เคล็ดลับการดูแลผิว

  • อาบน้ำอย่างไรให้ผิวสวย

  • ระหว่างอาบน้ำชำระร่างกายควรหาผ้าขนหนูนุ่มๆ ผืนเล็กๆ หรือฟองน้ำ หรือใยบวบ มาขัดถู ให้ทั่วๆ ร่างกายเพื่อขจัดสิ่งสกปรกบนผิวหนังให้ได้อย่างหมดจด การกระตุ้นผิวหนังระหว่างการอาบน้ำก็เสมือนการนวดผิวทำให้ผิวของคุณได้รับการดูแล ผิวจะสวยนุ่ม ละไม หลอดเลือดใต้ผิวหนังขยายตัวได้ดี ระบบไหลเวียนของเลือดก็เป็นไปอย่างสะดวกดีอีกด้วย

  • การอบไอน้ำเพื่อสุขภาพ ช่วยให้ผิวแข็งแรง

  • อุณหภูมิไม่เกิน 100 องศาเซลเซียสคืออุณหภูมิที่ดีหากคุณต้องการอบไอน้ำหรือซาวน่าเพื่อให้ หลอดเลือดขยายตัว ผิวพรรณชุ่มชื่น และยังขับเหงื่อเพื่อช่วยลดน้ำหนักได้ดีอีกด้วย การอบไอน้ำช่วยให้สุขภาพดี เพราะทำให้ประสาทของคุณได้รับการผ่อนคลาย หายเครียด ขจัดความอ่อนเพลีย แต่ถ้าจะอบไอน้ำเพื่อเอาใจผิวพรรณโดยเฉพาะคุณควรอบนาน 10 นาทีก็เพียงพอแล้ว หากต้องการลดน้ำหนักควรอบแบบสลับไปมานาน 20-30 นาทีก็ได้

  • ดับกลิ่นลมหายใจไม่สะอาดด้วยนมสด

  • ในระหว่างวันหากคุณพบว่ามีกลิ่นปากหรือลมหายใจไม่สะอาดจนคุณรู้สึกไม่มั่นใจและไม่ สามารถหาหมากฝรั่งหรือเม็ดอมดับกลิ่นได้ทันท่วงที คุณสามารถดื่มนมสดหรือน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่นเพื่อดับกลิ่นปากให้ลมหายใจสะอาด แม้กลิ่นกระเทียมที่ค่อนข้างรุนแรงน้ำนมก็สามารถดับกลิ่นได้อย่างดีทีเดียว นอกจากนมสดและน้ำผึ้งแล้วการดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่นก็ช่วยดับกลิ่นปากและกลิ่นที่เกิดจากการรับประทานอาหารซึ่งมีเครื่องเทศกลิ่นแรงได้เป็นอย่างดี

  • ดูแลริมฝีปากทุกฤดูกาล

  • ในช่วงฤดูหนาวเมื่อริมฝีปากแห้ง ลอกเป็นขุย หรือแตกจนแสบ นั่นแหละถึงจะได้รับการดูแล ทะนุถนอม ซึ่งในความถูกต้องนั้นคุณควรที่จะบำรุงถนอมริมฝีปากตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลใดเพื่อที่ริมฝีปากจะมีความชุ่มชื้นนุ่มละมุนเสมอ ไม่มีวันแห้งจนแตกในฤดูหนาว การทาลิปมัน ทาขี้ผึ้ง เป็นประจำจะช่วยได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับคุณผู้ชายที่ไม่อยากยุ่งยากกับการทาปาก หรือคุณผู้หญิงที่ไม่ชอบทาลิปสติกก็ควรใช้โลชั่นที่ใช้สำหรับบำรุงหน้าหรือผิวกายทาให้ทั่วริมฝีปากทุกๆ คืนก่อนนอน ริมฝีปากจะชุ่มชื้น นุ่มเนียน ไม่มีริ้วรอยย่น ไม่แห้งจนต้องเลียริมฝีปากบ่อยๆ ให้เสียบุคลิก

