รวมพร  ลูกแม่

จดหมายของลูกเล่าถึงเรื่องความวิตกกังวลและความหวาดกลัวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในใจลูก แม่อ่านแล้วรู้สึกว่าเรื่องต่างๆ ที่กลัวนั้นล้วนเป็น "ภาพลวงในดวงใจ" ของลูกเองทั้งสิ้น ไม่มีอะไรจริงจัง และมันมาแย่งเอาความสุขที่ลูกควรจะมีไปหมดสิ้น ลูกจึงต้องมีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมานแสนสาหัส

 

เรื่องแรก  ลูกกลัวสอบตกในปลายปี จนกลางคืนแม้ถึงเวลาอันควรจะนอนแล้วลูกก็ยังนอนไม่หลับเพราะกังวลแต่ตำรา บางครั้งเข้านอนแล้วต้องกระโดดผลุงขึ้นจากเตียงเพราะรู้สึกว่าลืมข้อความบางตอนที่ท่องไว้เมื่อก่อนเข้านอน

 

ความขยันหมั่นเพียรเป็นความดี ข้อนี้ใครๆ ก็เห็นพ้องต้องกันทั้งนั้น แต่ถ้ามากเกินไปก็ไม่ดี และยิ่งมีความหวาดกลัวความวิตกกังวลแทรกเข้ามาครอบงำด้วยแล้ว จะยิ่งเป็นผลเสียมากขึ้น ความเอาใจใส่ในบทเรียนก็เป็นความดี แต่ถ้าจะต้องเป็นบ้าเพราะเรียน แม่ว่าเลิกเรียนเสียดีกว่า เพราะถ้าเรียนจบพร้อมกับเป็นบ้าก็ไม่มีประโยชน์อะไร เสียเงินเสียเวลาไปมากมายแล้วในการเรียน ยังต้องมาเสียเรื่องรักษาบ้าอีก อาจรักษาหายหรือไม่หายก็ไม่แน่แม่ต้องเสียลูกไปคนหนึ่ง ซึ่งแม่ไม่ปรารถนาให้เป็นเช่นนั้นเลย บางคนเรียนอย่างเดียวไม่เอาใจใส่ต่อสุขภาพอนามัยของตน พอเรียนจบก็ตาย อย่างนี้น่าเสียดายเหลือเกิน

 

รวมพรลูกรัก ทำไมลูกไม่ก้าวไปทีละก้าว หน้าที่และภาระเฉพาะหน้าของลูกเวลานี้ก็คือ การทำให้เห็นแจ้งซึ่งบทเรียนแต่ละบทแต่ละตอนค่อยเรียนค่อยรู้ไปทีละน้อยอย่างหนักแน่นมั่นคง สุภาษิตจีนที่ว่า "ผู้ก้าวอย่างละมุนละม่อมย่อมก้าวได้ไกล" นั้น ขอให้ลูกนำมาเป็นคติดำเนินชีวิตได้ สุภาพษิตทางพระพุทธศาสนาก็มีว่า
"อปิ อตรมานานํ ผลาสา ว สมิชฺฌติ"
 ผลสำเร็จย่อมมีแก่ผู้ไม่เร่งร้อนเกินไปคือรู้จักรอคอย

 

เวลานี้ลูกยังไม่ต้องคิดถึงวันสอบผลายปี จะได้หรือจะตกเป็นผลรวมแห่งความสามารถที่ลูกสั่งสมไว้แต่ละวันแต่ละชั่วโมง ปัญหาเฉพาะหน้าของลูกคือเรียนให้ดีที่สุดในชั่วโมงนี้ในวันนี้ แม้แต่พรุ่งนี้ก็ช่างมันก่อนอย่านำมันมากวนในชั่วโมงนี้ของลูก เพราะชั่วโมงที่มีค่ามากที่สุดของลูกคือชั่วโมงนี้ ถ้าลูกทำได้อย่างนี้ทุกชั่วโมง ลูกจะเป็นนักเรียนที่ดีที่สุด ผลการสอบปลายปีไม่ต้องห่วง เพราะพอถึงชั่วโมงสอบปลายปีเข้าจริงลูกจะเป็นนักสอบที่ดีที่สุดและเก่งที่สุด

 

