคนเล่นทุกคน แล้วคนลำดับถัดไปจะเริ่มยิงเก็บคะแนนจนครบคนเล่นทุกคน แล้วคนที่ได้ลำดับแรกก็จะเริ่มยิงสะบ้าที่เหลือในแถวใหม่ (ถ้าเหลือ) ดังนี้เรื่อยไปจนกว่าจะหมดลูกสะบ้าบนลานนั้น จึงเล่มต้นเล่นกระดานใหม่ การเริ่มเล่นกระดานใหม่ก็จะต้องมีการเสี่ยงทายผู้ยิงลำดับก่อนหลังดังกล่าวแล้วเสียก่อนทุกครั้ง ในการเล่นกระดานใหม่นี้ ถ้าผู้ใดได้คะแนนจากการเล่นในชุดก่อนไม่พอลงคุ้ม ก็จะต้องซื้อลูกสะบ้าจากผู้ที่ได้คะแนนมาก เม็ดละเท่าไรก็แล้วแต่จะตกลงกันก่อนเริ่มเล่น

        


ลานสะบ้าลูกสาว

         เป็นสะบ้าที่เล่นเป็นการสนุกสนานเชื่อมความสัมพันธ์กันระหว่างหนุ่มสาวไม่ได้เล่นเพื่อเอาเดิมพันหรือเป็นการพนันกัน จะเล่นในเทศกาลสงกรานต์เท่านั้น สถานที่เล่นเป็นลานดินแข็งเรียบเสมอ ไม่เทลาดเหมือนสะบ้าชุดหรือสะบ้าคุ้มและมีเม็ดสะบ้าซึ่งเรียกว่า "ลูกกด" บางท้องถิ่น ใช้ 4 เม็ด แต่บางท้องถิ่นใช้ 8 เม็ด ลูกกดนี้จะมี 2 ชุด ปักเรียงกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตรุสที่ปลายลานทั้ง 2 ข้าง ๆ ละชุด โดยหันด้านเหลี่ยม เล็กมาทางผู้ยิง ห่างกันเม็ดละ 10 - 12 เซนติเมตร และตรงกลางของสี่เหลี่ยมทั้ง 2 ชุดนั้นมีลูกสะบ้าอีกลูกหนึ่งตั้งเหลี่ยมโดยหันด้านแบนมาทางผู้ยิง เรียกลูกสะบ้าลูกนี้ว่า "ลูกสาว" และมีลูกสะบ้า อีก 10 เม็ด เรียกว่า"ลูกเกย" ใช้สำหรับทอย (โยน) ให้ถูกทอยกดล้มลง

         วิธีเล่น แบ่งผู้เล่นเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายชายและฝ่ายหญิง จะเล่นฝ่ายละกี่คนก็ได้ และจัดให้มีหัวหน้าฝ่ายละ 1 คน ให้ฝ่ายที่มีลูกเกยจำนวน 10 เม็ด เป็นฝ่ายเล่นก่อน สมมติว่าฝ่ายหญิงเป็นผู้เล่นก่อน ให้ฝ่ายหญิงผลัดกันทอยลูกทีละคนคนละลูก ให้ถูกลูกกดที่ล้อมรอบลูกสาวอยู่ล้มหรือกระเด็นไปทอยจนหมดลูกเกยทั้ง 10 เม็ด ระวังอย่าทอยถูกลูกเม็ดที่เป็นลูกสาวเป็นอันขาด มิฉะนั้นจะปรับเป็นฝ่ายแพ้ ตอนนี้ฝ่ายชายก็จะได้ลูกเกยเกยทั้ง 10 เม็ด ที่ฝ่ายหญิงทอยมาให้จะเป็นฝ่ายเริ่มเล่น โดยทอยลูกเกยทั้ง 10 เม็ด ให้ถูกลูกกดชุดที่อยู่ตรงกันข้าม วิธีเล่นก็เช่นเดียวกับฝ่ายหญิงดังกล่าวมาแล้ว เมื่อฝ่ายชายทอยลูกเกยครบ 10 เม็ดแล้ว ฝ่ายหญิงซึ่งได็ลูกเกยกลับมาก็จะเริ่มทอยต่อให้ถูกลูกกดที่ยังเหลืออยู่จนลูกกดล้มลงหมด (ครั้งหลังอาจจะใช้ลูกเกยไม่ถึง 10 เม็ด) แล้วฝ่ายชายก็เริ่มทอยต่อโดยใช้ลูกเกยจำนวนเท่าที่ฝ่ายหญิงทอยไปใช้ ลูกเกยจำนวนเท่าที่ฝ่ายหญิงทอยไปให้นั้น ถ้าถูกลุกกดล้มจนหมดเช่นกัน ก็ตัดสินว่าเสมอกัน ถ้าล้มไม่หมดก็ตัดสินเป็นฝ่ายแพ้ แต่ถ้าใช้ลูกเกยจำนวนเท่าที่ฝ่ายหญิงทอยไปให้ครั้งหลังนั้นไม่หมด โดยที่ลูกกดล้มหมดเสียก่อนก็จะเป็นฝ่ายชนะ เสร็จแล้วก็เริ่มการเล่นชุดใหม่วนเวียนกันไปดังนี้ เมื่อมีการแพ้ทุกครั้ง ฝ่ายชนะจะยึดเอาข้าวของมีค่า เช่น ผ้า สร้อย หรือแหวน จากฝ่ายแพ้ไว้เป็นประกัน และจะคืนให้เมื่อฝ่ายแก้ตัวได้ แต่ถ้าฝ่ายชนะได้ของเก็บไว้มากจนถึงเวลาเลิกเล่น ฝ่ายแพ้จะต้องไถ่ของคืน โดยเสียเป็นเหล้าหรือให้ผู้หญิงไหว้ ผู้ชายรำ ตามแต่แต่จะสัญญากัน