  • ผลไม้สดจากธรรมชาติ บำรุงผิวได้ผลเร็วกว่าครีมราคาแพง

  • ในผลไม้ทุกชนิดนั้นอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุสำคัญๆ มากมายที่จะให้คุณประโยชน์ต่อ ร่างกายได้โดยตรง คนที่รับประทานผักสด และผลไม้สดเป็นประจำสม่ำเสมอทุกๆ วันนั้นสังเกตได้เลยว่าจะเป็นคนผิวพรรณดี แม้เป็นผู้ชายก็ผิวสวย ผุดผ่อง มีน้ำมีนวล ผลไม้บางชนิดนั้นนอกจากรับประทานแล้วยังสามารถนำมาพอกทาใบหน้าเพื่อบำรุงผิวหน้าโดยตรงได้อีก ด้วย ผลที่ได้ก็ค่อนข้างเร็วทันใจกว่าการบำรุงด้วยครีมต่างๆ ซึ่งต้องการเวลาและมีราคาสูง ถ้าคุณขยันก็ควรแบ่งเวลาสักไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต่อสัปดาห์เพื่อพอกหน้าด้วยผลไม้ ผลที่ได้คือผิวดีที่คุ้มค่าที่สุด สับปะรดสดๆ คั้นเอาแต่น้ำมาชโลมพอกทาใบหน้า คนที่มีผิวหน้ามันจะได้ผิวที่ดี สมดุล จุดด่างดำ และริ้วรอยต่างๆ จะหายไป (พอกนาน 20 นาที) แอปเปิลนำไปปั่นให้ข้น (ไม่ต้องให้เป็นน้ำ) หรือฝานเป็นชิ้นบางๆ นำมาวางทั่วใบหน้า หรือพอกหน้าไว้นาน 20 นาที เหมาะสำหรับคนผิวแห้ง เพิ่มความชุ่มชื้นให้ใบหน้า ผิวหน้าที่ตากลมตากแดดมากๆ ควรบำรุงด้วยสูตรนี้ มะละกอสุกที่คัดเมล็ดทิ้งแล้วปั่นหรือยีให้เละด้วยส้อม นำมาพอกหน้านาน 15-20 นาที ทำให้ผิวหน้าที่แห้งแตกเป็นขุยๆ มีความนุ่มนวลและชุ่มชื้นขึ้น เปลือกมะนาวที่บีบน้ำออกแล้วนำมาถูคลึงเบาๆ ทั่วใบหน้ามันจะช่วยลดความมัน ขจัดสิวเสี้ยน เพิ่มความขาวนวลได้ดี มะเขือเทศ แตงกวา น้ำผึ้ง (เลือกอย่างหนึ่งอย่างใด) ปั่นละเอียดหรือฝานบางๆ วางทั่วใบหน้าหรือพอกหน้านาน 20 นาทีเป็นประจำทุก 1 สัปดาห์ จะช่วยขจัดริ้วรอยบนใบหน้า เพิ่มความขาวเนียนผุดผ่องให้ใบหน้าได้อย่างวิเศษ

  • เคล็ดลับบำรุงผิวหน้ามัน

  • ตำรับนี้เหมาะสำหรับทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย หากใบหน้าของคุณมีความมันคุณควรบำรุง ด้วยสูตรนี้ทุกๆ 10 ต่อ 1 ครั้ง ด้วยแตงกวามะนาวและไข่ ซึ่งไม่มีสารเคมีใดๆ ที่จะทำให้คุณแพ้หรือเกิดอาการระคายเคืองได้อย่างแน่นอน เตรียมแตงกวา 2 ลูก ปอกเปลือกแล้วล้างให้สะอาด นำมาปั่นให้ละเอียดผสมกับน้ำมะนาวครึ่งช้อนโต๊ะและไข่ไก่ 2 ฟอง (คัดเอาแต่ไข่ขาว) เมื่อปั่นจนผสมกันดีแล้วนำมาชโลมให้ทั่วใบหน้า (ล้างหน้าให้สะอาดก่อน) เว้นรอบริมฝีปากและดวงตา คุณต้องไม่เคลื่อนไหวใบหน้าจนครบกำหนดเวลา แล้วจึงล้างออกให้สะอาดด้วยสบู่