แม่มีอาชีพเป็นครู ลูกรู้แล้ว แม่เห็นนักเรียนของแม่บางคนบางห้องเรียนหนังสือแล้วแม่ชื่นใจจริงๆ ท่าทางที่นั่งเรียนหนังสือของเขาเสมือนหนึ่งว่าคอยจ้องเก็บสมบัติอันล้ำค่าซึ่งหล่นจากปากครู แม่คิดต่อไปว่าขนาดแม่เป็นครูของเขามีความสัมพันธ์กับเขาเพียงระยะเวลาสั้นเพียงปีสองปียังปลาบปลื้มถึงเพียงนี้ ขณะที่แม่เขียนจดหมายถึงลูกอยู่นี้ แม่ยังรู้สึกปิติจนซาบซ่านไปทั้งกายและใจ

 

เธอเหล่านั้นเป็นลูกของคนอื่นยังก่อให้เกิดความสุขแก่แม่ถึงปานนี้ ถ้าเป็นลูกของแม่แท้ๆ และทำให้แม่รู้สึกชื่นชมได้อย่างนี้ แม่จะมีความชื่นสุดสักเพียงไหน เพราะฉะนั้นลูกที่ประพฤติตนดี จึงมีชื่อว่ามอบสวรรค์และอาหารทิพย์ให้พ่อแม่ทุกวัน ส่วนลูกที่ประพฤติชั่ว ชื่อว่าช่วยกันผลักพ่อแม่ลงนรก มีแต่ความร้อนใจ

 

ความจริงลูกนั้นท่านจัดไว้ ๓ ประการ อัตรชบุตร ลูกที่เกิดแต่ตนเอง ทินกบุตร ลุกที่เขาให้ คือลูกบุญธรรม และอันตวาสิกบุตร ลูกศิษย์

 

ในสมัยโบราณ เมื่อคนยังศึกษาเล่าเรียนกันอยู่จำนวนน้อย ความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์กับครูเป็นไปหนักแน่นลึกซึ้ง ศิษย์รู้สึกต่อครูเสมือนมารดาบิดาของตน ส่วนครูก็รู้สึกต่อศิษย์เหมือนลูกของตน จนเรียกกันติดปากมาจนบัดนี้ว่า "ลูกศิษย์"

 

เกี่ยวกับเรื่องการสอบปลายปีของลูกนั้น แม่ขอเตือนว่าความกลัวสอบตกที่มีมากเกินไปนั่นแหละ จะทำให้ลูกสอบตก หาใช่วิชายากหรืออย่างอื่นไม่ เพราะฉะนั้นลูกจงรีบทำชั่วโมงนี้และวันนี้ให้ดีที่สุดเสียแต่บัดนี้เป็นต้นไปทีเดียว

 

ลูกกลัวและวิตกกังวลต่อไปอีกว่า ถ้าสอบผ่าน ม.๖ แล้ว สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ จะทำอย่างไรจะมิเคว้างคว้างอยู่หรือ แม่คิดว่า ความกลัวของลูกรุดหน้าเกินไป อย่าไปกังวลเลย ถ้าเปรียบวันหนึ่งเป็นก้าวหนึ่งก็ยังมีอีกหลายก้าวนักที่ลุกจะไปถึงจุดนั้น ขอให้ลูกหันมาสนใจกับก้าวที่อยู่เฉพาะหน้าของลูกเวลานี้เถิด เพราะก้าวนี้แหละที่จะนำไปสู่ก้าวนั้น อย่าให้ความทุกข์กินเปล่ามันย่ำยีหัวใจของลูกนักเลย เมื่อถึงเวลาเข้าจริงเหตุการณ์ต่างๆ จะช่วยพยุงตัวมันเองให้เราทนได้ ทำปัจจุบันให้ดีไว้เถิดอนาคตจะรักษาตัวมันเอง ลูกเก็บเหรียญสลึงที่อยู่เบื้องหน้าลูกไว้ให้ได้ทีละสลึงดีกว่า และแน่นอนกว่านึกฝันถึงเงินพันเงินหมื่นซึ่งไม่รู้อยู่ที่ไหน ความจริงเหรียญสลึงนั่นเองเมื่อลุกเก็บนานๆ เข้า จะกลายเป็นเงินพันเงินหมื่นที่ลูกต้องการ

 

ทำนองเดียวกับคนใฝ่วิชาความรู้จะต้องคอยเก็บเล็กผสมน้อยด้วยความตั้งใจ ด้วยความอดทน   และ  รอคอย

 

