อารัมภกถา
        ปาฐกรู้สึกเป็นเกียรติยศอย่างสูงที่ได้มาแสดงปาฐกถาในสามัคยาจารยสมาคม และการที่มาแสดงปาฐกถาดังนี้ไม่ถือว่าเป็นการมาทำบุญคุณแก่สมาคมที่จริงถือเป็นการสนองคุณสมาคมที่ได้ให้เกียรติยศ

         การมาแสดงปาฐกถาเรื่องสุภาษิตต่างๆ นี้ ไม่ใช่นำเอาความรู้ใหม่ๆ อะไรมาให้ เป็นแต่จะฟื้นความรู้เก่าของผู้ฟังเท่านั้น

         สุภาษิตต่างๆ ที่นำมากล่าวมีหลายชาติหลายภาษา แต่ไม่แปลว่าปาฐกจะรู้ภาษาเหล่านั้นไปทั้งหมด สุภาษิตโดยมากนำมาจากคำแปลที่เขาแปลไว้จากภาษาเดิมบ้าง ขอให้ผู้รู้ภาษานั้นๆ รวบรวมให้บ้าง

         ถ้อยคำของสุภาษิต จะหวังให้ถูกต้องตามคำเดิมไม่ได้ อาจเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แม้ของไทยเราก็ยังเปลี่ยนมากๆ เช่น

  "ถ้าจะดัดไม้ ให้ดัดเมื่อยังอ่อน"
"ให้ดัดไม้เมื่อยังอ่อน"
"ไม้อ่อนดัดง่าย"
"ไม้อ่อน บ่ ห่อนหัก"
 

         การเรียนสุภาษิตเป็นการเรียนที่ได้เปรียบและมีประโยชน์มาก นอกจากจะเป็นเครื่องบำรุงความคิดและสอนทางปฏิบัติแล้ว สุภาษิตยังเป็นเครื่องวัดนิสัยใจคอคนได้อย่างถูกต้อง

         คนที่ไม่ชอบสุภาษิต เป็นคนใจร้าย มีภาษิตในพระพุทธศาสนาอยู่ว่า

  นตฺถิทุฏเฐ สุภาสิตํ คนที่ใจร้ายย่อมไม่ชอบสุภาษิต
  เนวทุฏเฐ นโย อตถิ   เมื่อหัวใจร้ายแล้วความคิดที่แยบคายก็ไม่มี
  น ธมฺโม น สุภาสิตํ   ธรรมะก็ไม่มี และสุภาษิตก็เลยไม่มีไปด้วย

อธิบายคำว่าสุภาษิต
         คำพูดที่สละสลวยไม่ใช่คำพูดธรรมดานั้น มีอยู่ 3 อย่าง คือ
         1. สำนวน (Idioms
         2. คำพังเพย (Locutions) และ
         3. สุภาษิต (proverbs)
         สำนวนเป็นคำพูดแต่คำพูดชนิดหนึ่งซึ่งไม่ได้วางหลักวิชาหรือให้คติอย่างไร เช่น

  "หนังหน้าไฟ"
"เกลือจิ้มเกลือ"
"ขิงก็รา ข่าก็แรง"
"มือด้วนได้แหวน"
"ตาบอดได้แว่น"
"หัวล้านได้หวี"
"เรือล่มเมื่อจอด"
"ตาบอดเมื่อแก่"
"อาภัพเหมือนปูน" เหล่านี้เป็นแต่สำนวน
 

         ส่วนคำพังเพย มีความหมายลึกซึ้งกว่าสำนวนมีลักษณะติชมหรือแสดงความเห็นอยู่ในตัว แต่ยังไม่ได้วางหลักความจริงอันเที่ยงแท้ และยังไม่เป็นคำสอนแท้ เช่น
  "ทำนาบนหลังคน"
"ถี่ลอดตาช้าง ห่างลอดตาเล็น"
"เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย"
"A penny wise and a pound foolish"
"L'Economic de bout de chandelle"
"ตีงูข้างหาง"
"จับหมาป่าที่หู" (ลาติน)
"น้ำถึงถ่อ - ถ่อถึงน้ำ"
"Diamond cut diamond"
"Le bon chat le bon rat"
"น้ำถึงไหน ปลาถึงนั่น"
"มีหมาที่ไหน มีหมัดที่นั่น"
 
