![]() |
|
![]() |
|
บางคนตื่นตอนเช้าหลังลุกจากเตียงแล้วรู้สึกเส้นสายในตัวมันตึงไปหมด โดยเฉพาะบริเวณหลังไหล่และบั้นเอว มายืดๆ เหยียดๆ ให้สรีระกระปรี้ประเปร่าคลายเมื่อย เพื่อรับวันใหม่ปีใหม่ที่สดชื่นกันดีกว่า | |
1. ยืนตรง เท้าห่างกันประมาณ 1 ช่วงไหล่ ปลายเท้าทั้งสองวางขนานกัน แขน 2 ข้างเหยียดตรงขึ้นเหนือศรีษะ ฝ่ามือหันเข้าหากัน |
|
2. ยืนในท่าเกร็งหน้าท้องและสะโพก โน้มลำตัวลงโดยใช้ข้อเอวหลังจะแบน งอเข่าเล็กน้อย พยายามให้สันหลังถึงศรีษะเหยียดเป็นเส้นตรง แขนทั้งสองยืดตรงไปข้างหน้า ฝ่ามือหันเข้าหากัน |
|
3. ดึงหน้าท้องให้เหมือนกับมีเชือกเหนี่ยวหน้าท้องขึ้นไปด้านหลัง หลังและไหล่อยู่ในแนวโค้ง จะรู้สึกตึงที่สันหลัง เกร็งสะโพกและหน้าท้องโดยตลอด |
|
ทำท่า 1-3 ต่อเนื่องกัน โดยค้างในแต่ละท่านับ 4 ทำซ้ำทั้งหมด 8 ครั้ง |
|
![]() |
|
ทันทีที่นาฬิกาปลุกดัง หนูนิดก็สะดุ้งสุดตัวเพื่อตื่นมาออกกำลังกายแต่เช้า ก็เขาว่ากันว่ายามเช้าเป็นเวลาดีที่สุดสำหรับการออกกำลังนี่น่า | |
ส่วนหนูหน่อยสละสิทธิ์ ขอเลื่อนไปออกกำลังกายยามเย็นแดดร่มลมตกดีกว่า |
|
อยากรู้จังว่าหนูนิดกับหนูหน่อย ใครถูกใครผิด และใครจะได้ประโยชน์จากการออกกำลังมากกว่ากัน |
|
สดชื่นยามเช้า |
|
|
|
|
|
ผ่อนคลายยามบ่าย |
|
|
|
ดังนั้นเวลาไหนดีที่สุด |
|
|
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
การออกกำลังนั้นมีประโยชน์แต่ต้องเลือกวิธีการให้เหมาะสมกับอายุด้วย เมื่อถึงอายุ 30 ปีขึ้นไป ความสามารถของร่างกายจะเริ่มลดลงทั้งด้านความทนทาน ความว่องไว กำลังของกล้ามเนื้อ การเล่นกีฬาที่ใช้กำลังมากๆ หรือคนที่มีโรคประจำตัวแล้วออกกำลัง โดยไม่คำนึงถึงความสามารถของตนก็จะเป็นสาเหตุทำให้เกิดอันตรายหรือบาดเจ็บได้ | |
มาดูกันซิคะว่า วัยอย่างคุณควรออกกำลังอย่างไร |
|
![]() |
|
เล่นและออกกำลังกายเป็นครั้งคราว เพื่อให้เด็กเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อมรอบตัว และเกิดพัฒนาการของร่างกาย โดยใช้กิจกรรม ทักษะการเคลื่อนไหวพื้นฐาน เช่น เดิน วิ่ง กระโดด | |
![]() |
|
ควรได้ใช้ทุกส่วนของร่างกายในการออกกำลัง เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อและระบบหายใจ เช่น การวิ่ง ว่ายน้ำ ถีบจักรยาน เล่นกายบริหาร กิจกรรมเลียนแบบและเกมเบ็ดเตล็ด | |
![]() |
|
เน้นการออกกำลังกายทุกส่วนของร่างกาย เพื่อให้เกิดความคล่องแคล่วและเกิดการประสานงาน เช่น เล่นกีฬา ถีบจักรยาน ว่ายน้ำ และเล่นเกมที่ยากขึ้นรวมถึงกิจกรรมที่นำไปสู่การเล่นกีฬา | |
![]() |
|
