![]() |
|
![]() |
![]() |
|
สิริภัทร ลูกรัก |
จดหมายของลูก พ่อและแม่ได้อ่านแล้วด้วยความเห็นใจ ที่ลูกบอกว่าลำบากในการเดินทางไปเรียนหนังสือด้วยรถประจำทาง อยากจะบอกลูกว่ายังมีเด็กเป็นจำนวนมากในเมืองไทยของเรา ไม่มีแม้แต่รถประจำทางจะใช้เดินทาง พวกเขาต้องเดินไปเรียนหนังสือเป็นระยะทางไกลๆ และต้องเดินกลับด้วย อาหารกลางวันก็ไม่มีกิน น้ำดื่มสารพัดชนิดที่มีอยู่ในกรุงเทพฯ นั้น พวกเขาก็ไม่มี พวกเขาต้องดื่มน้ำตามริมห้วย ริมหนอง น้ำบ่อ อย่างดีก็น้ำฝนจากหลังคาจากหรือแฝก เสื้อผ้าก็ขาด เก่าปุปะ อาหารการกินก็ไม่ค่อยมีคุณภาพ เด็กไทยเป็นโรคขาดอาหารเป็นจำนวนล้าน และต้องเสียชีวิตเพราะขาดอาหารก็จำนวนไม่น้อยเลย เป็นจำนวนแสนทีเดียว |
|
ลูกจะมองอะไรอย่ามองในวงแคบ จงมองในวงกว้าง อย่ามองแต่ตัว ให้มองคนอื่นบ้าง คนที่มองแต่ตัว ก็ย่อมจะเห็นแต่ตัว ไม่เห็นคนอื่นนานๆ เข้าก็จะเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ผู้อื่นบ้างเลย เอาแต่ความสุขสบายของตัวเป็นที่ตั้ง |
|
ลูกขึ้นรถประจำทางในกรุงเทพฯ เวลานี้ ลูกสังเกตหรือไม่ว่าคนเห็นแก่ตัวกันเพียงไร พวกผู้ชายอกสามศอกอย่างลูกนั่นแหละ เวลานี้อกเหลือไม่ถึงคืบ เพราะความเห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ผู้อื่น เด็กนักเรียนเล็กๆ ถือกระเป๋าหนักขึ้นมา เขาก็นั่งเฉย อย่าว่าแต่จะลุกให้เลย แม้เพียงช่วยถือของ ช่วยขยับที่ให้เด็กนั่งก็ไม่สนใจจะทำ ช่างใจไม้ไส้ระกำเสียจริงๆ ความเป็นสุภาพบุรุษ สุภาพชน ไม่รู้ว่าหายไปไหนหมด มันเป็นสมัยที่ผู้ชายมีความเป็นลูกผู้ชายน้อยลงไปมาก ไว้ผมก็คล้ายผู้หญิง มองจากข้างหลังไม่รู้ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แถมยังใส่สายสร้อยแบบผู้หญิงเข้าอีก เอาเปรียบผู้หญิงและรังแกผู้หญิงก็มีมาก |
|
พ่อไม่ปรารถนาให้ลูกของพ่อเป็นอย่างนั้น แต่ปรารถนาให้ลูกเป็นผู้ชายจริงๆ เป็นคนเสียสละ มีความอดทน เข้มแข็งบึกบึน ไม่ท้อถอยง่ายๆ แต่ต้องมีความสุภาพอ่อนโยน คนสุภาพอ่อนโยนไม่ได้หมายความว่า เป็นคนอ่อนแอ ในทำนองเดียวกัน คนเข้มแข็งไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีท่าทีก้าวร้าวหยาบคาย ไร้คุณสมบัติของผู้ดี ลูกต้องนำเอาคุณสมบัติทั้งสองประการนี้มารวมอยู่ในตัวลูกให้ได้ คือเข้มแข็งอดทนและสุภาพอ่อนโยน รู้จักเกรงใจผู้อื่นโดยเฉพาะสุภาพสตรีต้องเกรงใจเขาให้มาก ปฏิบัติต่อเขาอย่างนุ่มนวล สุภาพที่สุด เพราะเพศหญิงเป็นเพศที่ละเอียดอ่อนโดยธรรมชาติ ต้องการความละมุนละม่อมและความเอาใจใส่อย่างดี แต่ทั้งนี้ลูกอย่าเข้าใจผิดว่าผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ เพราะความจริงแล้วผู้หญิงมีความอดทนและความเสียสละอย่างสูงยิ่ง พ่อหมายถึงผู้หญิงที่ดี ได้รับการกล่อมเกลาโดยคุณธรรมแล้ว การอุ้มท้องลูกถึง ๙ เดือนเต็มๆ ต่อคนก็ดี การคลอดบุตรซึ่งมีความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสก็ดี เป็นการแสดงถึงความอดทนอย่างยิ่งยวดของสตรี แต่ก็มีความชื่นชมโสมนัสแฝงเร้นอยู่ด้วย จากความรู้สึกถึงความเป็นแม่ มีใครบ้างเล่าในโลกนี้ที่จะมีความอดทนและเสียสละในการเลี้ยงดูบุตรเหมือนอย่างเพศแม่ ข้อความที่พ่อพูดถึงนี้อย่างน้อยที่สุดก็มีหญิงคนหนึ่ง เป็นพยานหลักฐานที่พ่อพอจะอาศัยอ้างอิงได้ แม่ของลูกนั่นเอง |
|
พ่อพูดเรื่องนี้แทรกเข้ามาเพื่อให้ลูกตระหนักถึงภารกิจอันสำคัญของสตรีเพศ เพื่อลูกจะได้ปฏิบัติต่อเขาอย่างสุภาพอ่อนโยน ไม่เอาแต่ใจตัว ไม่เห็นแก่ได้ ไม่ข่มเหงน้ำใจเขาเมื่อมีการติดต่อเกี่ยวข้อง และพ่อเชื่อว่าถึงอย่างไรๆ ลูกก็ต้องมีเรื่องติดต่อเกี่ยวข้องกับสตรีอยู่ตลอดชีวิตไม่แง่ใดก็แง่หนึ่ง และโดยธรรมดาต่อไปภายหน้าลูกจะต้องแต่งงาน ซึ่งหมายถึงการอยู่ร่วมสุขร่วมทุกข์กับหญิงคนใดคนหนึ่งที่ลูกตัดสินใจเลือกแล้วไปตลอดชีวิต การแต่งงานเป็นการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งของชีวิต เพราะฉะนั้นอย่าผลีผลามด่วนได้ ดูเสียให้ดีคิดให้รอบคอบ อีกครั้งหนึ่ง คือการตัดสินใจเลือกงานอาชีพที่ถูกกับอุปนิสัยและความถนัดของตนอันเป็นเหตุให้รักงาน ถ้าตัดสินใจถูกทั้งสองครั้งก็จะมีความสุขความเจริญ ความสงบราบรื่นไปตลอดชีวิต ถ้าไม่มีเรื่องอื่นเข้ามาตัดรอน ถ้าตัดสินใจถูกเรื่องเดียวก็จะมีความสำเร็จและความสุขเพียงครึ่งเดียว |
|
เรื่องการงานและการแต่งงานนี้ อันที่จริงยังไม่ถึงเวลาสำหรับลูก แต่พ่อพูดล่วงหน้าให้รู้ไว้บ้างก็ไม่เสียหายอะไร |
|
ขอย้อนกลับไปพูดเรื่องการเดินทางไปเรียนหนังสืออีกสักเล็กน้อย ตามจดหมายของลูกว่าจะขอบพระคุณเป็นอย่างสูงถ้าคุณพ่อหรือคุณแม่จะกรุณาซื้อรถยนต์เล็กๆ ให้สักคันหนึ่ง เมื่อลูกจบชั้นมัธยมศึกษาและสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้วนั้น พ่อและแม่ปรึกษากันแล้ว เห็นใจในการที่ลูกต้องลำบากในการเดินทาง แต่พ่อต้องการให้ลูกลำบากในวัยนี้ วัยที่มีกำลังวังชาสมบูรณ์ วัยที่จะต้องสร้างจิตใจให้บึกบึนในการต่อสู้ในสนามแห่งชีวิต เพื่อลูกจะได้สบายในวัยที่ควรจะได้พักผ่อน |
|
