“ขนมจีน”
เป็นอาหารที่นิยมทำรับประทานกันในทุกภาคของประเทศไทย
แต่ที่รับประทานกันมากที่สุดเห็นจะเป็นในภาคใต้
ถือเป็นเอกลักษณ์ในการกินของคนใต้
เดินทางมาภาคใต้คราใดต้องกินขนมจีนกับผักเหนาะถาดใหญ่โดยเฉพาะเมืองทุ่งสง
เรามีขนมจีนขายกินกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง เชื่อหรือไม่ หากไม่เชื่อ???
ต้องตามมาดู ... |
|
“เส้นขนมจีน”
การทำเส้นขนมจีน บางท้องถิ่นเรียก “เหยียบหนมจีน”
มีขั้นตอนดังนี้ |
1.
นำข้าวเจ้าไปแช่น้ำ อย่างน้อย 12 ชั่วโมง |
2.
นำข้าวสารไปโม่ด้วยครกบดจนละเอียด |
3.
นำน้ำแป้งที่ได้ใส่ถุงผ้า แล้วทับด้วยของหนักจนแป้งแห้ง |
4.
นำแป้งทีได้มาปั้นเป็นก้อน ขนาดผลส้มโอ นำไปต้มจนสุก |
5.
นำแป้งที่สุกไปตำในครก เรียกว่า “เชแป้ง” |
6.
แล้วนำมานวดด้วยสันมือบนแผ่นไม้ ให้แป้งเข้ากัน |
7.
นำแป้งไปใส่ในกระบอกขนมจีน ซึ่งทำด้วยทองเหลืองหรือไม้ อัดแป้งให้เต็ม
ปิดฝา แล้วยกกระบอกขนมจีนไปตั้งบนม้าไม้ ที่มีรูให้ย่อนก้นกระบอกเลยลงไป
ข้างล่างเป็นเตาไฟวาง กะทะใบบัวที่มีน้ำต้มเดือด |
8.
ใช้ไม้บิดเกลียวกระบอกขนมจีน ฝาด้านบนจะกดแป้งในกระบอกออกทางรูที่ก้น
เรียกว่า “โรยเส้น” |
9. ต้มเส้นจนสุก
แล้วใช้กระชอนตักเส้นขนมจีนไปล้างน้ำสะอาดแล้วนำใส่กะละมัง |
10.
หยิบเส้นขนมจีนในกะละมังแต่ละครั้งเรียกว่า “จีบ”หรือ “ลูก”
เรียงลงใน “กะชะ” ภาชนะที่สานด้วยไม้ไผ่ ก่อนวางจะต้องเอาใบตอง
ใบไผ่ หรือใบมะละกอ มาปูรองก้นจนถึงขอบด้านในของกะชะก่อน
เรียงวนจนรอบและเต็มกะชะก็ส่งไปจำหน่ายหรือรับประทานกับน้ำแกงแต่ละชนิดต่อไป |
|
“น้ำแกงขนมจีน”
มีหลากหลายชนิด ได้แก่ น้ำแกง(น้ำยา) น้ำแกงเผ็ด น้ำพริก แกงเขียวหวาน
แกงพุงปลา แกงขมิ้น |
|
 |
|
 |
|
 |
|
 |
|
 |
|
 |