  • สตรอเบอรี่เพื่อผิวหน้า

  • การบำรุงผิวหน้าให้มีความชุ่มชื้นไม่แห้งกร้านด้วยสตรอเบอรี่นั้นค่อนข้างทำได้แสนง่ายดาย และได้ผลดีเยี่ยมทันอกทันใจ ผิวหน้าของคุณจะขาวขึ้น มีความเนียนนวล ปราศจากริ้วรอยและจุดด่างดำต่างๆ ถ้าคุณพอกหน้าด้วยผลสตรอเบอรี่สดๆ ประมาณ 15-20 ลูก โดยนำมาปั่นให้ละเอียดจนข้นหรือใช้ส้อมตีๆ ยีๆ ให้ละเอียด (มีกากเนื้อเล็กน้อยได้) จากนั้นนำมาพอกทั่วๆ ใบหน้า เว้นรอบดวงตา และริมฝีปาก พอกทิ้งนาน 20 นาทีจึงค่อยล้างออกด้วยสบู่ สูตรนี้สามารถทำได้ทุกๆ สัปดาห์ จะได้ผลดีน่าพอใจ

  • บำรุงผมแห้งด้วยตัวเอง

  • ครีมนวลและบำรุงผมสำหรับเส้นผมที่คุณใช้อยู่เป็นประจำคู่กับแชมพูสระผมนั้นอาจต้องใช้ เวลานานพอควรกับการปรับสภาพเส้นผมให้มีความชุ่มชื้นขึ้น ไม่แตกปลาย ไม่ฟูฟ่อง มีความเงางาม และมีน้ำหนักขึ้น ถ้าคุณอยากบำรุงเส้นผมที่แห้งเสียของคุณให้มีสุขภาพดีขึ้นอย่างรวดเร็วทันใจ นอกจากการใช้ครีมนวด บำรุงหลังสระทุกครั้งแล้วอาจเพิ่มสูตรบำรุงผมอีกตำรับหนึ่งซึ่งคุณผสมทำเองได้ทุก 10 วันต่อ 1 ครั้ง ก็น่าจะลองทำดูบ้าง เตรียมไข่ไก่ 1 ฟอง น้ำผึ้ง 1 ช้อนชาครึ่ง และน้ำมันงาสัก 2-3 ช้อนโต๊ะ นำมาผสมกันแล้วตีให้เข้ากันจนละเอียดเนียน แต่ไข่นั้นต้องเลือกเอาเฉพาะไข่แดงมาตีให้ฟู วิธีหมักผมก็ต้องราดน้ำให้เส้นผมเปียกชุ่มทั้งหมดก่อนนำครีมน้ำมันงามาทา และนวดให้ทั่วๆ เส้นผม หมักผมทิ้งไว้นานครึ่งชั่วโมง แล้วล้างออกให้สะอาดก่อนสระผมตามปกติ ถ้าผมยาวก็ให้เพิ่มไข่แดงอีก 1 ฟอง และเพิ่มปริมาณน้ำมันงากับน้ำผึ้งอีกอย่างละ 2 ช้อนชา

  • ผมมันกับนมเปรี้ยว

  • เส้นผมเป็นมันจะทำให้ทรงผมดูลีบแบนและมีรังแคง่าย คุณสามารถบำรุงให้ผมที่มีความมัน ลดระดับความมัน และมีความสมดุลพลิ้วสลวยขึ้นได้ ด้วยการผสมไข่ไก่ 1 ฟองลงในนมเปรี้ยวประมาณ 1 แก้ว นำมาตีๆ ให้เข้ากันดี หรือจะใช้เครื่องปั่นก็ได้ไข่ไก่นั้นใช้ทั้งใบได้เลยไม่ต้องคัดไข่ขาวทิ้ง ราดน้ำให้เส้นผมเปียกชุ่มแล้วจึงหมักนมเปรี้ยวผสมไข่ไก่ให้ทั่วทั้งศีรษะ กะดูให้ครีมหมักชโลมเส้นผมอย่างทั่วถึง แล้วหมักผมทิ้งไว้นาน 10-15 นาทีจึงล้างออกให้สะอาดก่อนสระผมตามปกติ

