
บทความ-สารคดี
โดย พิชามญชุ์
|
ฉบับที่ 2528 ปีที่ 49 ประจำวันอังคารที่ 1 เมษายน 2003
เทคโนโลยีเพื่อชีวิต ด้วยพระมหากรุณา
ของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
|
...เครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้าสีม่วงหรือคอมพิวเตอร์พร้อมเครื่องพิมพ์ซึ่งอยู่ในโรงเรียนชนบทห่างไกล
อาจให้ภาพที่แตกต่างกันเกือบจะเป็นคนละขั้วในเรื่องของเทคโนโลยีที่ทันสมัยกับภาพชนบทที่ห่างไกลจากจุดศูนย์กลางของประเทศ
แต่สำหรับโครงการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี
ที่ได้ดำเนินการเพื่อนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ
ทั้งในด้านการศึกษาและความเป็นอยู่ของชาวไทยในชนบท และผู้ด้อยโอกาสนั้น
ความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงนี้สามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ด้วยพระมหากรุณา
|

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กับพระราชกรณียกิจด้านเทคโนโลยี
|
...มนุษย์เรานั้นควรมีความเป็นอิสระ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นอิสระในความคิด รู้จักพินิจเรื่องต่างๆ ด้วยปัญญาที่รอบคอบ
การพัฒนาประเทศที่ดีควรดำเนินไปพร้อมๆ กันอย่างกลมกลืน
ทั้งทางด้านวัตถุที่อิงอยู่กับเทคโนโลยี และทางด้านจิตใจ
เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน... ความตอนหนึ่งในพระราชดำรัส
ของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงแสดงปาฐกถาเรื่อง
เทคโนโลยีสารสนเทศที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ เมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๘ ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ
เป็นข้อสรุปได้ว่าทรงเล็งเห็นประโยชน์ของเทคโนโลยีที่สามารถนำไปสู่การพัฒนาประเทศ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้มีพระราชดำรัสถึงแนวทางการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในงานเพื่อสังคมและเพื่อเกิดประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ
โดยทรงมีพระราชดำริแก่ผู้บริหารศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์
และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (เนคเทค สวทช.) จนกระทั่งเกิดผลเป็นโครงการในพระราชดำริที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่พสกนิกรผู้ด้อยโอกาสมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา
โครงการเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อคนพิการ โครงการเทคโนโลยีสารสนเทศทัณฑสถานหญิง บางเขน
โครงการเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเด็กป่วยในโรงพยาบาล ฯลฯ ทั้งนี้ได้ทรงดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากการก่อกำเนิดของโครงการต่างๆ เหล่านี้
จึงมิใช่เพียงแค่เครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้า
หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไปตั้งอยู่ในโรงเรียนชนบท หรือในทัณฑสถานเท่านั้น
แต่คือการสร้างความรู้
สร้างโอกาสในการพัฒนาชีวิตของผู้ด้อยโอกาสมากมายสมดังคำว่า เทคโนโลยีเพื่อชีวิต
ผู้กล่าวประโยคนี้คือ ศ.ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
(สวทช.)
และรองประธานคณะกรรมการโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ซึ่งได้ทำงานสนองพระราชดำริในโครงการต่างๆ ด้วยดีตลอดมา ทั้งนี้ ศ.ดร.ไพรัชได้กล่าวถึงรายละเอียดของโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า
โครงการนี้เริ่มต้นเมื่อปี
พ.ศ.๒๕๓๘ เวลานั้นเป็นปีที่เทคโนโลยีสารสนเทศเพิ่งเริ่มเข้ามา
และผมคิดว่าคนไทยมีความเข้าใจเรื่องอินเทอร์เนตไม่มากเท่าไร
หลายคนก็มีความกังวลว่าถ้าเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา
ก็อาจจะตกอยู่ในมือของคนกลุ่มเดียว คืออาจจะไปไม่ถึงมือคนที่อยู่ในชนบท คนยากจน
คนด้อยโอกาส ซึ่งก็นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีพระราชดำริในโครงการนี้ขึ้น โดยหลักๆ แล้วคือ โครงการเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับโรงเรียนในชนบท
หรือ ทสรช.

ทรงเยี่ยมชมโรงเรียนในโครงการ ทสรช.
(โครงการเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับโรงเรียนในชนบท)
|
โรงเรียนในโครงการ ทสรช.ปัจจุบันมีทั้งหมด
๗๒ โรงเรียนทั่วประเทศ โปรดเกล้าฯให้พระราชทานเครื่องคอมพิวเตอร์โรงเรียนละ ๒๐
เครื่อง พร้อมพริ้นเตอร์
๒ ตัว และทรงมีพระราชดำริให้ทำงานร่วมกับสมาพันธ์เทคโนโลยีสารสนเทศ
ให้รับเครื่องที่ใช้แล้วมา แล้วทางสมาพันธ์ฯกับทาง สวทช.
ก็จะช่วยกันดูแลเอาเครื่องมาช่วยกันปรับปรุงเพื่อใช้ในโครงการ
พอพระราชทานไปแล้ว กระทรวงศึกษาธิการกับกรมอาชีวะก็จะมาช่วยบำรุงรักษาเครื่องเหล่านี้
สำหรับโครงการนี้ผมคิดว่าประสบผลสำเร็จมาก
|
ทีเดียว เพราะเด็กสนใจมาก
เพราะเรามีการสอนด้วยสื่อการสอนพระราชทานเป็นการสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
(CAI) ไม่ใช่เป็นการสอนคอมพิวเตอร์เพื่อรู้คอมพิวเตอร์
แต่เป็นการให้เด็กเรียนรู้วิชาต่างๆ จากคอมพิวเตอร์ ฟังจากรายงานแล้วพบว่าได้ผล
ถึงขนาดมีรายงานว่าเด็กบางคน ทุกทีจะไม่ยอมเข้าห้องเรียน
พอมีคอมพิวเตอร์มายืนรอหน้าห้องเลย เพราะอยากจะเรียนด้วยตัวเอง
|
ความสัมฤทธิผลของโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาของโรงเรียนในชนบทอาจประเมินได้ด้วยรายงานต่างๆ
ที่ล้วนแล้วแต่สร้างความชื่นใจแก่ผู้ที่ทำงานสนองพระราชดำริ
ด้วยเรื่องราวความสำเร็จใจชีวิตจริงของนักเรียนในโครงการที่สามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาชีวิตและสร้างอนาคตของตนเองได้
|
มีเด็กอยู่คนหนึ่ง
เขาเป็นเด็กกะเหรี่ยงชื่อ จอแส่ดี หรือ
น้องท็อป เขาเคยศึกษาอยู่ที่โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์
จังหวัดแม่ฮ่องสอน เด็กคนนี้มีความสนใจด้านคอมพิวเตอร์มากจนครูเห็นแวว และส่งไปแข่งขันตามเวทีต่างๆ
ก่อนจะเรียนจบเขาได้รางวัลมาเยอะมาก เช่น รางวัลชนะเลิศในการประกวดเว็บไซต์
ระหว่างที่รอสอบเข้าเรียนต่อที่สถาบันราชภัฏเชียงใหม่
เขาก็พบประกาศรับสมัครด้านคอมพิวเตอร์ในอินเทอร์เนต
ก็เลยสมัครไป สุดท้ายเขาผ่านการคัดเลือกได้ไปทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ให้แก่บริษัทในต่างประเทศ
หลังจากนั้นเขาก็ส่งอี-เมลมาถึงน้องๆ
ที่โรงเรียนพร้อมรูปที่เขาถ่ายกับหิมะ เขาบอกว่าให้น้องๆ
ตั้งใจเรียนเพราะว่าชีวิตเขา ไม่เคยคิดว่าจะได้ไปเมืองนอก
เพราะเขาอยู่บนเขาที่ทุรกันดารและห่างไกล แต่เมื่อได้เรียนคอมพิวเตอร์
เขาก็ได้ไป เราก็ดีใจไปกับเขาด้วย
|
โครงการเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อคนพิการ ถือเป็นพระมหากรุณาที่พระราชทานแก่ผู้พิการ โดยได้ทรงริเริ่มโครงการดังกล่าวเพื่อให้คนพิการได้มีโอกาสใช้ประโยชน์จากคอมพิวเตอร์เพื่อการปฏิบัติงานการเสริมสร้างความรู้ความบันเทิงตลอดจนพัฒนาทักษะและสร้างอาชีพ
ได้มีการดำเนินงานใน ๒ รูปแบบ
คือพระราชทานอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสมแก่โรงเรียนเด็กพิการ และพระราชทานพระราชานุเคราะห์เป็นกรณีไป
โดยจะพระราชทานพระราชดำริให้ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์
และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค)
