เรื่องเหี่ยวๆบนใบหน้า ถึงแม้หน้าตาไม่สวยแต่ผิวพรรณเปล่งปลั่งก็ช่วยได้ คนที่มีผิวขาวละเอียด แถบเป็นสีชมพู ระเรื่อ บ่งบอกถึงการมีสุขภาพและการดูแลที่ดี แบบนี้ไม่ต้อง เสียเวลาแต่งเติมสักเท่าไร ผิดกับบางคนที่ต้องโปะแป้งจนหนาเตอะ เพื่อปก ปิดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ฉะนั้นอย่ารีรอที่จะชะรอผิวให้ดูอ่อนเยาว์ไปอีกนานแสนนาน ก่อนอื่นคงจะต้องมา ทำความเข้าใจเกี่ยวกับผิวหนังกันก่อน ปัจจัยที่ทำให้ผิวหนังเสื่อมสภาพมีสอง ปัจจัยด้วยกัน คือ ปัจจัยภายนอก และปัจจัยภายใน ปัจจัยที่ทำให้หน้าเหี่ยวเร็ว ปัจจัยภายใน ปัจจัยภายในที่ทำให้ผิวคนเราเสื่อมนั้น เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลง ทาง ด้านร่างกาย ตามกาลเวลา ซึ่งส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับหนึ่งขึ้นอยู่กับการรับประทาน อาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิด อนุมูลอิสระ เช่นอาหารพวก ไขมันสัตว์ ควรรับประทานอาหารจำพวกวิตามิน เอ ซี และอี ให้เพียงพอ ทานอาหารครบห้าหมู่ เน้นผัก ผลไม้ ดื่มนมมาก ๆ ความครียด นอกจาก จะส่งผลต่อการทำลายผิวหนังแล้ว ยังทำให้จิตใจเศร้าหมอง ใบหน้าเคร่งเครียด (ทำให้แก่ เร็วด้วยค่ะ) ปัจจัยภายนอก ปัจจัยภายนอก นอกจากอาหารการกินแล้วยังมี แสงแดด ซึ่งมีรังสี UV จะไป ทำลายคอลลาเจนและอิลัสติน ผิวหนังคุณอาจจะหยาบกระด้างและมีรอยย่น แต่หากคุณหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอแดด ก็ควรทาครีมกันแดด ที่มีค่า SPF อย่างน้อย 15 ขึ้นไป หลังจากในการทาครีมกันแดด ควรทาก่อนอกแดด 30 นาที และเลือกชนิด ที่ไม่มีน้ำหอมเพื่อป้องกันการเกิดอาการแพ้ เพราะฉะนั้น หากเป็นไปได้ควร หลีกเลี่ยงแสงแดด โดยเฉพาะในช่วง 10.00-15.00 น. เพราะแสงแดดในช่วงนี้มี รังสีอัลตร้าไวโอเรตสูงสุด อะไรที่ทำให้ใบหน้าเหี่ยวได้อีก นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้วสิ่งทึ ไม่น่าเชื่อก็คือ การแสดงออกทางสีหน้า ไมว่า จะเป็นการหยักคิ้ว หลิ่วตา ยิ้ม หรือการทำหน้าย่น ก็มีผลต่อผิวหน้าเช่นกันค่ะ เพราะสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เราทำบ่อย ๆ เป็นร้อย ๆ พัน ๆ ครั้ง (ไม่เชื่อคุณลองยิ้ม กับกระจกดูสิ) แหม! แต่จะห้ามคนไม่ให้ยิ้มก็ คงไม่ได้ ฉะนั้นตามจุดต่าง ๆ เหล่านี้ควรจะมีการบำรุงด้วยครีมบำรุงผิวเฉพาะส่วน การนอนก็ทำให้ผิวหน้ามีรอยย่นได้ เช่น หากคุณนอนคว่ำบริเวณจมูกจะพับ ทำให้จมูกและส่วนที่โดนทับ มีรอยย่นเพราะฉะนั้นท่านอนท่าหมาะสมที่สุด ควรจะเป็นท่านอนหงาย อย่ารอให้ใบหน้ามีรอยเหี่ยวย่นจนยาก แก่การรักษา นะคะเพราะเดี๋ยวจะเข้าทำนองว่า กว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ว ข้อมูล   simplemag