ออกกำลังกายให้ครบทุกส่วนของร่างกาย โดยเน้นสมรรถภาพของร่างกาย และพัฒนาทักษะทางกลไกให้มีการทำงานที่สัมพันธ์กัน เช่น วิ่ง ถีบจักรยาน เล่นบาสเกตบอล วอลเล่ย์บอล ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิค เต้นรำ แบดมินตัน และอื่นๆ | |
![]() |
|
ออกกำลังเพื่อเน้นฝึกให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดของร่างกาย และเน้นการฝึกทักษะที่ยากและซับซ้อน เพื่อเป็นพื้นฐานความสามารถของร่างกาย ส่งเสริมให้มีการออกกำลังกายทุกรูปแบบ กิจกรรมควรเน้นความหลากหลาย เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อให้ครบทุกส่วนของร่างกาย และเน้นการออกกำลังให้เป็นกิจวัตรประจำวันหรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 20-30 นาที | |
![]() |
|
การออกกำลังต้องมีหลายรูปแบบและสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับร่างกาย เวลา สถานที่ เนื่องจากเป็นวัยที่มีภาระหน้าที่ในการทำงานและครอบครัว ส่วนใหญ่มักมีข้ออ้างว่าไม่มีเวลาว่าง แต่ร่างกายมีความต้องการที่จะให้ดูแลรักษาและฟื้นฟูสภาพร่างกายที่เสื่อมถอย ถ้าไม่ได้ออกกำลังมานาน ควรปรึกษาแพทย์ หากอายุ 45 ปี ขึ้นไป ควรตรวจร่างกายและการทำงานของหัวใจด้วย ควรเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายที่เคยทำ แต่ลดความเร็วและความหนักลง เช่น ว่ายน้ำ ถีบจักรยาน กายบริหาร วิ่งเหยาะๆ ในวันที่ไม่ได้ออกกำลังก็ควรมีกิจกรรมที่ออกแรงเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อ เช่น ทำงานบ้าน ยกแขนขึ้นลง บิดลำตัว ก้มเงย | |
![]() |
|
การออกกำลังกายในวัยนี้มีข้อจำกัดต้องยึดแนวทางการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด มิฉะนั้นอาจจะเกิดโทษต่อสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มออกกำลังกายโดยเฉพาะการทำงานของหัวใจ กิจกรรมที่ออกกำลังควรเป็น แบบเบาๆ เช่น เดิน วิ่ง รำมวยจีน รำกระบอง กายบริหารประกอบดนตรี ไม่ควรออกกำลังกายที่ใช้แรงมากในระยะสั้นๆ |
![]() |
|
คนที่มีอาการปวดหลังส่วนใหญ่มักกลัวที่จะเล่นกีฬา เพราะคิดว่าจะยิ่งทำให้อาการปวดหลังรุนแรง | |
ยิ่งขึ้น อันที่จริงคุณยังสามารถออกกำลังและเล่นกีฬาได้แต่ต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นเท่านั้นเอง | |
ก่อนที่คุณจะเล่นกีฬาหรือเริ่มออกกำลัง คุณควรต้องวอร์มอัพเสียก่อน เพื่อให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น |
|
เช่น วิ่งช้าๆ จากนั้นก็ต้องยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ทั้งแขน ขา ไหล่ และหลัง แล้วต่อด้วยการทดลองเคลื่อนไหวร่างกายลักษณะเดียวกับกีฬาที่คุณจะเล่น เพียงแต่ช้ากว่า ลองสังเกตว่าแม้แต่นักกีฬามืออาชีพก็ไม่มาที่สนามด้วยความสดใส แต่จะเหงื่อโชกมาเลย เพราะผ่านการวอร์มอัพและขยับเนื้อขยับตัวมาแล้ว | |