ไปศึกษาประเมินเพื่อพิจารณาว่ามีอุปกรณ์ใดที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพการดำรงชีวิต
หลังจากนั้นจะทรงจัดหามาให้ตามความจำเป็น และให้เนคเทคติดตามประเมินผลการใช้เพื่อนำไปขยายผลไปยังกลุ่มผู้พิการอื่นๆ
ที่มีข้อจำกัดในลักษณะเดียวกัน
ทั้งนี้ต่อมาเนคเทคได้มีการจัดทำอุปกรณ์เทคโนโลยีสำหรับผู้พิการในด้านต่างๆ
อาทิ ผู้พิการทางร่างกาย สายตาหูฯลฯ
ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์สำหรับผู้พิการทั้งสิ้น
|
 ตู้หนังสือไอทีพระราชทานที่พระราชทานแก่โรงเรียนในโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ
|
พระองค์โปรดฯให้ทำโครงการนี้โดยมีโรงเรียนศรีสังวาลย์เป็นหน่วยงานหลัก ได้พระราชทานชุดซอฟท์แวร์ Speech Viewer เพื่อช่วยในการฝึกออกเสียงและฝึกพูด สามารถใช้คอมพิวเตอร์
ที่ใช้เสียงสำหรับควบคุมคอมพิวเตอร์ได้ อาจจะควบคุมได้ว่านกมันบินไกลแค่ไหน
ยีราฟวิ่งเร็วแค่ไหน เด็กก็จะออกเสียงโดยไม่รู้ตัวเด็กบางคนพูดไม่ได้
ก็จะมีเครื่องพกพาแล้วก็มีแผ่นที่ดึงออกได้เป็นรูปภาพ ถ้าเด็กต้องการกินข้าว
มันก็จะพูดแทนว่ากินข้าว ถ้าจะไปห้องน้ำก็พูดว่าไปห้องน้ำ
ตอนนี้ก็ใช้มาหลายปีแล้ว กำลังให้บริษัทผลิตในจำนวนที่สูงขึ้น จะเห็นว่าหลายๆ
โครงการไม่ใช่ต้องรีบทำปุบปับ มีรับสั่งว่าให้รอบคอบ ให้เกิดประโยชน์จริง
ไม่ได้ทรงเร่งรัด ผลที่ได้ก็จะมีประสิทธิภาพสูง
|
...อีกกรณีหนึ่งที่สัมพันธ์กัน
ก็คือมีเด็กพิการคนหนึ่งอยู่ที่บ้านปลักปลา จังหวัดนราธิวาส ชื่อเด็กหญิงตอยีบะห์ ลือแม อายุประมาณ
๑๐ กว่าปีแล้ว และเป็นเด็กฉลาด แต่แกเกิดมาไม่มีแขน ไม่มีขา
โชคดีคุณแม่เป็นแม่ครัวที่โรงเรียน พอมาทำงานก็เอาตอยีบะห์ใส่มอเตอร์ไซค์แล้วเอาผ้าคาดมา พอเรียนหนังสือก็มีน้องสาวนั่งข้างๆ
ช่วยพี่สาวเปิดหนังสือ เพราะพี่สาวไม่มีมือเปิด เวลาเขียนหนังสือ ตอยีบะห์ ก็ต้องเอาปากคาบดินสอเขียน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี
ก็มีพระมหากรุณาให้พวกเราลงไปดูว่าไอทีหรือคอมพิวเตอร์จะช่วยแกได้อย่างไร
คณะทำงานจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์
และคอมพิวเตอร์แห่งชาติภายใต้โครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ
ก็นำคอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์พระราชทาน จำนวน ๑ ชุด ไปมอบให้ ด.ญ.ตอยีบะห์ ที่โรงเรียนตามพระราชกระแสรับสั่ง
|
ก่อนหน้าจะได้รับคอมพิวเตอร์ ตอยีบะห์ได้เรียนการใช้โปรแกรม
Microsoft Word หลังเลิกเรียน
ทำให้สามารถจดจำตำแหน่งแป้นพยัญชนะและสระได้
และสามารถใช้คำสั่งเบื้องต้นในการทำเอกสารและสั่งพิมพ์งานได้
และในการพิมพ์บนแป้น
คณะทำงานได้จัดทำอุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกในการกดแป้นคีย์บอร์ดที่เรียกว่า Head Stick เป็นแท่งอะลูมิเนียมที่ยึดติดกับสายคาดศีรษะ
จนเดี๋ยวนี้สามารถใช้งานได้คล่องแคล่ว
ที่รับสั่งให้ดูด้วยอีกอย่างหนึ่งคือเรื่องสรีระ สมัยก่อนแกก้มมาก
ต่อไปหลังจะไม่ดี และเรื่องการช่วยเหลือตนเอง
รับสั่งให้พามาที่ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูสวางนิวาส
สภากาชาดไทยในช่วงปิดเทอมเพื่อให้ฝึกช่วยเหลือตนเอง
นอกจากนี้ยังรับสั่งด้วยว่าเวลานี้ตอยีบะห์อยู่ประถม
น่าจะเตรียมการเรื่องมัธยมด้วย ผมคิดว่าสิ่งนี้ประเสริฐคณะทำงานซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณ เพราะเด็กคนนี้ ถ้าไม่ช่วยแกเลย
ชีวิตจะต้องแย่ การเรียนหนังสือทำให้แกเป็นไทแก่ตัว
ต่อไปอาจจะมีอาชีพของตัวเอง อาจจะเป็นนักเขียนหรือมีอาชีพที่ใช้คอมพิวเตอร์
|

เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโรงเรียนในโครงการพระราชดำริฯ
|
ถ้าถามว่าเด็กใช้คอมพิวเตอร์ทำอะไร
ก็อาจจะใช้ในการเรียนหนังสือด้วย ใช้เพื่อความบันเทิงด้วย เล่นเกมบ้าง
ผ่อนคลาย แต่อย่างน้อยโครงการนี้ก็ทำให้เห็นว่าเด็กพิการไม่ได้ถูกทอดทิ้งในด้านเทคโนโลยี
นอกจากนี้คณะทำงานในโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อคนพิการยังได้จัดอุปกรณ์เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้พิการในด้านอื่นๆ
อาทิ โครงการจัดทำอุปกรณ์สัญญาณเสียงเพื่อช่วยในการเดินทางของคนตาบอด โครงการพัฒนาอุปกรณ์สำหรับช่วยสื่อสารขนาดพกพาสำหรับเด็กที่มีปัญหา
|
เรื่องการออกเสียง
โครงการพัฒนาโปรแกรมช่วยสื่อสารด้วยภาษาไทยสำหรับผู้สูญเสียความสามารถทางการพูด
โครงการพัฒนามัลติมีเดียภาษามือเกี่ยวกับคำศัพท์คอมพิวเตอร์ ฯลฯ
ทั้งหมดนี้ด้วยพระเมตตากรุณาของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ไม่ทรงทอดทิ้งผู้พิการที่ด้อยโอกาสในสังคม
นอกจากนี้ พระมหากรุณายังแผ่ไพศาลไปถึงผู้ด้อยโอกาสให้ทัณฑสถาน มีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้ต้องขังได้รับการ
อบรมและฝึกทักษะในการใช้คอมพิวเตอร์ในระหว่างที่อยู่ในที่คุมขังเพื่อให้สามารถนำความรู้ที่ได้รับนำไปพัฒนาตนเองเพื่อก้าวทันโลก
และสามารถนำไปประกอบอาชีพในอนาคต ทั้งนี้ ได้พระราชทานเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน
๒๐ เครื่อง พร้อมด้วยเครื่องพิมพ์แก่ทัณฑสถานหญิงกลาง
บางเขน เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๐ ในโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศ ทัณฑสถานหญิง
บางเขน
|
ศ.ดร.ไพรัช กล่าวถึงโครงการดังกล่าวว่าเป็นโครงการที่จะช่วยให้ผู้ต้องขังได้พัฒนาตนเองและมีอาชีพ
โดยคณะทำงานได้จัดหลักสูตรคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสมให้แก่ผู้ต้องขังจนกระทั่งประสบผลสำเร็จ
มีผู้ต้องขังที่ได้รับประกาศนียบัตรผ่านการฝึกอบรมไปแล้ว ๓ รุ่น และนอกจากนี้ยังขยายผลโครงการไปยังทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางอีกแห่งหนึ่งด้วย
|
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี
ได้มีพระราชกระแสรับสั่งว่าน่าจะให้ผู้ต้องขังได้ฝึกใช้คอมพิวเตอร์บ้าง
เพราะกลัวว่าถ้าเขาออกมาแล้วจะไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก จึงพระราชทานเครื่องคอมพิวเตอร์
และก็มีครูจากกระทรวงศึกษาไปสอน
จากนั้นก็จะมีงานพิมพ์ที่มาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒส่งเข้าไปให้พิมพ์
หลังๆ ก็มีงานทำส.ค.ส.