ขอให้ลูกรู้ไว้ด้วยว่า ในสนามแห่งชีวิตนั้น ลูกจะต้องต่อสู้เพียงคนเดียว ไม่เหมือนสนามฟุตบอลซึ่งลงต่อสู้กันเป็นทีม แพ้ก็แพ้ทั้งทีม ชนะก็เหมือนกัน แต่ในสนามแห่งชีวิตนี้ เมื่อลูกพ่ายแพ้ต่อชีวิต ลูกจะโทษใครไม่ได้ และคนทั้งหลายที่ดูอยู่ก็จะโทษลูกเพียงคนเดียว ถ้าลูกชนะเวทีชีวิต คนทั้งหลายอาจจะยกความดีให้พ่อแม่ครูบาอาจารย์บ้าง ในฐานะเป็นผู้อบรมสั่งสอน ชี้แนะแนวทาง แต่คนที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดก็คือตัวลูกนั่นเอง เมื่อพ่ายแพ้ต่อชีวิต เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง จะไม่มีใครยอมแพ้หรือร่วมแพ้กับลูกด้วย อย่างดีเขาก็มองอย่างเวทนาสงสาร เพราะฉะนั้นลูกควรจะต้องสร้างจิตใจให้บึกบึน อดทนต่อสู้เพื่อเป็นพื้นฐานอันดีแห่งชีวิตของลูกเอง อย่าคอยแต่เหลียวหาที่พึ่งจากภายนอกหรือจากผู้อื่น พยายามทำตนให้เป็นที่พึ่งแก่ตนให้ได้โดยรวดเร็วตามสมควรแก่วัย เพราะฉะนั้นเรื่องซื้อรถยนต์ให้ลูกขี่ไปเรียนในมหาวิทยาลัยนั้นเป็นสิ่งที่ลูกหวังมากเกินไปจากพ่อและแม่ ลูกก็เห็นอยู่แล้วว่า พ่อแม่ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยจนใช้เงินได้โดยไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง หรือเอามาหว่านเล่นเพื่อความสุขความสำราญของลูก ส่วนตัวเองยอมทุกข์ทรมารแทบเลือดตากระเด็น เพราะฉะนั้น เรื่องนี้พอสรุปได้ว่า ลูกไม่ต้องหวังอีกต่อไป |
ถ้าสมมุติว่าพ่อมีเงินพอที่จะซื้อรถยนต์ให้ลูกได้ พ่อก็คงไม่ซื้อให้ เพื่อให้ลูกหลงระเริงอยู่ในหมู่เพื่อนฝูง พาเพื่อนเที่ยว พาผู้หญิงโฉบไปฉายมา อวดโก้ ลงท้ายก็เกียจคร้านเรียนหนังสือ ด้วยคาดคิดอย่างนี้พ่อจึงไม่ซื้อรถยนต์ให้ลูกแน่นอน เรื่องอย่างนี้ลูกควรจะหาเงินซื้อเองเมื่อเรียนหนังสือจบแล้ว จะได้เห็นด้วยว่าการหาเงินนั้น เป็นความยากลำบากเพียงใด การเก็บเงินเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัวนั้น ต้องมีความอดทนและเอาชนะตนเองเพียงใด คนอ่อนแอเอาชนะตัวเองไม่ได้ ยากนักที่จะสร้างตัวได้ เพราะทนต่อสิ่งยั่วยวนต่างๆ ไม่ได้ |
อีกข้อหนึ่ง ข้อนี้ยิ่งร้ายใหญ่ คือลูกบอกว่า ถ้าสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ขอความกรุณาให้คุณพ่อคุณแม่ส่งลูกไปเรียนเมืองนอก จะไปยุโรปหรืออเมริกาก็ได้นั้น ลูกเห็นพ่อแม่เป็นบ่อเงินบ่อทองหรืออย่างไรที่จะขุดเอาได้ตามใจชอบ การไปเรียนเมืองนอกเสียค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อย พ่อคงไม่มีปัญญาหาเงินมาส่งลูกได้ เพราะฉะนั้น อย่างลูกนี้จะไปเรียนเมืองนอกก็โดยวิธีใดวิธีหนึ่ง ๒ วิธี คือ สอบชิงทุนได้ หรือไปทำงานและเรียนไปด้วย พ่อเห็นว่าลูกควรตั้งใจเรียนให้ดีในชั้นมัธยม เมื่อมีความรู้ดีในชั้นมัธยม ตามชั้นที่ตัวเรียนอยู่ ถึงคราวสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็น่าจะสอบเข้าได้ สมมุติว่าลูกมีความรู้ดีในชั้นมัธยม