เรื่องที่สอง  ลูกกลัว "เขาว่า" คำว่า "เขาว่า" หมายถึงคนทั้งหลายอื่นทั่วโลกนอกจากลูก แม้แน่แก่ใจว่าสิ่งนี้ดีแล้วถูกแล้ว ลูกก็ไม่กล้าทำ เพราะกลัวเสียงเขาว่า "เขา" เลยกลายเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลกสำหรับลูก ถ้ามีวิตกอยู่อย่างนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเขามีมากเหลือเกิน แต่ละคนก็มีความเห็นไปคนละอย่าง ตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้าง ทำอะไรอย่างหนึ่ง บางคนเห็นว่าดี แต่บางคนอาจเห็นว่าไม่ดี หรืออาจจะเห็นว่าเลวเอาทีเดียว ลูกควรคิดว่าลูกทำสิ่งที่เหมาะสมแก่ลูกและสิ่งนั้นไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดศีลธรรม ไม่เบียดเบียนใครให้เดือดร้อน ลูกสบายใจของลูกอย่างนั้นก็ทำไปเถิด อย่ากังวลถึงเสียงเขาว่านักเลย

 

การนินทาว่าร้ายเป็นสิ่งธรรมดาของโลก บางคนใช้เวลาว่างให้เพลิดเพลินไปด้วยการอ่านหนังสือ บางคนด้วยการเล่นกีฬา แต่บางคนถือเอาการนินทาว่าร้ายผู้อื่นเป็นงานอดิเรกในชีวิต บางคนถึงกับถือเอาเป็นงานประจำเลยที่เดียว คนอย่างนั้นย่อมหาความเจริญในชีวิตไม่ได้ เพราะเขานำพาแต่เรื่องร้ายมาใส่อกใส่ใจเขาทุกวัน เหมือนถังขยะหมักหมมไปด้วยความโสโครก เขาสร้างเครื่องกีดขวางทางเจริญของเขาเอง หลอกลวงตนเองให้บันเทิงลุ่มหลงอยู่ในกลุ่มหมอกแห่งความชั่วช้า

 

อนึ่ง ถ้าลูกรักจะเป็นคนเสียสละบ้าง ถ้าเห็นว่าการที่เขานินทาว่าร้ายเราเป็นความสุขของเขา เราก็ควรยินดีที่ทำให้เขามีความสุขได้ พระพุทธฌจ้าศาสดาของเรายอมเสียสละความสุขทางโลกทุกอย่าง เพื่อได้โลกุตรธรรมและช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โสเครติสยอมดื่มยาพิษเพื่อศักดิ์ศรีทางปรัชญา มหาตมะ คานธี ยอมเสียสละทุกอย่างแม้แต่ชีวิตและความสุขสำราญส่วนตัวเพื่อเสรีภาพแห่งประเทศของเขา เราจะยอมเสียสละเพียงเล็กน้อยบ้างไม่ได้หรือ อนึ่ง ท่านผู้ประเสริฐต่างๆ ซึ่งมีนามกระเดื่องอยู่ในโลกก็ยังไม่มีใครพ้นจากการถูกนินทาว่าร้าย ตัวเราน้อยๆ แค่นี้ทำไมจึงมีคนนินทาบ้างไม่ได้ ข้อสำคัญเราอย่าประมาทไปทำความผิดเข้าจริงๆ ก็แล้วกัน

 

พูดอีกทีหนึ่ง คนที่ตั้งใจจะทำความดีนั้นต้องเป็นคนเสียสละ ความบริสุทธิ์ใจในความเสียสละนั้นแหละ เป็นเหตุให้เขาทำความดีได้ยั่งยืน เขาต้องพร้อมที่จะทอดตนลงเป็นสะพาน ให้คนทั้งหลายเหยียบผ่านไป เขาไม่ต้องการเกียรติ ไม่ต้องการชื่อเสียง คนที่ทำประโยชน์แก่โลกมากๆ เป็นคนประเภทนี้ทั้งนั้น ความดีของโลก ความสงบของสังคม ย่อมมาจากความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของใครคนหนึ่ง เพื่ออุดมคติอันแน่นอน เขาเป็นดวงประทีปในที่มืด เป็นเพชรเม็ดงามที่ส่องแสงแวววาวอยู่ท่ามกลางโคลนตม และจะต้องเป็นดอกบัวที่ผุดเด่นชูดอกอยู่ท่ามกลางความขุ่นข้นของน้ำโสโครก

 