แถมด้วยเคล็ดลับเล็กๆ น้อย ในการเล่นกีฬาเพื่อไม่ให้เกิดอาการปวดหลัง: |
|
![]() |
|
กำลังอย่างช้าๆ เป็นเวลาประมาณ 15 นาที ต่อการออกกำลังแต่ละครั้ง | |
![]() |
|
ต่อข้อของคุณมากเกินไป การว่ายน้ำ หรือออกกำลังในน้ำจะปลอดภัยที่สุด เพราะน้ำจะช่วยพยุงร่างกายและไม่สร้างแรงเค้นต่อหลังของคุณ | |
![]() |
|
กดต่อกล้ามเนื้อหลังมากขึ้น กีฬาที่ต้องบิดตัวมากๆ เช่น กอล์ฟ กีฬาที่ต้องเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว เช่น เทนนิส บาสเกตบอล และกีฬาที่ต้องมีการปะทะ เช่น ฟุตบอล ล้วนแต่เป็นความเสี่ยงต่อหลังของคุณ ถ้าคุณต้องการเล่นกีฬาเหล่านี้ ควรฝึกฝนวิธีที่จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยง เช่น คนที่เล่นบาสเกตบอลต้องพยายามรักษาลำตัวให้ตั้งตรงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ |
![]() |
|
วิ่งเป็นการออกกำลังที่ทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องลงทุนมาก ซ้ำยังมีผลดีช่วยบำรุงหลอดโลหิตกล้ามเนื้อหัวใจ | |
ป้องกันเลือดจับตัวเป็นก้อน ลดความดันโลหิต ปริมาณไขมันและน้ำหนักตัว | |
แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า การวิ่งมักทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ง่าย สาเหตุเป็นเพราะการวิ่งทำให้เกิดแรง |
|
กระแทกต่อเท้าและร่างกายได้มาก ยิ่งวิ่งระยะทางไกลๆ โอกาสที่จะเกิดการบาดเจ็บก็ยิ่งมีมากขึ้น บางคนยังมีปัญหาที่ความผิดปกติของโครงสร้างร่างกาย เช่น มีภาวะเท้าแบน ขาโก่ง ขาสั้นข้างยาวข้าง นอกจากนี้พื้นที่รองรับการวิ่ง รองเท้าและสิ่งแวดล้อมก็มีผลเช่นกัน รองเท้าที่แข็งหรือเสื่อมสภาพมากแล้ว พื้นผิววิ่งไม่เรียบ เอียง หรือมีความแข็งเกินไป ก็ล้วนทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ทั้งนั้น | |
เพราะฉะนั้นถ้าคุณคิดจะเริ่มทำการวิ่งเพื่อออกกำลัง ก็ควรศึกษาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ |
|
ด้วยเทคนิคง่ายๆ ดังนี้ | |
![]() |
|
หลังคด ขาสั้นยาวไม่เท่ากันก็ควรหาทางแก้ปัญหาเสียก่อน หรือปรึกษาแพทย์ หรือไม่อย่างนั้นก็เปลี่ยนไปเล่นกีฬาอย่างอื่นที่ไม่ต้องการกระทบกระแทกขนาดนี้ | |
![]() |
|
พื้นวิ่งที่ถูกอัดจนแน่นและแข็งกว่าธรรมดา จะทำให้คนที่วิ่งมากๆ เกิดอาการปวดข้อเท้า ส้นเท้า |
|
หรือเจ็บพังผืดฝ่าเท้าได้ง่าย ควรเริ่มฝึกวิ่งบนพื้นผิวที่อ่อนกว่า เช่น สนามหญ้าไปสู่พื้นสนามที่แข็งกว่า เช่น พื้นถนนยางมะตอย จะช่วยหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บได้ รองเท้าควรมีพื้นที่นิ่มพอสมควรยืดหยุ่นได้ดี ไม่แข็งเกินไป และไม่ควรสวมชุดแน่นหนาลงวิ่งในที่ที่อากาศอบอ้าวเพราะจะทำให้เหงื่อออกมาก ทำให้สูญเสียน้ำและเกลือแร่ จนร่างกายเหนื่อยและล้าเกินไป | |