แต่สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ เพราะวิธีออกข้อสอบหรือวิธีวัดผล เป็นวิธีที่ลูกไม่ถนัดจึงพลาดไปก็อย่าเสียใจท้อถอยหรือสิ้นหวัง มหาวิทยาลัยรามคำแหงก็ยังมี สุโขทัยธรรมาธิราชก็ยังเปิดรับลูกอยู่ ถ้าลูกมีความพากเพียรเรียนจริง ไม่เหลวไหลเสียเอง มหาวิทยาลัยทั้งสองนี้ก็ให้ปริญญาแก่ลูกได้ และนำไปสมัครงานในที่ต่างๆ ได้เช่นกัน มันอยู่ที่ความสามารถของลูกเองต่างหาก |
|
อนึ่ง ในการทำงานนั้น นายงานเขาดูที่การทำงานของลูกมากกว่าดูที่มหาวิทยาลัยซึ่งลูกสำเร็จมา ถ้าลูกทำงานดี มีศีลธรรม ประพฤติตนดี มีความขยันหมั่นเพียร มีสติรอบคอบ ประกอบแต่การที่สุจริต พิจารณาก่อนแล้วจึงทำลงไป มีความสำรวมระวังกาย วาจา ใจ ของตนอยู่เสมอ ไม่พูดพล่าม หยิ่งยโส อวดดี ยกตนข่มผู้อื่น แต่พยายามเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ปกปิดความดีของตนไว้ให้มาก อย่าโอ้อวดคุณวิเศษอะไรของตนเองให้มากนัก หรือไม่อวดเลยยิ่งดี ความดีของเรานั้นให้คนอื่นเขาพูดถึง อย่าพูดเสียเอง คนที่มีคุณสมบัติดังกล่าวมา เรียกว่ามีชีวิตอยู่โดยธรรมหรือด้วยธรรม เป็นธรรมชีวีบุคคล ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญว่าจะเป็นผู้เจริญ |
|
โลกนี้ยังต้องการคนดีอยู่อีกมา ลูกอย่านึกว่าเพียงแต่มีปริญญาแล้วจะประสบความสำเร็จทุกอย่างที่ประสงค์ ลูกจะต้องมีคุณสมบัติอย่างอื่นอีกเป็นอันมากเป็นอลังการ จึงจะดำเนินชีวิตไปได้ด้วยดี ปราศจากคุณงามความดีเสียแล้ว ถึงจะมีทรัพย์ มียศ มีตำแหน่งหน้าที ก็หามีความสุขที่แท้จริงไม่ เพียงแต่หลอกตัวเอง และถูกหลอกให้เพลิดเพลินไปวันๆ ชีวิตหาแก่นสารอะไรมิได้ |
|
ในชั้นมัธยมนี้เองก็มีวิชาศีลธรรม หรือวิชาพระพุทธศาสนาให้เรียนอยู่เป็นอันมาก ขอให้ลูกสนใจศึกษาเป็นพิเศษ วิชาศาสนาหรือศีลธรรมนั้น คะแนนในการสอบน้อยก็จริง แต่คนทั้งหลายคอยให้คะแนนเราอยู่ตลอดเวลามากกว่าวิชาใดๆ วิชานี้มีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตเป็นอันมาก เป็นความจำเป็นชนิดที่ขาดไม่ได้ทีเดียว อย่าให้คนต่างชาติเขาหัวเราะเยาะเราได้ว่า มีศาสนาที่ดีแล้วไม่รู้จักสนใจจำเอาคำสอนนั้นมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ดังที่ท่านศาสตราจารย์หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้เขียนไว้ว่า |
|
ฝรั่งเขาหัวเราะเยาะเราว่า |
เสียแรงมีรัตนาจำนวนสาม (พระรัตนตรัย) |
แต่เหมือนไก่ไม่นิยมชมของงาม |
มัวตะกละตะกลามหาของกิน |
หมายความว่าการศึกษาที่จัดอยู่ |
พาไปสู่อาชีพเสียทั้งสิ้น |
ปริญญาท่วมท้นล้นแผ่นดิน |
แต่ขาดศีลธรรมประจำตัว |