มนุษย์เราจะหนีอะไรก็พอหนีได้บ้าง  แต่จะหนีเวรกรรมและหนีตัวเองนั้นย่อมไม่พ้น มนุษย์ที่ดีจะต้องยอมรับสภาพที่แท้จริงของตน ไม่ใช่คอยหลอกตัวเองให้หลงผิดอยู่เรื่อยไป การยอมรับความจริงทำให้ความยุ่งยากในชีวิตผ่อนคลายลง

 

เรื่องที่สาม ลูกวิตกถึงการสร้างเนื้อสร้างตัว และฐานะในวันหน้า เรื่องการแต่งงาน การมีครอบครัวซึ่งเป็นเรื่องที่ยังอยู่ห่างไกลทั้งสิ้น ควรหยุดความวิตกกังวลเรื่องเหล่านั้นไว้ก่อน คิดไปก็ไม่มีประโยชน์

 

ตามที่แม่บอกลูกว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุดอนาคตจะจัดตัวมันเองนั้น แม่ขออธิบายเพิ่มเติมอีกว่า ความสำเร็จแห่งการสร้างฐานะในอนาคตนั้นอยู่ที่การสร้างวันนี้แต่ละวันให้งามที่สุดเท่าที่กำลังความสามารถของเรามี มนุษย์แตกต่างกันมาโดยกำเนิด จะให้รวยเท่ากันจนเท่ากันนั้นเห็นจะยาก มีองค์ประกอบหลายอย่างอันทำให้ฐานะความเป็นอยู่ของคนแตกต่างกันไปที่สำคัญ คือ องค์ประกอบทางส่วนตัว และองค์ประกอบทางสังคม องค์ประกอบทางส่วนตัว ได้แก่ โอกาส สถานที่ ผู้แนะนำ การประพฤติตน และบุญบาปที่ตนทำมาไม่เท่ากัน องค์ ประกอบทางสังคม ได้แก่ ความเป็นธรรมทางสังคมที่ผู้นั้นได้รับ ความคุ้มครองช่วยเหลือจากสังคม ความเป็นธรรมในการประกอบอาชีพใด อย่างไรก็ตาม คนส่วนมากมุ่งมองความมั่งคั่ง หรือตำแหน่งทางการงานสูงว่าเป็นความสำเร็จในชีวิต เอาสิ่งนี้มาเป็นมาตรฐานวัด มนุษย์ในสังคมของเราจึงวิ่งวุ่นแสวงหาเงิน เกียรติและตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งสังคมสมมุติให้ว่าเป็นเครื่องเชิดชู แล้วเป็นอย่างไรบ้าง โลกเรา สังคมของเรา สงบสุขดีอยู่หรือ ค่านิยมทางสังคมของเราเห็นจะผิดเสียแล้ว แต่เพราะความมืดในจิตใจ จึงไม่อาจมองเห็นคุณค่าอันแท้จริงของชีวิตได้ มัวไขว่คว้าหาสิ่งอันนำความวุ่นวายมาให้เรื่อยไปเดินสวนทางกับความสงบสุขเหมือนคนเดินหันหลังให้แสงสว่างมุ่งหน้าไปสู่ความมืด เหมือนคนแบกก้อนหินใหญ่เดินไปบนถนนแห่งชีวิต ปากก็ร้องว่า "หนัก หนัก" มีผู้หวังดีร้องบอกไปว่า "วางก้อนหินลงเสียแล้วเดินไป" เขาหันมามองผู้เตือนนิดหนึ่งอย่างลังเล แล้วแบกก้อนหินใหญ่เดินต่อไปพร้อมกับพร่ำว่า "หนัก หนัก"

 

ความสำเร็จในชีวิตคนนั้นมีหลายด้าน ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน เราไม่จำเป็นต้องมีความสำเร็จในชีวิตทางเดียวกับคนอื่น ไม่ควรแสวงหาความสำเร็จทางวัตถุแต่เพียงด้านเดียว ทางที่ถูกควรแสวงหาความสำเร็จทางจิตใจให้มากกว่าทางด้านวัตถุ คือ จิตใจสะอาดและสงบ ความสำเร็จทางด้านวัตถุเป็นของร้อน เจือด้วยความทุกข์และความกังวล ส่วนความสำเร็จทางจิตใจเป็นความสงบเย็น จริงอยู่เราต้องมีวัตถุเป็นเครื่องหล่อเลี้ยง   ร่างกาย แต่เราไม่ควรลืมแสวงหาและสะสมเครื่องหล่อเลี้ยงดวงใจของเราคือ คุณความดีต่างๆ