![]() |
|
เนื้อคล่องตัว ยืดหยุ่น และอดทนได้ดี เป็นการเลี่ยงต่อการบาดเจ็บ โดยอาจจะวิ่งเหยาะๆ ดัดตัว บีบนวดกล้ามเนื้อหรือโดยการใช้อุปกรณ์ เช่น ใช้น้ำมันหรือยาทาภายนอกทาถูบีบนวด ประคบด้วยความร้อน | |
![]() |
|
![]() |
|
เป็นอันตรายถึงตายได้ ควรค่อยๆ วิ่งช้าลงและเคลื่อนไหวต่อไปเรื่อยๆ สักครู่ ให้หัวใจเต้นช้าลงจนใกล้เคียงปกติเสียก่อนจึงหยุดพัก |
![]() |
|
คุณหรือเปล่าที่เกิดอาการงงเป็นไก่ตาแตกเวลาเข้าไปในร้านขายเครื่องกีฬาเพื่อหาซื้อรองเท้าสักคู่ | |
แต่ต้องเจอกับกองทัพรองเท้าหลากรุ่นหลายแบบที่ออกมาวางขายมากมาย ตั้งแต่รองเท้าสำหรับเดิน วิ่ง บาสเกตบอล หรือฟุตบอล อะไรกันนักหนานี่! | |
เป็นเพราะว่าเท้าของคนเรามีลักษณะแตกต่างหลากหลาย อีกทั้งชนิดกีฬาและระดับของการเล่นของ |
|
แต่ละคนก็แตกต่างกันด้วย เป็นต้นว่า ถ้าคุณแค่วิ่งวันละนิดหน่อยทุกสัปดาห์ แล้วต่อด้วยเล่นบาสเป็นครั้งคราว รองเท้ากีฬาแบบอเนกประสงค์ก็คงเพียงพอ แต่ถ้าคุณเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นประจำ 3 ครั้งหรือ มากกว่าต่อสัปดาห์ คุณควรสวมรองเท้าที่ออกแบบเฉพาะเจาะจงกับลักษณะกีฬานั้นๆ เพราะจะช่วยป้องกันการบาดเจ็บได้ | |
การจ๊อกกิ้งเป็นกีฬาที่พร้อมจะทำให้เกิดการบาดเจ็บที่หัวเข่าและข้อเท้าได้ง่าย รองเท้าวิ่งที่ดีควรช่วย |
|
ลดแรงกระแทกหรือแรงเค้นที่จะเกิดกับหัวเข่าหรือข้อเท้า จึงควรต้องมีพื้นที่สามารถรองรับน้ำหนักจากการกระแทกได้มาก | |
ขณะที่กีฬาที่ใช้แร็กเกต เช่น เทนนิส ต้องเคลื่อนไหวแบบไปด้านข้าง รองเท้าที่เหมาะสมจึงควรมี |
|
แถบข้างที่ให้ความมั่นคงกับข้อเท้า ส้นรองเท้าไม่สูงเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง | |
เวลาที่คุณคิดจะซื้อรองเท้ากีฬาควรเริ่มต้นด้วยการไปที่ร้านขายเครื่องกีฬาโดยเฉพาะ ซึ่งพนักงาน |
|
ขายน่าจะมีความรู้พอสมควร และเขาควรใส่ใจถามไถ่ถึงกีฬาที่คุณเล่น และลักษณะเท้าของคุณก่อนที่จะช่วยหารองเท้าที่เหมาะสมให้ แต่อย่างน้อยที่สุดคุณเองก็ควรรู้เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับรองเท้าติดตัวเสียหน่อย ดังนี้ค่ะ | |
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
ปรับเข้ากับรองเท้าสักระยะหนึ่งเสียก่อน | |
![]() |
|
ต้องเที่ยวหาซื้อกันใหม่ไงล่ะ | |
![]() |
|
![]() |
|
รู้สึกสบายไม่เจ็บ เคลื่อนไหวได้สะดวก ก็เป็นอันใช้ได้ อย่าลืมพิจารณาความเหมาะสมเรื่องราคา เพราะหลายยี่ห้อพยายามเพิ่มเติมสรรพคุณในรองเท้าโดยที่ประโยชน์กับคุณอาจไม่ได้มากขึ้น มันเป็นเพียงเหตุผลในการขึ้นราคาเท่านั้นเอง |