  • สูตรพิเศษบำรุงมือและเล็บ

  • คนที่รักมือของตนเป็นพิเศษนั้นย่อมรักเล็บมือด้วย และการใช้ครีมโลชั่นต่างๆ ทามือและเล็บ อยู่เป็นประจำจะช่วยบำรุงให้มือของคุณนุ่มละมุนและมีความชุ่มชื่น เล็บมือก็มีสุขภาพดี ไม่แห้งเปราะง่ายหรือซีดเหลือง ยังมีสูตรบำรุงเล็บและมืออีกสูตรหนึ่งซึ่งเป็นเคล็ดลับที่จะบันดาลความนุ่มละมุนให้มือและเล็บได้อย่างดี เยี่ยม หนังรอบขอบเล็บก็จะนุ่ม ไม่แข็งกระด้าง สูตรธรรมชาติตำรับนี้คือไข่แดงและสับปะรด เตรียมไข่ไก่ 2 ฟอง เลือกแต่ไข่แดงมาตีให้ฟูใส่น้ำสับปะรดคั้น 3 ช้อนโต๊ะลงไปแล้วตีให้เข้ากัน แช่มือของคุณในน้ำสับปะรดและไข่แดงนี้นาน 30-40 นาทีจึงล้างออกให้สะอาด หมั่นทำเช่นนี้เดือนละ 2 ครั้งรับรองว่าเห็นผลได้ชัดเจนทันใจแน่นอน

  • มาเอาใจเท้าของคุณกันเถอะ

  • ในวันหนึ่งๆ คุณต้องใช้เท้าเดินไปมาเป็นระยะทางไม่ใช่น้อยๆ บางวันเท้าก็ต้องวิ่ง ต้องเหน็ด เหนื่อยตรากตรำมากพอสมควร คุณคงไม่ปฏิเสธว่าคนเรามักใส่ใจบำรุงตามากกว่าเท้า แต่ถึงเวลาแล้วที่เราควรจะหันมาเอาอกเอาใจเท้ากันบ้าง อย่างน้อย 2 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้งก็ยังดี ใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น ทำในขณะพักผ่อนดูทีวีก็ได้ ไม่ควรอ้างว่าไม่มีเวลาปรนนิบัติเท้าของคุณ สูตรสำหรับบำรุงเท้าให้นุ่มนวลไม่แห้งกร้านสามารถทำได้โดยเตรียมน้ำส้มสายชู 2 ช้อนชาและนมเปรี้ยว 1 แก้วน้ำดื่ม นำมาผสมให้เข้ากันดี แล้วชโลมทาให้ทั่วๆ เท้าทั้งสองข้าง แช่ทิ้งไว้นาน 15 นาทีจึงล้างออกให้สะอาดสะอ้าน เท้าของคุณจะขาวขึ้นอีกด้วย แต่ช่วงที่เท้ามีแผลหรือถลอกไม่ควรบำรุงด้วยตำรับนี้