        
         สะบ้านี้ชนิดเหมาะที่จะเป็นสะบ้าที่ใช้เล่นกันเพื่อความสนุกมากกว่าที่จะเล่นเพื่อการพนัน ผู้ที่ร่วมเล่นจะกำหนดเอาฝ่ายละกี่คนก็ได้ แต่ที่เหมาะสมควรจะฝ่ายละ 2 - 3 คน

         วิธีเล่น แบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่าย แต่ละฝ่ายนั่ง หันหน้าเข้าหากัน ห่างกันประมาณ 3 - 5 เมตร ตรงหน้าของแต่ละฝ่ายปักลูกขี้ตั้งเป็นแถวยาวหน้ากระดานซึ่งเรียกว่า "เน็ดบ้า" ลูกขี้ตั้งจะกำหนดกันฝ่ายละกี่ลูกก็ได้ แต่ควรเฉลี่ยให้สัดส่วนพอกับจำนวนผู้เล่น เช่น เล่นฝ่ายละ 3 คน ปักสะบ้าฝ่ายละ 9 เม็ด เป็นต้น เมื่อเริ่มยิงฝ่ายใดจะเริ่มปล่อยลูกเกยไปทำลายลูกขี้ตั้งฝ่ายตรงกันข้ามก่อนก็ได้ โดยที่ปล่อยลูกเกยไปคนละลูก ในการยิง หากยิงผิดก็ไม่มีสิทธิ์ ยิงใหม่เหมือนสะบ้าชุด เมื่อฝ่ายยิงลูกขี้ตั้งล้มลงเท่าไรฝ่ายตรงกันข้ามจะต้องส่งลูกที่ยิงได้ฝ่ายยิงเก็บไว้เฉพาะ ปักสะบ้าฝ่ายละ 9 เม็ด เมื่อเริ่มยิงฝ่ายใดจะเริ่มปล่อยลูกเกยไปทำลายลูกขี้ตั้งฝ่ายตรงกันข้ามก่อนก็ได้ โดยที่ปล่อยลูกเกยไปคนละลูก ในการยิง หากยิงผิดก็ไม่สิทธิ์ยิงใหม่เหมือนสะบ้าชุด เมื่อฝ่ายยิงยิงลูกขี้ล้มลงเท่าไรฝ่ายตรงกันข้ามจะต้องส่งลูกที่ยิงได้ให้ฝ่ายยิงเก็บไว้เฉพาะลูกเกยเท่านั้น เมื่อฝ่ายที่ถูกยิงเก็บลูกเกยไว้ได้หมด ฝ่ายตนก็เริ่มยิงบ้าง ทุกคนปล่อยลูกเกยไปทำลายก็ จะโยนมาให้เก็บไว้เช่นเดียวกัน การยิงจะยิงกลับไปกลับมาเช่นนี้จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดลูกขี้ตั้งลงก่อนทั้งลูกเกยก็ยิงไปรวมอยู่ที่ฝ่ายตรงข้ามหมด ฝ่ายนั้นก็ถือว่าแพ้ การแพ้หรือชนะคิด "เป็นทีม" ไม่คิดเป็นรายบุคคล

