ถ้ารู้จักโรคถุงลมโป่งพอง คุณจะเลิกสูบได้

แม้ว่าการสูบบุหรี่จะทำให้เกิดโรคมากมายนับสิบโรค แต่มีสามโรคที่พบบ่อยกว่าโรคอื่น คือ มะเร็งปอดเส้น เลือด หัวใจตีบ และถุงลมโป่งพอง ในสามโรคนี้ ถุงลมโป่งพองเป็นโรคที่นักสูบบุหรี่เกรงกลัวที่สุด เพราะโรคนี้มีผู้เป็นกันมาก และทรมานนานกว่า จะเสีย ชีวิต นักสูบบุหรี่จำนวนมากไม่กลัวตาย แต่กลัว ทรมาน เป็นโรคหัวใจ และโรคมะเร็งปอด จะตายเร็ว แต่ไม่ ทรมานเท่าโรคถุงลมโป่งพอง

จริงๆ แล้ว โรคถุงลมโป่งพอง ไม่ได้เกิดจากการสูบบุหรี่แต่เพียงอย่างเดียว การ ได้รับ สารเคมี ชนิดอื่นๆ จากการหายใจเป็นเวลานานๆ ก็ทำให้เกิดโรคถุงลมโป่ง พอง ได้เช่น เดียวกัน แต่บุหรี่ เป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดโดยร้อยละ 70 ของโรคนี้ เกิดจากการ สูบบุหรี่ ปอดของคน ประกอบด้วย ถุงลมเล็กๆ เป็นจำนวนนับล้านๆ ถุงลม ถุงลมเหล่านี้ มีขนาด เล็ก มากกว่า ปลายเข็ม ผนังถุงลม จะบางมาก และจะมีเส้นเลือดฝอยบุอยู่ ตามผนัง ถุงลม เวลาคนเรา หายใจ เข้าสู่ปอด อากาศ ที่มีอ๊อกซิเจนจะเข้ามาถึง ถุงลมเล็ก ๆ เหล่านี้ ซึ่งจะเป็นที่ที่อ๊อกซิเจนซึม ผ่านผนัง ถุงลมเข้าสู่ เส้นเลือดฝอย เพื่อไปเลี้ยงร่างกาย

ขณะเดียวกัน คาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซเสียจะถูกขับ ออกจากเส้น เลือดฝอยเข้า สู่ถุงลม และถูกขับออกจากร่างกาย โดยการ หายใจออก

ในการสูบบุหรี่ ควันบุหรี่จะถูกสูดเข้าสู่ทางเดินหายใจจนไปถึงถุงลมปอด ซึ่งนิโคติน และสารเคมีอื่น ๆ ในควันบุหรี่ จะถูกดูดซึม เข้าสู่เส้นเลือดฝอยที่บุตามถุงลม หลังจาก นั้นนิโคตินจึงถูกพาไปตามกระแสเลือดไปสู่สมอง นิโคตินจะ กระตุ้นสมอง และเป็น สารเสพติดที่ทำให้ผู้สูบเสพติดบุหรี่

ในควันบุหรี่มีสารเคมีนับพันชนิด จากการเผาไหม้ของใบยาสูบ กระดาษที่ใช้ มวนบุหรี่ และสารเคมีนับ ร้อยชนิด ที่ใช้ในการปรุงแต่งกลิ่นรส ยิ่งเป็นบุหรี่ต่าง ประเทศยิ่งใช้สารปรุงแต่งกลิ่นรสมาก รสถึงได้นุ่ม แต่รสยิ่งนุ่มเท่าไร ปอดจะยิ่งได้ รับอันตรายมาก เพราะต้องใช้สารปรุงแต่งมาก

สารเคมีในควันบุหรี่เมื่อสัมผัสกับความชื้นของผนังถุงลม จะมีทั้งที่เกิดเป็นกรด และเกิดเป็นด่าง ซึ่งจะทำให้ เกิดการระคายเคืองต่อเยี่อบุหลอดลม เม็ดเลือดขาว ในเส้นเลือดฝอยจะออกมาอยู่ที่ผนังถุงลม เพื่อขับสารออกมา ต่อสู้กับสารเคมี ในควันบุหรี่ เพื่อปกป้องผนังถุงลม

