กามวิปริตยุคใหม่ โรคกามวิปริตเป็นความผิดปกติทางเพศที่สมาคมจิตแพทย์อเมริกันได้ให้ชื่อและความหมายไว้ในปี พ.ศ. 2530 ว่า ผู้ที่เป็นโรคนี้จะเกิดความสุขทางเพศผิดไปจากบุคคลทั่วไป ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ ครับ ทั้งที่รู้ว่าตนเองไม่ปกติ สังคมยอมรับไม่ได้ แต่ก็บังคับยับยั้งการกระทำของตนเองไม่ได้ เมื่อได้ทำไปแล้วเกิดความพอใจ ตื่นเต้น อยากทำอีก สิ่งที่เร้าความรู้สึกทางเพศจะเป็นวัตถุ เช่น ชุดชั้นในของผู้หญิง หรือเป็นอวัยวะเพียงส่วนหนึ่งของร่างกายเท่านั้น การกระทำเช่นนี้ทำให้ผู้ถูกกระทำเกิดความอับอายขายหน้า หรือไม่ยินยอมพร้อมใจให้ทำ ศาสตราจารย์แพทย์หญิงสุวัทนา อารีพรรค ได้แบ่งกามวิปริตไว้เป็น 9 รูปแบบครับ คือ มีความต้องการทางเพศกับเด็ก มีความสุขที่ได้แต่งตัวเป็นเพศตรงข้าม มีความสุขทางเพศกับส่วนของร่างกายหรือวัตถุ ชอบอวดอวัยวะเพศ เป็นนัก “ถ้ำมอง” มีความสุขทางเพศโดยการทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด หรือตนเองถูกทำให้เจ็บปวด ชอบถูไถอวัยวะเพศของตนกับเพศตรงข้าม นอกนั้นยังมีความต้องการทางเพศแบบอื่นๆ อีก เช่น พูดโทรศัพท์ลามก ต้องการร่วมเพศกับศพกับสัตว์ ทั้งหมดนี้บางชนิดก็พบบ่อย เช่น มีความสุขด้วยการแต่งกายเป็นเพศตรงข้าม โทรศัพท์ลามกเป็นต้น บางชนิดพบได้นานๆ ครั้ง เช่น มีความต้องการทางเพศกับเด็ก กับศพ กับสัตว์ หรือถ้ำมอง เป็นต้น ผู้ป่วยที่ผมจะเขียนถึงและวิจารณ์ต่อไปนี้ ตกเป็นข่าวปรากฎในหนังสือพิมพ์รายวันเร็วๆ นี้เอง แม้จะไม่ได้รายละเอียดมากนัก แต่ก็คงจะเพียงพอให้ได้รู้ว่า สังคมปัจจุบันมักมีอะไรแปลกๆ ประหลาดๆ ให้เห็น จิตใจของคนไทยได้แปรเปลี่ยนไปต่างๆ นาๆ ความผิดปกติทางจิตจึงมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้มีการศึกษาทางระบาดวิทยาของความผิดปกติทางจิตใจของประชากรไทย พบว่าจำนวนผู้ป่วยที่มาขอรับบริการทางจิตเพิ่มขึ้นทุกปี จากปี พ.ศ. 2425 มาจนถึงปี พ.ศ. 2536 มีเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว เฉลี่ยแล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 ต่อปีเชื่อว่าในปัจจุบัน อัตราการป่วยทางจิต จะมีเพิ่มมากกว่านี้อีกมากทีเดียว ผู้ป่วยรายนี้เป็นชาย อายุ 38 ปี เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะดี บ้านอยู่ต่างจังหวัด ได้เผารถคืนเดียวถึง 4 คัน โดยใช้ขยะจากถังขยะมาเป็นเชื้อเพลิง เหตุเกิดในเวลากลางคืนตอนดึก ตำรวจตามจับได้ เริ่มแรกเมื่อนำไปสอบสวน ผู้ป่วยให้การปฎิเสธ แต่เมื่อสอบสวนหลายครั้งเข้า ประกอบกับมีหลักฐานพยานมัด จึงยอมรับสารภาพว่า เมื่อตนมีความเครียดมากๆ จะปวดศีรษะจนทนไม่ได้ เมื่อได้ระบายออกด้วยการจุดไฟเผารถแล้วจะทำให้เกิดอาการตื่นเต้นมาก ความเครียดและอาการปวดศีรษะหายไปได้ในอดีตเคยมีประวัติวางเพลิงบ้านพัก รถจักรยานยนต์ รถสามล้อ มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ในปีพ.ศ. 2534 ถูกตำรวจจับได้ และศาลพิพากษาให้จำคุก 4 ปี อยู่ได้เพียง 2 ปีก็พ้นโทษออกมา แต่ยังมีอาการดังเดิมอยู่ ผู้ป่วยยังเล่าถึงพฤติกรรมหลังวางเพลิงทุกครั้ง เมื่อโทรศัพท์แจ้งตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงแล้ว ก็จะซื้อเบียร์มานั่งดื่ม ดูแสงไฟและฟังเสียงไซเรนรถดับเพลิงซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศจนสำเร็จความใคร่ได้ หลังพ้นโทษจำคุกจึงมาสมัครทำงานกับมูลนิธิสว่างเมธาธรรม เพื่อว่าเมื่อเข้าไปช่วยกรณีไฟไหม้ จะได้ดูแสงไฟและฟังเสียงไซเรนอีก ท่านผู้อ่านครับ ผู้ป่วยรายนี้มีอาการที่น่าสนใจ 2 ประการ ประการแรก เป็นคนเครียดง่าย และถ้าเครียดมากจะเกิดอาการทางกายตามมา คือปวดศีรษะ ถ้าทำให้ตื่นเต้นที่ได้เห็นทรัพย์สินเงินทองของผู้อื่นเสียหาย อาการเครียดและอาการปวดศีรษะจะหายไป ประการที่สองผู้ป่วยอ้างว่า แสงเพลิงจากการไหม้ทรัพย์สินผู้อื่น และเสียงไซเรนของรถดับเพลิงทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการตื่นเต้นทางเพศ เกิดความรู้สึกทางเพศสูงสุด ผมไม่รู้ถึงรายละเอียดของภูมิหลังชีวิต และปัญหาของเขาในปัจจุบัน ว่าทำไมจึงทำให้เขาเครียดมากนัก อาการทางใจก่อให้เกิดอาการทางกาย จะหายไปได้ก็ต่อเมื่อทำให้ตื่นเต้นดังเช่นนี้ ทำไมบุคคลนี้จึงเป็นอย่างนี้ ผมได้แต่เพียงสันนิษฐานเอาว่า เพราะชีวิตของเขาโดยเฉพาะในอดีต ต้องเจ็บป่วยไม่มีความสุข แม้แต่ความสุขทางเพศก็ไม่ได้รับ จึงต้องหาวิธีแก้ไข ซึ่งเขากระทำด้วยการทำให้ผู้อื่นไม่มีความสุข เจ็บปวด และสูญเสีย เช่นเขาบ้าง ตามที่ผมได้เรียนไว้ว่า โรคกามวิปริตมีถึง 9 ชนิด มีชนิดหนึ่งที่ความสุขทางเพศเกิดจากการทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด หรือ SEXUAL SADISM ซึ่งมีความหมายโดยทั่วไปว่า เป็นการร่วมเพศที่จะมีความสุขได้ต่อเมื่อตนเองได้กระตุ้นคู่นอน ให้มีอาการหรือคำพูดที่แสดงถึงความเจ็บปวดเช่น มีการหยิก กัด เฆี่ยนตี การพูดจาข่มขู่คู่นอน เป็นต้น แต่ผู้ป่วยรายนี้ ความสุขทางเพศไม่ได้เกิดจากการได้ร่วมเพศจริงๆ ครับ เพียงแต่ได้สำเร็จความใคร่ และการกระทำทำให้เขาได้คลายเครียด และหายปวดศีรษะไปด้วย จึงทำให้ผมคิดว่า ผู้ป่วยรายนี้ไม่ใช่โรคซาดิสม์ที่แท้จริง คล้ายๆ จะเป็นซาดิสม์ แต่ก็ไม่เป็นไปตามทฤษฎีครับ อาจเรียกได้ว่าซาดิสม์แบบใหม่ หรือซาดิสม์แปลกใหม่ก็ได้ คงต้องติดตามโรคนี้ต่อไปครับ เราจะรู้แน่ว่าอาการอย่างนี้เป็นโรคซาดิสม์หรือเป็นโรคอื่นเช่น โรคจิตเภท หรือมีความพารทางสมองหรือไม่ จะต้องรู้ประวัติส่วนตัว ครอบครัว ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แล้วต้องนำไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจสภาพจิต พร้อมกับให้นักจิตวิทยาคลินิกทดสอบทางจิตวิทยา (PSYCHOLOGICAL TEST) รวมทั้งต้องตรวจหาความผิดปกติของสมองด้วยครับ ผมเองได้ติดตามข่าวจากสื่อต่างๆ แต่ก็ยังไม่พบรายละเอียดเพิ่มเติม นับได้ว่าผู้ป่วยเป็นบุคคลอันตราย เพราะชอบทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น การอยู่ในคุก 2 ปี ไม่ได้ช่วยให้จิตใจเขาดีขึ้น ออกจากคุกมาก็มีพฤติกรรมเช่นเดิมอีก ต่อไปอาจมีพฤติกรรมที่รุนแรงยิ่งขึ้น ในทางวิชาการพบว่า เด็กที่ชอบจุดไฟเล่น ทำร้ายสัตว์ หรือที่มักปัสสาวะรดที่นอน เมื่อโตขึ้นจะมีจิตใจโหดเหี้ยม หรือเป็นอันธพาล ไม่ทราบว่าในอดีตผู้ป่วยรายนี้เป็นเช่นนี้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผมอยากให้ตำรวจส่งตัวเขาไปตรวจและรักษาเสียโดยเร็ว ให้เข้ใจถึงความผิดปกติที่แท้จริง ปัจจุบันมีวิธีการรักษาที่มีคุณภาพครับ ขอให้ท่านทั้งหลายไว้ใจได้เมื่อยู่ในความดูแลของจิตแพทย์และคณะผู้ร่วมงาน ผมขอสรุปอีกครั้งว่า ผู้ป่วยรายนี้มีความผิดปกติทางจิตใจแน่ๆ ครับ จะเป็นโรคอื่นใดที่ไม่ใช่โรคซาดิสม์ หรือเป็นโรคซาดิสม์ที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนที่เคยพบมา และเพื่อความปลอดภัยแก่ตัวเองและสังคมจะต้องทราบประวัติเพิ่มเติม นำตัวมาตรวจทางจิตใจ และตรวจสมอง แล้วให้การรักษาเสียโดยเร็วครับ ข้อมูล   นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 94