ชื่อท้องถิ่น |
ข่า ข่าใหญ่ ข่าหลวง ข่าตาแดง ข่าลิง ข่าหยวก (ภาคเหนือ) |
|||
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Languas galanga (L.) stuntz, Alpinia galanga (L.) Willd. |
|||
วงศ์ |
ZINGIBERACEAE |
|||
ชื่อสามัญ |
Galanga |
|||
ลักษณะ |
เป็นพืชล้มลุก ลำต้นสูงประมาณ 1.5 - 2 ลำต้นใต้ดินเรียกว่าเหง้ามีข้อและปล้องชัดเจน ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับรูปใบหอก รูปวงรีหรือเกือบขอบขนาน กว้าง 7-9 ซ.ม. ยาว 20-40 ซ.ม. ดอกจะออกเป็นช่อ ซึ่งจะออกที่ยอด ดอกย่อยขนาดเล็ก กลีบดอกสีขาว โคนติดกันเป็นหลอดสั้น ๆ ปลายแยกเป็น 3 กลีบ กลีบใหญ่ที่สุดมีริ้วสีแดง ใบประดับรูปไข่ ผลมีลักษณะกลมโต ขนาดเท่าเม็ดบัว เมื่อแก่จะมีสีดำและเม็ดเล็ก ๆ อยู่ภายใน มีรสขม เผ็ดร้อน |
|||
การขยายพันธุ์ |
ปลูกได้ในทุกฤด ชอบขึ้นตามที่ชื้นแฉะ โดยแยกปลูกเป็นหลุม ๆ ละต้น ปลูกห่างกันราว 80 เซนติเมตร ไม่มีศัตรูพืชรบกวน |
|||
ส่วนที่นำมาเป็นยา |
ต้น ใบ ดอกและเมล็ด |
|||
สารเคมีที่สำคัญ |
เหง้าข่าประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหย (Essential oil) ในน้ำมันนี้ยังประกอบด้วยสารชนิด cinnamate,cineol, eugenol camphor, pinenes 1-acetoxychavicol acetate มีฤทธิ์ต้านเชื้อรา ขับลม ต้านเชื้อแบคทีเรีย ไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธ์ และไม่เป็นพิษในขนาดยา 250 เท่าของขนาดที่ใช้ในตำรายาไทย |
|||
สรรพคุณทางยา และวิธีใช้ |
อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ขับลมในลำไส้ : ใช้เหง้าสดขนาดเท่าหัวแม่มือ (5 กรัม) หรือเหง้าแห้ง 2 กรัม ต้มกับน้ำจนเดือด รินน้ำดื่ม รักษาโรคผิวหนัง ที่เกิดจากเชื้อรา กลาก, เกลื้อน : เอาหัวข่าแก่ล้างให้สะอาด ฝานออกเป็นแว่นบางๆหรือทุบให้แตก เอาไปแช่เหล้าโรงทิ้งไว้ 1 คืน ทำความสะอาดขัดถูบริเวณที่เป็นเกลื้อนจนพอแดง และแสบ แล้วเอาข่าที่แช่ไว้มาทาเฉพาะที่ๆ เป็นเกลื้อน จะรู้สึกแสบๆ เย็นๆ ทาเช้าและเย็นหลังอาบน้ำทุกวัน ประมาณ 2 สัปดาห์ เกลื้อนจะจางลงและหายไปในที่สุด แก้บวม ฟกช้ำ : : เอาน้ำคั้นจากเหง้าแก่ มาทาบริเวณที่เป็น ฆ่าแมลงวันทอง : เอาน้ำคั้นจากเหง้าแก่ (นำเหง้าแก่มาบดเป็นผงแล้วคั้นเอาแต่น้ำ ) ผสมน้ำนำไปฉีดพ่น |
|||
ข้อควรระวัง |
- |
|||
ขลู่ | ข้าวกล้อง |