ถ้าเรียนหนังสือกันเพียงเพื่อประกอบอาชีพทำมาหากินเท่านั้นแล้ว มนุษย์จะเป็นผู้ประเสริฐกว่าสัตว์โลกประเภทอื่นได้อย่างไร เพราะสัตว์อื่นแม้ไม่ต้องเรียนหนังสือมันก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้ และดูเหมือนว่าจะอยู่สบายกว่ามนุษย์เสียอีก เช่น นก เป็นต้น บินไปไหนๆ ก็ได้ตามปรารถนา ไม่ต้องเบียดกัน แย่งกันในรถประจำทางอย่างที่ลูกเบื่อหน่ายอยู่ |
|
เพราะฉะนั้นการศึกษาจึงควรจะมีจุดมุ่งหมายสูงกว่าเพียงเพื่อทำมาหากินแต่ประการเดียว ควรจะมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีจิตใจสูงเป็นอารยชน คือคนที่พยายามลดละกิเลสอันเป็นสิ่งดึงจิตใจให้ตกต่ำ |
|
ทั้งนี้ พ่อไม่ได้หมายความว่า การทำมาหากินนั้นไม่สำคัญ พ่อทราบดีว่า ปัจจัย ๔ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมนุษย์ การขาดแคลนปัจจัย ๔ ทำให้มนุษย์หงุดหงิดรำคาญใจ กังวลถึงอนาคตและรู้สึกเป็นทุกข์สารพัดเรื่อง แต่การฟุ่มเฟือยในเรื่องปัจจัย ๔ ก็ทำให้มนุษย์เสียคนได้ง่าน หรือจะเรียกว่า ทำให้คนมีความเป็นมนุษย์น้อยลงก็ได้ |
|
ท่านมหาตมะ คานธีกล่าวว่า "การเศรษฐกิจที่แท้จริง ย่อมไม่ขัดกับกฎเกณฑ์ทางศีลธรรมอันสูงสุด เช่นเดียวกับศีลธรรมที่แท้จริง ต้องเป็นเศรษฐกิจที่ดี พร้อมกันไปในตัว" |
พ่อตีความวาทะของท่านคานธีว่า เศรษฐกิจที่แท้จริงต้องไม่มีการเอารัดเอาเปรียบกัน แต่ทำกันด้วยความเสียสละเพื่อความสุขของผู้ที่เกี่ยวข้อง เห็นแก่ผู้อื่นพอๆ กับที่เห็นแก่ตัวเอง จึงไม่มีการเอาเปรียบ นี่ก็เป็นศีลธรรมอันสุงสุดอยู่ในตัว เมื่อเป็นดังนี้ศีลธรรมที่แท้จริง ต้องเป็นศีละรรมเพื่อความเป็นอยู่ดีของมนุษยชาติ เพื่อสวัสดิภาพของสังคมนั่นเอง ไม่ใช่ศีลธรรมที่ล่องลอยอยู่เหนือความเป็นจริงในชีวิตมนุษย์ ซึ่งจัดเป็นความเพ้อฝัน ไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตจริง ศีลธรรมกับเศรษฐกิจจะต้องไปด้วยกันเสมอ ต้องเดินเคียงคู่กันไปจึงจะให้ความผาสุกอันสมบูรณ์แก่มนุษย์ได้ |
ขอให้ลูกลองคิดดู ถ้ามนุษญ์ในสังคมของเรามีพอกินพอใช้กันแล้ว หรือต่อให้เหลือกินเหลือใช้ด้วย มนุษย์จะไม่มีปัญหาอย่างนั้นหรือ มนุษย์ยังคงทะเลาะกัน ยังคงแย่งชิงทรัพย์สินกัน เบียดเบียนฆ่าฟันกัน ริษยาพยาบาทต่อกัน ถ้าฝนตกลงมาเป็นทองคำ มนุษย์ก็คงจะยื้อแย่งฆ่าฟันกันล้มตายเป็นอันมาก พระพุทธเจ้าตรัสว่า แม้ภูเขาจะเป็นทองคำทั้งภูเขาก็ยังไม่พอแก่ความต้องการของคนๆ เดียว คงจะไปแย่งภูเขาทองกัน ฆ่าฟันกันตายเหมือนในภาพยนตร์เรื่องขุมทองแมคเคนนาเป็นแน่ |
|