  • ถุงมือ ดูแลสุขภาพมือและเล็บ

  • การมีถุงมือยางและถุงมือผ้าฝ้ายไว้ติดบ้านนั้นเป็นสิ่งที่คุณควรปฏิบัติอย่างยิ่ง เพราะผลที่คุณ ได้คุ้มค่ามากกว่าที่คุณคาดคิดแน่นอน งานบ้านบางอย่าง เช่น ล้างจาน ปัดกวาด เช็ดถูเครื่องเรือน เครื่องใช้ แม้จะทำเล็กๆ น้อยๆ ก็ควรสวมถุง มือ การตัดแต่งกิ่งไม้ พรวนดิน รดน้ำต้นไม้ ล้างรถ ขนย้ายโต๊ะ ย้ายข้าวของ เพื่อจัดแต่งมุมห้องหรือบ้าน ก็สมควรสวมถุงมือเสมอๆ การสวมถุงมือในการทำกิจกรรมบางอย่างจะช่วยถนอมมือและเล็บของคุณให้ดูนุ่มเนียนไม่หยาบกร้าน แม้เป็นเพศชายก็ควรถนอมมือและเล็บให้มีสุขภาพดี หมั่นทาโลชั่นบำรุงเสมอๆ หลังเสร็จภารกิจใดๆ ที่ต้องใช้มือและเล็บนานๆ

  • สวมหมวกและแว่นตากันแดดบ้าง

  • ในวันที่คุณต้องอยู่ในที่กลางแจ้งคุณจะต้องเตรียมหมวกและแว่นกันแดดให้พร้อม เป็นต้นว่า การไปเที่ยวตลาดนัดสุดสัปดาห์ ไปชมการแข่งกีฬาที่สนาม ถ้าคุณรู้ว่าจะต้องเดินทางไปในเวลากลางวันที่แดดจ้าก็ไม่ควรละเลยที่จะดูแลตัวเองด้วย เส้นผมที่ถูกแสงแดดนานๆ และดวงตาที่รับแสงจ้ามากๆ เป็นเวลานานย่อมเสียสุขภาพแน่ การสวมหมวกมิใช่เพียงหลบไอร้อนแต่ยังช่วยดูแลเส้นผมให้คุณ เช่นเดียวกับการถนอมดวงตาด้วยการสวมแว่นตากันแดดเสมอๆ เมื่อต้องอยู่กลางแสงแดด ซึ่งจะทำอันตรายดวงตาและเส้นผมตลอดจนผิวพรรณของคุณได้อย่างแน่นอน

  • ฝึกนั่งสมาธิดูบ้าง

  • การทำจิตใจให้สงบมิใช่เป็นการดูแลสุขภาพทางใจแต่เพียงเท่านั้น เพราะจิตใจและร่างกายของ คนเรานั้นสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งที่สุด ถ้าคุณลองฝึกนั่งสมาธิดูบ้าง หมั่นทำเป็นประจำสม่ำเสมอ เมื่อจิตใจสงบสบายผ่อนคลายดีแล้วคุณจะเป็นคนที่สมองปลอดโปร่ง ความคิดอ่านโลดแล่น การตัดสินใจเฉียบคม มีบุคลิกภาพที่ดี สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดี และในส่วนของผลดีที่จะเกิดกับร่างกายที่เห็นได้ชัดก็คือการนอนหลับสบายและง่ายขึ้น ขับถ่ายสะดวก ร่างกายกระชุ่มกระชวยขึ้น การเคลื่อนไหวและการทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพขึ้นกว่าเดิม

  • ความเครียดคือผู้ร้าย ทำลายสุขภาพได้อย่างนึกไม่ถึง

  • อย่าคิดว่าบางครั้งบางคราที่คุณเครียดแล้วจะทำให้คุณเพียงมีอารมณ์ที่หงุดหงิดและคิดมากจน นอนไม่หลับเท่านั้น แต่ความเครียดจะทำลายคุณได้อย่างที่คุณนึกไม่ถึง มาดูกันเถอะว่าความเครียดทำอะไรคุณบ้าง หิวเก่ง เบื่ออาหาร ปวดท้อง ปวดหลัง ปวดศีรษะ ตกใจง่าย ง่วงซึม ลุกลี้ลุกลนผิดปกติ ป่วยง่าย นอนกัดฟัน นอนกรน หลับยาก ขาดความมั่นใจ อารมณ์เสียบ่อยๆ ฝันกลางวัน ใจสั่น หมดอารมณ์เพศ ปัสสาวะบ่อยๆ สูบบุหรี่จัด ดื่มหนัก อยากบงการ เป็นโรคกระเพาะ โรคไขข้อ มะเร็ง ลำไส้อักเสบ ผิวหนังอักเสบ ความดันโลหิตสูง ไมเกรน ระบบหัวใจผิดปกติ ฯลฯ มหันตภัยจากความเครียดยังมีอีกมากมายมหาศาลซึ่งจะเกิดขึ้นกับจิตใจและร่างกายได้อย่างที่คุณไม่รู้ตัวว่าเกิดเพราะผลจากความเครียด ดังนั้นอย่าปล่อยให้ตัวเองเครียดเด็ดขาด พยายามมีอารมณ์ขัน หาทางออกที่ดีที่จะลดและขจัดความเครียดออกไปให้ได้ หาซื้อหนังสือขจัดความเครียดมาลองอ่านดู อาจมีสักวิธีที่เหมาะกับคุณแน่นอน