         ที่เป็นสุภาษิตนั้นจะต้องประกอบด้วยลักษณะ 2 ประการ คือ
         1. ต้องมีข้อความสั้นๆ แต่กินความลึกซึ้ง
         2. ต้องเป็นคำสอน หรือวางหลักความจริง

         ตัวอย่างสุภาษิตที่มีข้อความสั้นๆ แต่กินความลึกซึ้ง
  ไทย (โคลงโลกนิติ) -จ่ายทรัพย์วันละบาทซื้อมังสา ฯลฯ
  เยอรมัน ซื้อถูกกว่าขอ
  รัสเซีย เมื่อเลิกรบแล้ว ก็มีคนกล้ามาก
  ฝรั่งเศส เวลาเกิดทุกๆ คนต้องร้องไห้ แต่เวลาตายไม่มีใครหัวเราะ
         ที่เกิดของสุภาษิตมี 4 ประการ
         1. ความจริงที่โลกยอมรับว่าเป็นจริง
         2. เหตุการณ์สำคัญ
         3. จารีตประเพณี และ
         4. เหตุการณ์เฉพาะบุคคล

         ตัวอย่างในประการที่ 1 คือความจริงที่รู้กันทั่วไป
  บาลี อตฺตาหิ อตฺตโน นาโถ
  ไทย ตนเองเป็นที่พึ่งแก่ตน
  ฝรั่งเศส ช่วยตัวของท่านก่อน แล้วพระเจ้าจะช่วยท่าน
  จีน ไถ, หว่าน, หมั่นรดน้ำ แล้วจึงสวดมนต์อ้อนวอนสวรรค์ เทพเจ้าจะประทานพืชผลให้เป็นแน่แท้
  อังกฤษ ยืนบนส้นเท้าของท่าน
  กรีกโบราณ ถ้าจะขอความช่วยเหลือของพระเจ้าต้องยื่นแขนออกไป ไม่ใช่เอามือกอดอก
  เยอรมัน พระเจ้าช่วยแต่คนที่ทำงาน
  สเปน พระเจ้าช่วยแต่คนที่ตื่นแต่เช้า
  ญี่ปุ่น (1) สวรรค์จะช่วยผู้ที่ช่วยตนเอง
(2) จงทำการจนเต็มสามารถ แล้วจึงคอยโชคลาภที่จะมาถึง
  อิตาเลียน ถ้าหุบปากไว้เสมอ แมลงวันก็จะไม่บินเข้ามา
(In bocca chillsa non entro mai mosca)

  เยอรมัน สัญชาติลิง ยิ่งปีนขึ้นไปสูงเพียงไรก็แสดงว่ามันเป็นลิงมากเข้าทุกที
สัญชาติลา แม้เราจะซ่อนหางมันเสีย หูของมันก็ยังจะชี้แสดงให้เห็นว่าเป็นลาอยู่นั่นเอง
  เปอร์เซีย สัญชาติลา แม้จะพามันไปเมืองเมกกะมันก็คงเป็นลาอยู่นั่นเอง
  รัสเซีย ธรรมดาทองแม้อยู่ในโคลนก็สีสุก
  ไทย ธรรมดานกยูงต้องมีแววที่หาง

  ลาติน ต้องใจกล้าจึงจะมีโชคดี
  ฝรั่งเศส โชคลาภย่อมกรุณาแก่คนใจกล้า
  เปอร์เซีย คนที่กลัวนกกระจอกจะปลูกอะไรไม่ได้
  ไทย ฆ่าควายอย่าเสียดายพริก
  อังกฤษ ถ้าไม่กล้าก็ไม่ได้อะไร

  ไทย
น้ำขึ้นให้รีบตัก
ให้ดัดไม้เมื่อยังอ่อน
  ฝรั่งเศส ให้ตีเหล็กเมื่อยังร้อน
  อังกฤษ ให้เกี่ยวหญ้าเมื่อแดดออก
  เดนมาร์ก ให้กินปลาเมื่อยังสด
  บาลี มา ตํ กาโล อุปจคฺคา