เพราะฉะนั้นการศึกษาจะต้องพัฒนาจิตใจของมนุษย์ให้ลดละความโลภ ความโกรธ และความหลงไปด้วย จึงจะบรรลุเป้าหมายแห่งการศึกษานั้น มิฉะนั้นแล้ว การศึกษานั่นเองจะหันกลับมาทำลายมนุษย์เอง ที่พระพุทธเจ้าทรงเรียกว่าการศึกษาเหมือนจับงูพิษ หมายความว่า คนที่จับงูพิษข้างหาง งูพิษย่อมเอี้ยวตัวมาฉกกัดผู้จับอาจถึงตายหรือปางตายฉันใด การศึกษาที่ทำไปเพียงเพื่อสนองตัณหาหรือกิเลส ก็ฉันนั้น ย่อมทำลายมนุษย์มากกว่าจะส่งเสริมมนุษย์ให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ |
จริยธรรมเป็นสิ่งสำคัญในสังคมมนุษย์ แต่มนุษย์มองไม่ค่อยเห็นความสำคัญของจริยธรรมนั้น คล้ายคนมองเห็นความสวยงามของต้นไม้ แต่มองไม่เห็นรากซึ่งสำคัญยิ่งในความเจริญเติบโตสวยงามของต้นไม้นั้น |
|
ถ้าคนไทยทั้งประเทศอดอาหารกันสักวันหนึ่งก็คงไม่เป็นโทษร้ายอะไร ดีเสียอีกที่จะเก็บอาหารไว้ได้ไม่น้อย แต่ถ้าคนไทยทุกคนเลิกถือศีล ๕ เพียงข้อใดข้อหนึ่งสักวัน ตัวอย่างเช่น ศีลข้อ ๑ คนคงฆ่ากันตายเป็นอันมาก เดือดร้อนกันทุกหัวระแหง ตัวอย่างนี้ทำให้มองเห็นได้ว่าจริยธรรมเป็นรากฐานแห่งความเรียบร้อนสงบสุขในสังคมเพียงไร |
|
ความกตัญญูกตเวที คือการรู้คุณคนและตอบแทนคุณคน เป็นจริยธรรมสำคัญอย่างหนึ่งซึ่งควรปลูกฝังให้มีขึ้นในใจของคนทุกคน ตัวลูกเองก็เหมือนกัน ต้องพยายามจดจำความดีของผู้อื่นที่เขามีน้ำใจทำให้ลูกแต่อย่ารีบตอบแทนเร็วเกินไป เพราะการรีบตอบแทนเป็นความอกตัญญูอย่างหนึ่ง หมายความว่ารีบตอบแทนให้เสร็จๆ ไป จะได้ไม่ต้องมีอะไรกันอีก ไม่ต้องมีเยื่อใยต่อกัน การตอบแทนบุญคุณคนเป็นสิ่งต้องทำ แต่ต้องทำตามโอกาสอันควร โอกาสย่อมมีอยู่เสมอสำหรับผู้แสวงหาโอกาสและไม่ละเลยโอกาสที่มาถึงในการทำความดี |
|
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าบุคคล ๒ จำพวกหาได้ยาก คือ ๑) บุพการี ผู้อุปการะให้ก่อน คือทำความดีให้ด้วยใจเมตตากรุณา หวังความสุขต่อเรา ๒) กตัญญูกตเวที ผู้รู้อุปการะที่ท่านทำให้แล้วและตอบแทน |
|
ที่ว่าหาได้ยากนั้นเพราะมีน้อย ลูกลองคิดดูว่าในจำนวนพลโลกประมาณ ๓-๔ พันล้านคนเวลานี้ มีกี่คนที่ทำอุปการะแก่ลูกด้วยน้ำใจอันงาม ด้วยความรักและปรารถนาให้ลูกเป็นสุข ยิ่งคนกตัญญูกตเวทียิ่งหาได้ยากขึ้นไปอีก ในร้อยคนพันคน จะเจอสักคนหนึ่งกระมัง |
ลูกหลานส่วนมากก็จ้องแต่จะแสดงความกตัญญูต่อปู่ย่า ตายาย ที่มีทรัพย์สมบัติและชื่อเสียง ยศศักดิ์ บางทีเขาอาจกตัญญูต่อทรัพย์สินของท่านดอกกระมัง ส่วนพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ที่ไร้ทรัพย์สินไม่ค่อยมีลูกหลานคนใดเอาใจใส่เหลียวแล คงปล่อยให้ลำบากยากเข็ญไปตลอดชีวิต พอเจ็บป่วยกินอะไรไม่ได้แล้วก็เอาของไปให้กันอย่างล้นหลาม