  • รักตัวเอง เพื่อรักษาสุขภาพอย่างสมบูรณ์แบบ

  • สุขภาพของคุณจะดีได้ก็คงต้องอาศัยความรักที่คุณมีให้กับชีวิตและร่างกายของคุณเอง ที่ผิวพรรณแห้งกร้าน ใบหน้าซูบหมอง ดวงตาไม่แจ่มใส เดินเหินไม่คล่องแคล่ว เซื่องซึม อารมณ์ แปรปรวน เบื่ออาหาร รับประทานอาหารไม่ค่อยได้หรือรับประทานจุเกินไป ผอมแห้งหรืออ้วนฉุ ท้องผูกหรือท้องร่วง เป็นโรคกระเพาะ มีอาการนอนไม่หลับ ป่วยทางจิต ป่วยทางกาย ฯลฯ อาการหนึ่งอาการใดดังกล่าวนี้ถ้าคุณเคยเป็นก็แสดงว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งไม่รักตัวเอง คุณจึงไม่ใส่ใจที่จะรักษาสุขภาพของตนเอง หากคุณใส่ใจเรื่องอาหารการกินบ้าง รู้สักนิดว่ากินอาหารชนิดใดจะมีผลดีหรือร้ายต่อสุขภาพอย่างไร รู้จักออกกำลังกายบ้าง รู้จักพักผ่อนและดูแลถนอมบำรุงตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้าบ้าง นั่นคือสิ่งที่คนรักตัวเองควรกระทำ และเมื่อคุณรักตัวเองจนมีสุขภาพที่ดีแล้วคุณก็จะรักคนอื่นเป็น ปรารถนาที่จะแนะนำสิ่งดีๆ เพื่อรักษาสุขภาพให้แก่คนรอบข้าง เมื่อนั้นคุณจะเป็นคนที่สมบูรณ์แบบและมีสุขภาพดีอย่างแท้จริง เพราะดีพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ

  • นักมังสวิรัติได้แคลเซียมสูง

  • แคลเซียมเป็นเกลือแร่ที่แสนสำคัญต่อร่างกายของคุณ เนื่องจากบทบาทหน้าที่ของมันก็คือช่วย ให้กระดูกแข็งแรง เซลล์กล้ามเนื้อและเซลล์ประสาทก็ต้องการแคลเซียมไปช่วยในการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ถ้าคุณไม่อยากเป็นโรคกระดูกผุ ข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง มะเร็งลำไส้ ฯลฯ คุณก็ควรสนใจอาหารแคลเซียมอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้ อาหารที่เป็นแหล่งแคลเซียมที่ดีส่วนใหญ่เป็นอาหารที่นักมังสวิรัติได้รับประทานกันเป็นประจำสม่ำเสมอ แหล่งอาหารดังกล่าวนี้คือ งาดำคั่ว ถั่วแดง อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสง มะม่วงหิมพานต์ ถั่วแระ กุ้งแห้ง ปลาลิ้นหมา ปลาเล็กปลาน้อยทอด ใบยอ ใบชะพลู ใบมะกรูด กุ้งฝอย ปูทะเล หอยแมลงภู่ หอยแครง ปลาทู ไข่แดง นม เนย เป็นต้น



    ข้อมูล   :Health 2 day