เพราะมีผู้ต้องขังที่มีความสามารถด้านศิลปะก็ได้รับพระราชทานเครื่องใหม่เมื่อต้นปี
มีสแกนเนอร์ ก็ทำให้ผู้ต้องขังได้เรียนโปรแกรมที่สูงขึ้น ใช้กราฟฟิค ปรากฏว่าสามารถสร้างรายได้ได้มากว่างานพิมพ์ดีดเยอะ
มีคนข้างนอกมาจ้างทำแผ่นพับ ตกแต่งภาพ มางานกราฟฟิคต่างๆ
เมื่อก่อนรับจ้างพิมพ์รายได้เดือนละสี่ห้าพัน
แต่ตอนนี้เฉลี่ยเดือนละสามหมื่นบาททีเดียว ซึ่งผู้ต้องขังก็มีความสุขเล็กน้อยในนั้นและได้เรียนรู้ไปด้วย
|
นอกเหนือจากโครงการดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น พระราชกรณียกิจด้านเทคโนโลยี ของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี ยังครอบคลุมไปถึงด้านอื่นๆ อาทิ โครงการเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเด็กป่วยในโรงพยาบาล
โครงการสื่อปฏิสัมพันธ์วัฒนธรรมของชาติ เป็นต้น
ทุกโครงการในพระราชดำริล้วนแล้วเป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ด้อยโอกาส
เพื่อนำไปสู่การพัฒนาตนเอง และประเทศชาติต่อไป
ในฐานะข้าราชบริพารที่ได้ทำงานสนองเบื้องพระยุคลบาท
ศ.ดร.ไพรัชได้กล่าวถึงโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า
ผมคิดว่านี่คือเทคโนโลยีเพื่อชีวิต
พระองค์รับสั่งว่าเห็นเทคโนโลยีมามากแล้ว ก็ทรงเห็นว่าเทคโนโลยีสารสนเทศนี่แหละที่มีประโยชน์มากต่อการพัฒนาคน
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีพระราชทานเรื่องการศึกษา
|


รอยยิ้มของเด็กนักเรียนในโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ
|
|
และทรงให้โอกาสคนโดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาสคนพิการ
คนชนบท คนที่เขาไม่มีโอกาส จะเห็นว่าการศึกษาทำให้คนเปลี่ยนฐานะได้
คนที่มาจากชนบท ไม่ได้ร่ำรวย
เขาก็มีโอกาสจะทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนได้ด้วยการศึกษา
พระองค์ท่านได้พระราชทานโอกาสแก่พสกนิกร เวลาไปชายแดนทีไร
ผมก็ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณทุกที
เราได้เห็นเด็กตัวเล็กๆ ปลูกผักได้ เลี้ยงปลาก็ได้
ขณะเดียวกันเขาก็ใช้คอมพิวเตอร์เป็น นี่คือพระมหากรุณาต่อผู้ด้อยโอกาส
ทำให้คณะทำงานมีแรงใจที่จะทำงานถวายอย่างเต็มสติกำลัง
เพราะเราเชื่อว่าสิ่งใดที่พระองค์ท่านทำจะเกิดประโยชน์ต่อพสกนิกรอย่างแน่นอน
เด็กนักเรียนในชนบทห่างไกลที่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้...ผู้ต้องขังในทัณฑสถานที่สามารถสร้างโอกาส
สร้างรายได้จากงานอาชีพด้านคอมพิวเตอร์
หรือแม้กระทั่งเด็กพิการที่สามารถใช้คอมพิวเตอร์เพื่อพัฒนาตนเองจนเสมือนว่าได้มีชีวิตใหม่
ทั้งหมดล้วนเป็นเครื่องยืนยันถึง เทคโนโลยีเพื่อชีวิต ที่พวกเขาเหล่านั้นได้เรียนรู้จากชีวิตของตนเองเช่นกัน
โครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะยังคงดำเนินการเพื่อนำเทคโนโลยีเพื่อชีวิตนี้ไปสู่ผู้ด้อยโอกาสที่ยังคงมีอยู่ทั่วทุกถิ่นแคว้นในประเทศไทยต่อไป
แม้บางเส้นทางจะทุรกันดารหรือเต็มไปด้วยอุปสรรคนานาประการ
แต่พระมหากรุณาในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ก็เปรียบเสมือนดวงประทีปส่องทางสร้างสรรค์ให้พสกนิกรได้ยึดถือเป็นหลักชัย
และนำแนวพระราชดำริไปร่วมกันพัฒนาประเทศชาติให้รุ่งเรืองสืบไป
|
|