![]() |
|
ยามที่เกิดความเครียดคุณจะทำอย่างไร ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยวเตร่ ตีอกชกหัว ฯลฯ สิ่งท้ายๆ | |
ที่คนส่วนใหญ่นึกถึงคือ ลุกขึ้นออกกำลัง ทั้งๆ ที่เป็นวิธีคลายเครียดที่ได้ผลและดีต่อสุขภาพด้วยซ้ำ | |
เชื่อหรือไม่ว่า การได้ออกกำลังประมาณ 30 นาทีเท่านั้น ก็ช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้แล้ว |
|
ศูนย์การแพทย์ดุ๊คส์ ศึกษาพบว่า การออกกำลังด้วยการเดินเร็วแค่ 10 นาที ก็เพียงพอที่จะทำให้คน |
|
เครียดรู้สึกดีขึ้นได้ มีการทดลองในอาสาสมัครอายุ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งกำลังรู้สึกเครียด โดยทดสอบอารมณ์ก่อนและหลังออกกำลังกาย อาสาสมัครร้อยละ 82 บอกชัดเจนว่าเขารู้สึกดีขึ้น ไม่เครียด ไม่โกรธ และว้าวุ่นน้อยลง | |
นอกจากการเดินช่วยให้คุณหนีความเครียดได้ ยังช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในสมอง กระตุ้นการหลั่ง |
|
สารสุข (แอนโดฟินส์) ทำให้ปอด หัวใจ กระบังลม กล้ามเนื้อต่างๆ แข็งแรง |
![]() |
|
ความฝันของเด็กๆ มีสิ่งหนึ่งที่คล้ายกันก็คือ "อยากจะมีจักรยานสักคันไว้ปั่นเล่น" | |
เด็กปั่นจักรยานเพื่อความสนุกสนานเป็นหลัก ขณะเดียวกันเขาได้ฝึกทรงตัว ใช้กำลังขา กำลังแขน |
|
โดยที่ไม่รู้ตัว | |
ผู้ใหญ่ต้องฝึกมีหัวใจแบบเด็กๆ บ้าง การปั่นจักรยานถึงจะสนุก... |
|
ก่อนอื่น หากคุณเลือกที่จะออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน ไม่ต้องมุ่งมั่นว่า "ฉันจะฝึกกำลังแขน |
|
กำลังขาให้แข็งแกร่ง" นึกถึงความเพลิดเพลินเป็นหลักดีกว่า | |
ทราบไหมว่า ภูมิอากาศบ้านเรา เหมาะแก่การออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานเป็นที่สุด ปั่นได้ |
|
หลายฤดู คือทั้งร้อนและหนาว ส่วนหน้าฝนก็ปั่นแถวๆ บ้าน ไม่ต้องปั่นไปไกลนักหรอก | |
บางประเทศอากาศหนาวจัด หิมะตก พายุลมแรง สารพัดที่จะมีอุปสรรคต่อการได้ใช้สองเท้าเล็กๆ ของ |
|
เรา พาตัวเองที่นั่งอยู่บนอานเคลื่อนที่ออกไปข้างหน้า ลมโชยอ่อนมาปะทะ ทำให้ชีวิตในเขตร้อนชื้นอย่างเราๆ มีความสุข มีสีสันต่อการออกกำลังกายโดยไม่ต้องคร่ำเคร่งหรือตั้งใจอย่างยิ่งยวดก็ได้ | |
อยากจะปั่นจักรยานให้มีความสุขจริงๆ ต้องเริ่มจากการวิ่งเสียก่อนเพื่ออะไรหรือครับ เพื่อฝึก |
|
กล้ามขาให้แข็งแกร่ง ก่อนจะเริ่มปั่นจักรยาน จะได้ไม่ล้าที่ต้นขาจนอาจเข็ดไปเสียก่อน | |
เมื่อกล้ามเนื้อขาแข็งแรงดีแล้ว จะทำให้เราปั่นจักรยานได้สนุกสนานและไม่เหนื่อยง่าย ใช้ระยะทาง |
|
สั้นยาวได้ตามใจ อาจจะปั่นเป็นเส้นตรงแบบไปกลับ หรือปั่นเป็นวงกลมรอบสนามหรือรอบพื้นที่ ที่ใดที่หนึ่งก็ได้ | |