 

ผู้หญิงเราส่วนมากใช้เวลาในการแต่งกาย แสวงหาเสื้อผ้าแพรพรรณมาห่อหุ้มร่าง อวดกันว่าใครจะแต่งได้สวยกว่าใคร คนอื่นจะอย่างไรก็ช่างเถิด แต่รวมพรลูกแม่ควรใช้เวลาในการแต่งใจ แสวงหาความรู้และเสริมสร้างความดี เป็นเครื่องห่อหุ้มดวงใจหรือวิญญาณให้มาก เพราะร่างกายนั้นถึงจะแต่งอย่างไรก็ไม่วายที่จะมีสิ่งปฏิกูลโสโครกและมีกลิ่นเหม็นให้รู้เห็นทุกวัน เสื้อผ้าอาภรณ์จะสะอาดสวยงามราคาแพงปานใดก็ตาม พอเอามาห่อหุ้มกายนี้เข้าก็พลอยกลายเป็นโสโครก มีกลิ่นเหม็นไปด้วย เป็นการบอกอย่างชัดแจ้งว่าไม่มีทางเอาชนะความปฏิกูลของร่างกายได้

 

ส่วนดวงใจหรือดวงวิญญาณนั้น เมื่อชำระให้สะอาดจริงๆ เสียครั้งหนึ่งแล้วก็เป็นอันเสร็จภาระกันไปเลย ยิ่งใจสะอาด สว่าง และสงบมากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งได้พบกับความสุขและคุณค่าอันแท้จริงของชีวิตมากเท่านั้น

 

ทางโลกสอนคนแต่ในเรื่องศิลปะแห่งการแสวงหา แก่งแย่งแข่งดีกันว่าใครจะหาได้มากกว่าใคร ไม่เคยสอนให้ดับความต้องการในสิ่งที่ไม่จำเป็นกันเสียบ้าง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเท่าไรจึงจะพอ เมื่อไรจะพ้นจากบ่วงแห่งความดิ้นรนอยากได้อันไม่มีขอบเขต

 

อันที่จริง สิ่งที่จำเป็นแก่ชีวิตแท้ๆ นั้นมีไม่มากนัก แต่การแข่งขันกันในหมู่มนุษย์ต่างหากเล่า ที่เป็นเหมือนน้ำมันมาราดลงบนกองเพลิงแห่งความปรารถนา ให้เริงแรงโชติช่วงขึ้นจนสุดที่จะดับได้ จึงทำให้ร้อนเร่าดิ้นรนอย่างน่ากลัวอันตราย

 

ถ้าเราจำกัดความต้องการของเราให้อยู่ในขอบเขตพอประมาณ ชั่วโมงแห่งการแสวงหาก็จะลดลงได้ เวลาที่เหลือจะได้เป็นชั่วโมงแห่งความสงบสุขทางชีวิตจิตใจบ้าง  คนที่แสวงหาทรัพย์สมบัติไว้มากมายล้นเหลือนั้นเอาอะไรไปได้บ้าง ชีวิตของคนนั้นสั้นนิดเดียว พอเลยวัยเรียนไปแล้วทำงานอยู่ไม่เท่าไรก็แก่และเตรียมตัวตาย การสะสมทรัพย์ไว้มากเกินจำเป็นจึงทำให้เสียเวลาไปเปล่าๆ บางคนยังจะหอบเอาบาปไปด้วยเป็นอันมาก ส่วนทรัพย์สมบัติต้องทิ้งไว้ในโลก

 

ลูกอ่านประวัติศาสตร์โลกแล้ว เห็นหรือไม่ว่าทรัพย์สมบัติและดินแดนของโลกใครเอาไปได้บ้าง อเล็กซานเดอร์ ซีซาร์ นโปเลียน แต่ละคนได้โลกไปเกือบครึ่ง แต่เขาได้อะไรไปจริงจังบ้าง

 