  ฝรั่งเศส มีหัวมากเท่าไร ก็มีความคิดมากเท่านั้น
  อังกฤษ มากคนก็มากความคิด
  ญี่ปุ่น สิบคนก็สิบสี
  ลาติน ต่างหัวก็ต่างคิด
  ไทย ต่างคนก็ต่างใจ

  ไทย วัวไม่กินหญ้าอย่าข่มเขา
  ฝรั่งเศส ลาที่ไม่กระหายจะขืนใจให้กินน้ำไม่ได้
  อังกฤษ ท่านอาจพาม้าไปที่น้ำได้ แต่จะให้มันดื่มไม่ได้

  ไทย สี่ตีนยังรู้พลาด
  ลาติน โฮเมอร์ยังรู้จักนอนหลับ
  ญี่ปุ่น ลิงยังรู้จักตกต้นไม้

         ตัวอย่างในประการที่ 2 คือ เหตุการณ์สำคัญ
  ไทย กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี
  ออสเตรีย ออสเตรียเป็นผู้ปกครองโลก (เป็นภาษาลาตินว่า Austriae est impeare orbi universo เป็นภาษาเยอรมันว่า - Alles Erderich ist Oesterreich unterthan)
  โรมัน
ต้องทำลายคาเธช (Delenda Carthago)
ฮันนิบาลมาอยู่ที่ประตู (Hannibal ad portas)
  อิตาลี อิตาลีสร้างตัวเอง (L'Italie fara'da se)
  อังกฤษ ประเทศอังกฤษต้องปกครอง (Rule Britania)
         ตัวอย่างในประการที่ 3 คือ จารีตประเพณี
  กรีก คนทุกคนจะไปเมืองคอรินซ์ไม่ได้
  ฝรั่งเศส หนทางทุกทางย่อมนำไปสู่กรุงโรม
  เปอร์เซีย สัญชาติลา แม้จะจูงมันไปเมืองเมกกะ มันก็คงเป็นลาอยู่นั่นเอง
  สเปน ให้แต่งงานลูกชายเมื่อท่านต้องการ แต่ให้แต่งลูกสาวเมื่อท่านอาจทำได้
  เดนมาร์ก ให้กินปลาเมื่อยังสด และให้แต่งงานเมื่อยังสาว
  กรีก ฉันรักพลาโตมาก แต่ฉันยังรักความจริงมากกว่าพลาโต (พลาโตเป็นนามของปราชญ์กรีก) (ภาษาลาตินว่า - Anicus Plato sed magis amica veritas)
         ตัวอย่างในประการที่ 4 คือ เหตุการณ์เฉพาะบุคคล
  อินเดีย เพชรที่แตกร้าว ดีกว่าก้อนหินที่บริสุทธิ์
ฟ้าย่อมให้ผลแก่แผ่นดิน ส่วนแผ่นดินมีแต่จะให้ฝุ่นแก่ท้องฟ้า
  อังกฤษ คนโง่อาจตั้งปัญหาในชั่วโมงเดียว ให้นักปราชญ์คิดไม่ออกไปตั้งปี
  บรุตุส ความดีเจ้าเอ๋ย เจ้าก็เป็นแต่เพียงคำพูดคำเดียว
         ลักษณะของสุภาษิตมี 2 อย่าง
         1. เป็นคำสอน
         2. เป็นการแสดงความจริง
         ที่เป็นคำสอน
  ฝรั่งเศส คนที่ตีเมียก็เหมือนตีถุงแป้ง ยิ่งตีมากๆ แป้งก็จะร่วงหมด ลงท้ายเลยเหลือแต่ถุง
  กรีก ถามคนที่เคยเจ็บดีกว่าถามหมอ