เพื่อนึกภาพให้ง่ายเข้า ปฏิกริยาที่เกิดขึ้นที่ผนังถุงลมก็เหมือนกับปฏิกริยาที่เกิดขึ้น เมื่อควันบุหรี่ปะทะกับเยื่อบุนัยตา เราจะรู้สึก แสบตา และน้ำตาไหล น้ำตาที่ไหลออกมาก็เป็นกลไกของร่างกายในการเจือจางกรดที่เกิดจากควันบุหรี่ เพื่อลดอันตรายต่อเยื่อบุตา ถ้าใครลองให้ควันบุหรี่เข้าตานานๆ ตาจะอักเสบจนแดง สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อควันบุหรี่เข้าตา เกิดขึ้นที่ถุงลมปอด ทุกครั้งที่สูดควัน บุหรี่เข้าปอด

วิวัฒนาการของธรรมชาติไม่เคยคิดว่า คนจะอุตริสูดควันเข้าสู่ปอด จึงไม่มีประสาทที่บอกความเจ็บอยู่ในถุงลมปอด เหมือนกับ ที่มีเป็นจำนวนมากที่เยื่อบุนัยตา เพราะฉะนั้นแม้ควันบุหรี่จะทำให้เกิดการระคายเคือง และกัดทำลายถุงลมไป ทีละเล็กละน้อย ผู้สูบบุหรี่ก็ไม่รู้สึกว่ามีอาการเจ็บในปอดเวลาสูบบุหรี่

คนที่สูบบุหรี่ตั้งแต่ห้าปีขึ้นไป แม้จะยังไม่มีอาการอะไร แต่หากตัดเนื้อปอดออกมาตรวจดู จะพบว่าถุงลมเล็กๆ ถูกทำลายไปแล้ว มากน้อยแล้วแต่จำนวนบุหรี่ที่สูบต่อวัน ผนังถุงลมเล็กๆ หลายๆ ถุงลมที่ถูกทำลายจะรวมกันเข้าเป็นถุงลมที่มีขนาดใหญ่ขึ้น จนสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า นอกจากถุงลมจะมีขนาดใหญ่ขึ้นแล้ว ความยืดหยุ่นของผนังถุงลมทั่วปอดก็จะเสียไปด้วย จากการที่ถูกสารเคมีจากควันบุหรี่กัดกร่อนทุกวันทุกวัน เหมือนลูกโป่งที่ถูกรมควันทุกวันทุกวัน ความยืดหยุ่นของลูกโป่งจะเสียไป

คนที่เสพติดบุหรี่นั้น ถุงลมจะถูกทำลายไปเรื่อยๆ แต่กว่าจะรู้สึกเริ่มเหนื่อยง่าย ถุงลมต้องถูกทำลายไปกว่าครึ่ง ก็คืออายุเกิน 45 ปีขึ้นไป โดยส่วนใหญ่แล้วอายุเฉลี่ยของคนที่เป็นโรคถุงลมโป่งพอง จากการสูบบุหรี่จะอยู่ระหว่าง 55-65 ปี

อาการของโรคนี้เกิดขึ้นจากถุงลมในปอด ถูกทำลายไปโดยควันบุหรี่ เวลาออกกำลังกาย ร่างกายต้องใช้ออกซิเจนมากขึ้น เมื่อถุงลมมีน้อยลงก็ต้องหายใจมากครั้งขึ้น นั่นก็คือเกิดอาการเหนื่อย ระยะแรกของโรคนี้จะเหนื่อยเวลาออกกำลังกาย เมื่อโรคเป็นมากขึ้นจะเหนื่อยเวลาเดิน ขั้นที่สามของโรคจะเหนื่อยแม้ทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การถูฟัน เข้าห้องน้ำ ระยะสุดท้ายอยู่เฉย ๆ ก็เหนื่อย

คนที่สูบบุหรี่จนเกิดอาการเหนื่อยถึงขั้นที่สามแล้วค่อยเลิกสูบ อาการเหนื่อยจะไม่ดีขึ้น เนื่องจากเนื้อปอดถูกทำลายไปมากแล้ว และคนเราไม่ใช่จิ้งจกที่หางขาดไปแล้วยังงอกออกมาใหม่ได้ เนื้อปอดหรือถุงลมที่ถูกทำลายไปแล้ว จะไม่สามารถกลับคืนมาได้ ยังไม่พบยาในโลกนี้ที่จะซ่อมปอดที่เสียไปแล้วได้ ยาอะไรที่ว่าบำรุงปอด ความจริงคือไม่มี

ข้อมูล   simplemag