เวลาปั่นจักรยานไปด้วยกันประสาเพื่อนๆ หรือประสาพ่อแม่ลูกนี่มีความสุขอย่าบอกใคร แข่งกันนำ |
|
แข่งกันตาม ครึกครื้นเสียจนลืมว่าได้เหงื่อ | |
การออกกำลังกายที่ได้ยิ้มหัวไปด้วยเช่นนี้ หาได้ไม่ง่ายนัก... |
|
จักรยานยังมีเสน่ห์ในตัวเอง ตรงที่ไม่สร้างความเบื่อหน่ายให้แก่ผู้ขี่ บางทีคนที่ออกกำลังกาย |
|
ด้วยการวิ่งอยู่บ่อยๆ จะเกิดอาการเบื่อหน่ายขึ้นได้ และหากเปลี่ยนสถานที่ออกกำลังกาย มักจะไม่ค่อยอยากวิ่งหรือไม่คุ้นเคยกับเส้นทางวิ่ง แต่หากมีจักรยานประจำตัว จะกระตือรือร้นที่จะได้ผจญภัยในเส้นทางใหม่ๆ มากกว่า | |
จักรยานจึงเป็นวิธีการหลอกล่อให้คนที่ไม่ค่อยสนใจการออกกำลังกายได้เริ่มต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง |
|
เมื่อข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ประชากรของเราที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป ที่ให้ความสนใจต่อการเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกาย มีเพียงร้อยละ 16.6 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 30.7 ของประชากรทั้งประเทศเท่านั้นเองสถิติการเจ็บป่วยด้วยโรคที่ขาดการออกกำลังกายจึงมีมากขึ้นทุกทีๆ จะดีขนาดไหนหากเราฝึกฝนให้เราและคนใกล้ชิดรักการออกกำลังกายจนเป็นนิสัยหรือเป็นความเคยชินได้ | |
การปั่นจักรยานให้ได้ประโยชน์ ต้องเริ่มจากปั่นช้าๆ และเร็วขึ้นสักพัก เพื่อเป็นการอบอุ่นร่างกาย |
|
ต่อจากนั้นให้ปั่นด้วยความเร็วที่สม่ำเสมอต่อเนื่องกันนาน 20-30 นาที จะพบว่าชีพจรเต้นแรงขึ้นและเป็นจังหวะสม่ำเสมออยู่ที่ 130-160 ครั้งต่อนาที จากนั้นให้ปั่นช้าลงแล้วค่อยๆ หยุด ไม่ควรเร่งปั่นอย่างเร็วแล้วหยุดกะทันหัน เพราะไม่เป็นผลดีต่อกล้ามเนื้อและชีพจร | |
การปั่นจักรยานยังช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดทำงานได้ดีเป็นปกติ ให้ผลดีต่อปอด หัวใจ |
|
และช่วยกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศ ตลอดจนควบคุมน้ำหนักได้ด้วย | |
หลังปั่น ยืด - คลายกล้ามเนื้อขาสักพัก เพื่อที่กล้ามเนื้อจะได้ไม่ล้า...จักรยานยังสามารถบรรทุกติดรถ |
|
ไปปั่นตามสถานที่ต่างๆ ได้ด้วย ปัจจุบันตามจังหวัดต่างๆ จะมีชมรมจักรยานของเขาอยู่ และตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็มีเส้นทางจักรยานไว้ด้วย | |
หากคุณอยากจะเริ่มต้น "รัก" การออกกำลังกายให้ง่ายขึ้นละก็ |
|
เริ่มต้นฝันที่จะมีจักรยานสักคันก่อนดีกว่า... |
ที่มา: คัมภีร์ครอบครัว ประจำปี 2544. กรุงเทพฯ: สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย, 2544.
(หน้า206-218) |
[อ่านบทความย้อนหลัง] |