         เมื่อมีการแพ้หรือชนะกันแล้ว ฝ่ายที่แพ้จะต้องคลานไปหาฝ่ายชนะ นั่งพับเพียบประนบมือไหว้ ฝ่ายชนะก็ตะคอกถามและโต็ตอบกันดังนี้

ฝ่ายชนะ : เอ้... พวกเอ็งไปไหนมากันวะ
ฝ่ายแพ้ : (ยกมือไหว้พร้อมกับทำเสียงเบาๆ ว่า) มาเที่ยวขอทานครับนาย
ฝ่ายชนะ : เอ้... พวงเอ็งหน้าตาดีๆ ไซ่ (ทำไม) ต้องเที่ยวขอทานกันวะ
ฝ่ายแพ้ : เพราะเล่นบ้า (สะบ้า) แพ้ครับนาย
ฝ่ายชนะ : พวงเอ็งแพ้เท่าไรวะ
ฝ่ายแพ้ : (บอกเท่าจำนวนลูกขี้ตั้งที่แพ้ไป)
ฝ่ายชนะ : ฮือเอาไป (ส่งลูกขี้ตั้งให้คืน)

         ฝ่ายที่แพ้รับลูกขี้ตั้งด้วยความนอบน้อม แล้วคลานถอยไป นำไปเริ่มเล่นกันใหม่

        
         เล่นบนลานดินเรียบ แบ่งผู้เล่นเป็น 2 ฝ่ายๆ ละเท่ากัน แต่ละฝ่ายให้มรหญิงกึ่งหนึ่งชายกึ่งหนึ่ง เช่น เล่นฝ่ายละ 8 คน ผู้เล่นจะเป็นหญิง 4 คน ชาย 4 คน อยู่ห่างกันราว 6 เมตร แต่ละฝ่ายยืนหรือนั่งเรียงหน้ากัน ตรงหน้าผู้เล่นแต่ละฝ่ายปักลูกสะบ้าเท่าจำนวนผู้เล่น เสี่ยงทายกันว่าฝ่ายไหนจะเริ่มยิงก่อน แล้วผลัดกันยิงฝ่ายละครั้ง ถ้ายิงล้ม ผู้ยิงจะได้เลือกผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามมาเป็นเชลย 1 คนทันที จะเลือกเชลยหญิงหรือชายก็ได้ แต่โดยทั่วไปถ้าฝ่ายยิงถูกเป็นหญิง เธอจะเลือกเชลยผู้ชายโดยเดินตรงไปยังฝ่ายตรงข้ามแล้วจับ ใบหูคนที่ต้องการให้เป็นเชลยพามายังฝ่ายตน ทำดังนี้เป็นต้น ถ้าผู้ยิงถูกเป็นชายถ้าจะเลือกเชลยก็จะยิงแก้ ถ้าแก้ได้จะขอพวกตนซึ่งเป็นเชลยคืนมา ถ้าแก้ไม่ได้อีกฝ่ายก็ยิงอีก เล่นกันเช่นนี้จนฝ่ายหนึ่งตกเป็นเชลยจนหมด และต้องรับเงื่อนไขของฝ่ายชนะโดยไม่มีข้อแม้ เช่น เขาให้รำก็ต้องรำ ให้คลานช้างก็ต้องคลาน แล้วจึงเริ่มเล่นกระดานใหม่

         การเล่นสะบ้าแลกเชลย เล่นกันเฉพาะวันสงกรานต์เท่านั้น และเป็นการเล่นที่เปิดโอกาสให้ชายหญิงได้สนุกสนานด้วยกัน ซึ่งหาโอกาสเช่นนี้ได้ยากในสังคมภาคใต้ที่ชายหญิงจะได้ใกล้ชิดกันจริงๆ

ลานและอุปกรณ์การเล่นสะบ้า
ลานและอุปกรณ์การเล่นสะบ้า
Home ศัพท์เฉพาะที่ใช้ในการเล่นสะบ้า
ศัพท์เฉพาะที่ใช้ในการเล่นสะบ้า