  บาลี สกฺกตฺวา สกฺกโต โหติ (ผู้ที่ทำสักการะต่อเขา เขาก็ย่อมสักการะตอบ) ครุ โหติ สคารโว (ผู้ที่เคารพเขา เขาก็เคารพตอบ) ปูชโก ลภเต ปูชิ (ผู้ที่บูชาเขา เขาก็บูชาตอบ) วนฺทโก ปฏิวนฺทนํ (ผู้ที่ไหว้เขา เขาก็ไหว้ตอบ) อตฺโถ อตฺถสฺส นกฺขตฺต กึกริสสนฺติ ตารกา (ประโยชน์เป็นฤกษ์ยามอยู่ในตัว ดวงดาวทั้งหลายจะทำอะไรได้)
         นี่เป็นการแสดงความจริง
  อังกฤษ คนที่อวดดีย่อมทำอะไรน้อยที่สุด
  เดนมาร์ก ความจนกับความรักเป็นของที่ซ่อนได้ยาก
  สเปน ของอะไรที่ใส่น้ำผึ้ง แมลงวันก็ตอมเสมอ
  จีน เมียที่รักผัว มักคอยเหนี่ยวรั้งไม่ให้ผัวทำชั่ว แต่ผัวที่รักเมียมักปล่อยให้เมียเสียคน
         เราอาจแบ่งได้อีกอย่างหนึ่งคือ
          1. เป็นคำกล่าวอย่างตรงๆ
          2. เป็นคำกล่าวเปรียบเทียบ
         คำกล่าวอย่างตรงๆ
  เปอร์เซีย ถ้าอยากให้ใครชมเรา เราต้องชมเขาก่อน
  บาลี อกฺโกเธนชิเน โกธํ (ชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ)
อสาธุ สาธุนา ชิเน (ชนะความชั่วด้วยความดี)
         คำกล่าวเปรียบเทียบ
  ฝรั่งเศส พูดไปเป็นเงิน นิ่งเสียเป็นทอง
  ไทย รู้แล้วพูดไปสองไพเบี้ย รู้แล้วนิ่งเสียตำลึงทอง
เมื่อแกงจืดจึงจะรู้จักคุณเกลือ
  สเปน ความจริงเป็นเหมือนน้ำมัน ย่อมจะลอยขึ้นข้างบนเสมอ
  ไทย ความจริงย่อมหนีความจริงไม่พ้น
  สเปน เราไม่สามารถจะเอาพระอาทิตย์มาชุบทอง หรือเอาพระจันทร์มาชุบเงิน
  ไทย เนื้อหนู เพิ่มเนื้อช้าง
  รัสเซีย ธรรมดาทองแม้อยู่ในโคลนก็สีสุก
  ไทย ธรรมดานกยูงย่อมมีแววที่หาง
คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ
         ประโยคของการรู้ภาษิตมากๆ มี 3 อย่าง
          1. ทำให้ความคิดลึกซึ้ง
          2. ทำให้รู้จักประพฤติตัว
          3. ทำให้ทราบนิสัยใจคอและจารีตประเพณีของมนุษย์ชาติต่างๆ
         ทำให้ความคิดลึกซึ้ง
  เยอรมัน ฆ้องส่งเสียงเรียกคนไปรับประทานเสมอ แต่มันเองไม่ได้รับประทานสักครั้ง
  ไทย มาจากบาลี ช้อนไม่รู้รสแกง
  ไทย มาจากบาลี ช้อนไม่รู้รสแกง

        ขอให้ครูทั้งหลายพยายามให้นักเรียนท่องจำสุภาษิตโลกนิติเป็นโคลงดีมาก แม้ในเวลาสอนภาษาต่างประเทศ เช่น อังกฤษหรือฝรั่งเศส ถ้าได้พบสุภาษิตเข้าควรอธิบายให้ฟังให้ชัดเจน และสั่งให้ท่องจำทันที นักเรียนไม่ต้องลงแรงมากเท่าไรได้แต่ผลดีเกินค่าแรงลงไปนั้นเป็นอันมาก
 
ที่มา: พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ.  ปาฐกถาและคำบรรยาย, กรุงเทพฯ:เสริมวิทย์บรรณาคาร; 2516.

[อ่านบทความย้อนหลัง]