ชื่อท้องถิ่น |
ว่านอ้อยช้าง(เลย) |
|||
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Schefflera leucantha vigvier |
|||
วงศ์ |
ARALIACEAE |
|||
ชื่อสามัญ |
Edible - stemed Vine |
|||
ลักษณะ |
เป็นไม้พุ่มแกมเถา สูง 1 - 4 เมตร ผิวลำต้นค่อนข้างเรียบเกลี้ยง ใบประกอบแบบนิ้วมือ เรียงสลับ ออกเป็นกระจุก ใบย่อยรูปวงรีหรือรูปใบหอก กว้าง 1.5-3 ซม. ยาว 5-8 ซม. ปลายใบแหลมเรียว โคนใบมีหูใบซึ่งจะอยู่ติดกับก้านใบพอดี พื้นผิวใบเรียบ เป็นมัน ริมขอบใบเป็นคลื่น เล็กน้อย ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง กลีบดอกสีนวล ผลเป็นผลสด รูปกลม เมื่ออ่อนมีสีเขียวแก่ เมื่อแก่หรือสุกเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดงสด |
|||
การขยายพันธุ์ |
ปักชำ ตอนกิ่ง หรือเพาะเมล็ด ขึ้นได้ดีในดินทุกประเภท |
|||
ส่วนที่นำมาเป็นยา |
ใบ |
|||
สารเคมีและสารอาหารที่สำคัญ |
||||
สรรพคุณทางยา และวิธีใช้ |
แก้หวัด ภูมิแพ้ หอบหืด : เอาหนุมานประสานกาย 5 - 10 ช่อ ต้มกับน้ำ ประมาณ 7 - 10 แก้ว แล้วดื่มต่างน้ำ หรือดื่มวันละหนึ่งครั้ง รักษาอาการช้ำใน : ใช้หนุมานประสานกาย 1 - 3 ช่อ ตำให้ละเอียด ต้นกับน้ำครึ่งแก้ว แล้วกรองด้วยผ้าผ้าขาวบาง ใช้น้ำยานี้กิน ทุกเช้า - เย็น เป็นตัวยาที่ค่อนข้างเข้มข้น แผลในปากที่เกิดจากการร้อนใน : รับประทานใบสด 1 - 2 ใบ เคี้ยวให้ละเอียด แล้วกลืน เช้า - เย็น แก้ไอ แก้หอบหืด แก้อาเจียน เป็นเลือด : ใช้ใบสด 10 ใบ ตำให้ละเอียด คั้นเอาแต่น้ำ ผสมกับเหล้าขาว สมานแผล และห้ามเลือด : ใช้ใบสดตำละเอียด เอากากมาพอกหรือทา |
|||
ข้อควรรู้ |