ถ้ามีใครเขายกถนนสามเสน ถนนมหาราช ถนนราชินี และถนนสีลม ให้ลูก ลูกก็คงใช้ถนนพวกนั้นได้ไม่มากกว่าที่ลูกใช้อยู่ในเวลานี้ แต่ความหนักใจและความเบาจะผิดกันมาก เวลานี้ลูกใช้ถนนเหล่านั้นด้วยความเบาใจ เพียงแต่อาศัยใช้ ไม่ยึดมั่นว่าเป็นของลูก ถ้าลูกเข้าไปยึดมั่นว่าเป็นของลูกเมื่อไร ภาระต่างๆ เกี่ยวกับถนนทั้ง ๔ สายนั้นจะตามมาทันที ลูกจะต้องคอยตรวจดูรอยแตกรอยร้าว และอื่นๆ อีกมากที่เกี่ยวกับถนนนั้นความมีย่อมมาคู่กับการระวังรักษาและความวิตกกังวล สิ่งเหล่านั้นจะปล้นเอาเวลาของลูกไปหมดจนไม่มีเวลาว่างเพื่อตัวลูกเองบ้างเลย

 

แม่พูดมานี้เพื่อให้ลูกคลายกังวลเรื่องการสร้างฐานะในอนาคต เวลานี้เราก็มีทรัพย์สินพอได้อยู่ได้เรียนอยู่แล้ว อนึ่ง รถโดยสารทุกคัน ถนนทุกสาย โรงหนังทุกโรง วัดวาอารามทุกแห่ง แม้จะไม่เป็นของเราโดยกฎหมาย แต่เราก็มีสิทธิ์ใช้ได้เท่าที่เราต้องการ ด้วยการเสียค่าบริการเพียงเล็กน้อย หากว่าลูกจะเป็นเจ้าของน้ำประปาทั้งหมดในเมืองไทย ลูกดื่มมันได้เพียงวันละ ๖ - ๗ แก้ว เป็นเจ้าของเสื้อผ้าทั้งหมดในกรุงเทพฯ ลูกก็ใช้มันได้เพียงวันละชุด และมันก็ไม่ทำให้ลูกเป็นเทวดาขึ้นมาได้ คงเป็นมนุษย์ที่มีความหิวกระหาย ปวดอุจจาระ ปัสสาวะ ต้องแก่ เจ็บ และตายในที่สุด ความละโมบในทรัพย์สมบัติจึงเป็นความโง่เขลาอย่างหนึ่งของมนุษย์ มันเป็นเมฆหมอกบังคุณค่าอันแท้จริงของชีวิตมนุษย์

 

ส่วนเรื่องการแต่งงานและเรื่องครอบครัวนั้นลูกยังไม่ต้องวิตกในเวลานี้ เรียนให้สำเร็จเสียก่อน ยังมีเวลาตรึกตรองอีกถมเถไป แม่ขอฝากความคิดไว้ในตอนนี้ก่อนว่า ลูกผู้หญิงนั้นใฝ่สูงก็ได้สูง แต่เราต้องทำตัวของเราให้สูงด้วย ถ้าเราทำตัวต่ำจะใฝ่สูงเพียงใดก็ไม่พ้นตกลงไปในมือคนต่ำอยู่ดี อีกอย่างหนึ่งเรื่องคู่ครองนั้นไม่ต้องแสวงหา เป็นสิ่งต้องมีมาเองโดยธรรมดาและตามกาลเวลาอันสมควร ใครใจร้อนไปแสวงหาเข้าจะเสียใจภายหลัง

 

พ่อของลูกและน้องสบายดี การเรียนดีและความประพฤติดีของลูกจัดเป็นพรอันประเสริฐที่ลูกให้แก่พ่อแม่และครอบครัวได้ แม่และคุณพ่ออยากรับพรอันนี้จากลูกมากกว่าคำอวยพรด้วยถ้อยคำที่ไพเราะ ความดีของลูกที่ออกจากปากครูนั้น จะทำให้พ่อแม่ปลาบปลื้มสุดจะพูดออกมาเป็นภาษาได้ ของทิพย์เป็นอย่างนี้เองกระมัง ความชื่นใจที่ได้รับข่าวว่าลูกเป็นคนดี ตั้งอกตั้งใจเรียนนั้นเป็นอาหารทิพย์สำหรับแม้ เพราะนึกขึ้นทีไรก็ทำให้อิ่มอกอิ่มใจทุกครั้ง กายของแม่อยู่ห่างลูกก็จริงแต่ใจแม่มาคลอเคลียอยู่กับลูกเสมอทุกวัน

 

รักดังดวงใจ

แม่

 

ที่มา :  กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ.  จดหมายถึงลูก:หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดพระพุทธศาสนาและจริยธรรม .--กรุงเทพฯ :
            องค์การค้าคุรุสภา, 2533.

 

อัจฉรา  แผ่นทอง : ออกแบบ จัดทำ

[อ่านบทความย้อนหลัง]