พอตายลงก็เศร้าโศกเสียใจ คร่ำครวญรำพัน อย่างนี้ไม่ถูกต้อง ลูกต้องมองดูธรรมชาติให้ดีแล้วเอาอย่างธรรมชาติ เช่น ที่ดินซึ่งแตกระแหง เมื่อเราหยดน้ำลงไปมันดูดซึมเอาไว้หมด เพราะมันกำลังขาดแคลนและต้องการน้ำอย่างยิ่ง แต่ถ้าลูกเอาน้ำสักถังหนึ่งเทลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา จะมีความหมายอะไร ลูกจะทำความดีอะไรขอให้ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจและด้วยเหตุผลบริสุทธิ์ก็จะได้ประโยชน์ และได้รับผลอย่างบริสุทธิ์เช่นเดียวกัน |
ความไม่กตัญญูนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เองในสันดานของคน เปรียบเหมือนต้นหญ้าซึ่งมีอยู่ดกดื่น ถอนทิ้งแล้วก็ขึ้นอีก ไม่ปรารถนาให้ขึ้นก็ขึ้นแต่ความกตัญญูกตเวทีนั้นเปรียบเหมือนดอกกุหลาบ ต้องทะนุบำรุงรดน้ำพรวนดิน ระวังรักษาจึงจะขึ้นสวยงามได้ ฉันใดก็ฉันนั้น เพราะฉะนั้นเรื่องความกตัญญูจึงเป็นสิ่งที่ต้องสอนกันให้รู้ด้วยการชี้โทษของความอกตัญญูและชี้คุณของความกตัญญู ปลูกฝังโดยวิธีทำตัวอย่างให้ดูในเรื่องของความกตัญญูกตเวที เมื่อเป็นเช่นนี้ คนถ้าไม่ใจหินจริงๆ ก็ย่อมสามารถเพาะความกตัญญูกตเวทีให้เกิดขึ้นในใจได้ |
พ่อพูดกับลูกมายืดยาวแล้ว ขอพูดเป็นประการสุดท้ายว่าขอให้ลูกตั้งใจที่จะเป็นคนดี หมั่นศึกษาหาความรู้ เวลาปิดเทอมแต่ละครั้งนั้นควรใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ด้วยการอ่านหนังสือต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในการเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจในปัญหาต่างๆ ลูกสามารถคุยกับนักปราชญ์ได้ทุกคนโดยการอ่านหนังสือของท่าน ข้อเขียนหรือบทความของท่านพยายามปฏิบัติตามคำแนะนำตักเตือนสั่งสอนของท่าน แล้วลูกจะไม่เสื่อมมีแต่ความสุขความเจริญ ขอให้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ทุกวัน อย่าฆ่าเวลาหรือพร่าเวลาเสีย คนใดฆ่าเวลาบ่อยๆ เวลาจะย้อนกลับมาฆ่าเขาให้เป็นคนตายทั้งเป็น โดยเป็นคนอยู่อย่างไร้ประโยชน์ กลับเป็นโทษแก่ตนเองและสังคมอีกด้วย |
พ่อและแม่ไปอยู่ต่างจังหวัดเพียงชั่วคราว อีกไม่นานนักเราจะได้อยู่พร้อมหน้าทุกคน ทั้งจันทร์ลอย รวมพร และลูก เป็นความอบอุ่นและผาสุกของครอบครัวที่จะได้อยู่พร้อมหน้ากัน และมีความรักระลึกถึงอยู่เสมอ ระหว่าง พ่อ แม่ และลูกๆ |
|
ด้วยรักและปรารถนาจะให้เป็นสุข |
พ่อ |
ที่มา
: กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ.
จดหมายถึงลูก:หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดพระพุทธศาสนาและจริยธรรม .--กรุงเทพฯ
: |
อัจฉรา แผ่นทอง : ออกแบบ จัดทำ |