อำเภอถ้ำพรรณรา

 
 

ประวัติความเป็นมา

 

        เอื้อม อุบลพันธุ์ นักวิชาท้องถิ่นสันนิษฐานเกี่ยวกับชื่อ " ถ้าพรรณรา " ว่าน่าจะมาจาก 3 ประการ

  • น่าจะมาจากคำว่า สุพรรณ หรือ พรรณรายแปลว่า งดงาม แพรวพราว หมายถึง สิ่งของประดับมีค่า หมายถึง ทองคำ ซึ่งปรากฏตามความเชื่อของคนบริเวณนั้น และสิ่งของประจักษ์ชัดว่ามีอยู่ในถ้ำพระพุทธไสยาสน์ โดยที่คำว่าพรรณราย กร่อนมาตามสำเนียงภาษาใต้มาเป็นพรรณรา

  • ประการที่สอง คำว่า " รา " น่าจะหมายถึงคลองรา อันเป็นคลองสำคัญมาแต่โบราณถึงปัจจุบัน และตั้งอยู่เชิงภูเขาอันเป็นที่ตั้งถ้ำพรรณรา

 

  • ประการที่สาม คำว่า ถ้ำ มาจากลักษณะจำนวน

        ถ้ำเล็ก ถ้ำจำนวนนับร้อย ๆ ถ้ำ และถ้ำที่สำคัญมาก คือ ถ้ำพรรณรากับถ้ำกัลยามิตร หรือถ้ำกัลยาณมิตร โดยที่ ถ้ำทองพรรณรา เป็นแหล่งโบราณสถานและโบราณวัตถุ มีการขุดพบทรัพย์สมบัติที่มีค่า ทั้งทอง เงิน พระพุทธรูป ถ้วย ชาม เครื่องประดับ อาวุธ

ถ้ำพรรณรา


Go to Top

 

        ส่วนที่เป็นหลักฐานก่อนประวัติศาสตร์ ได้แก่ ขวานหินขัด ภาชนะดินเผาสีดำ สีแดง ลายเชือกทาบ ชิ้นกระดูกมนุษย์ นับเป็นแหล่งโบราณคดีหลายสมัย คือ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ สมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ และสมัยประวัติศาสตร์ ซึ่งชาวบ้านบริเวณนี้มีการสันนิษฐานกันว่า เป็นทรัพย์สินของคนโบราณ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางไปร่วมกันสร้างพระบรมธาตุที่หาดทรายแก้ว เมื่อทราบว่ามีการสร้างพระบรมธาตุเสร็จแล้ว จึงหยุดการเดินทางและทำการสร้างสิ่งสักการะไว้ เช่น พระพุทธไสยาสน์ ตามตำนานกล่าวว่า สร้างเสร็จหลังการสร้างพระบรมธาตุ

 

        เมื่อมีเศรษฐีนีชาวอินเดีย 2 คน ชื่อ ชีปริง และชีปราง เดินทางมากับพรรคพวก นำสิ่งของมาร่วมสร้างพระบรมธาตุ เดินทางมาตามลำน้ำตาปี เมื่อทราบข่าวการสร้างพระบรมธาตุเสร็จ ทั้งสองคนจึงหาสถานที่เหมาะสม พบว่าบริเวณถ้ำพรรณราเหมาะสมจึงทำการสร้างพระพุทธไสยาสน์ โดยนำเอาสิ่งของมีค่า แก้ว แหวน เงิน ทอง บรรจุไว้ฐานพระและบริเวณใกล้เคียงจำนวนมาก เมื่อทั้งสองเสียชีวิตลง ได้มีการสร้างรูปทั้งสองไว้ที่ปลายเท้าของพระพุทธรูป และบรรจุอัฐไว้ ในการสร้างพระพุทธรูปนั้น ปรากฏว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนมากและนำเอาอัฐิจำนวนมากเก็บใส่หม้อดินบรรจุถ้ำต่ง ๆ


Go to Top

 

        พระพุทธไสยาสน์ ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์เสร็จเมื่อ พ.ศ. 2520 มีความยาว 11 เมตร สูงราว 5 เมตร และได้นำเอาวัตถุโบราณที่ค้นพบบรรจุไว้ในส่วนองค์พระบรรทมและในส่วนหมอน นอกจากนั้นยังได้ปฏิสังขรณ์พระพุทธรูปต่าง ๆ ในบริเวณนี้ เป็นต้นว่า พระปริง พระปราง ทุก ๆ ปี จะมีประชาชนเดินทางมาบูชาแก้บน ในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งตามความเชื่อว่าเป็นคณาญาติของชีปริงและชีปราง โดยได้กระทำต่อเนื่องกันมาจนเป็นประเพณีถึงปัจจุบันนี้ เมื่อคณะที่มาทำบุญบวงสรวงเสร็จ ลูกหลานที่ติดตามมาก็จะเดินสำรวจถ้ำต่าง ๆ จนกลายเป็น ประเพณีขึ้นสำรวจถ้ำ เป็นงานสำคัญในท้องถิ่นด้วย ถ้ำทองพรรณราในปัจจุบันตั้งอยู่บริเวณวัดถ้ำทองพรรณรา หมู่ที่ 9 ตำบลถ้ำพรรณรา โดยสถานภาพปัจจุบันกรมศิลปากรได้ขึ้นขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งโบราณคดี เมื่อ พ.ศ. 2521

 

ถ้ำทองพรรณรา หรือถ้ำพรรณรา

        ถ้ำพรรณราเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับการยกฐานะเป็นกิ่งอำเภอ แบ่งแยกอำเภออกจากอำเภอฉวาง เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2533 ตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 19 มกราคม พ.ศ.2533 และยกฐานะเป็นอำเภอถ้ำพรรณรา เมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ.2538


สภาพทั่วไป


 

        อำเภอถ้ำพรรณราขึ้นกับจังหวัดนครศรีธรรมราช มีเนื้อที่จำนวน 180 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 112,500 ไร่ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัดนครศรีธรรมราช ห่างจากตัวจังหวัด 108 กิโลเมตร

 

อาณาเขต

ทิศเหนือ ติดกับ อ. เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี

ทิศใต้ ติดกับ อ. ทุ่งใหญ่

ทิศตะวันออก ติดกับ อ. ฉวาง

ทิศตะวันตก ติดกับ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช


Go to Top

 


         อำเภอถ้ำพรรณรา แบ่งการปกครองออกเป็น 3 ตำบล 28 หมู่บ้าน คือ

  • ตำบลถ้ำพรรณรา 9 หมู่บ้าน
  • ตำบลคลองเส 8 หมู่บ้าน
  • ตำบลดุสิต 11 หมู่บ้าน

 


  • องค์การบริหารส่วนตำบล 3 แห่ง

โดยมีประชากรเมื่อ พ.ศ. 2540 จำนวน 16,848 คน

  • ชาย 8,457 คน
  • หญิง 8,391 คน


Go to Top

 

ลักษณะภูมิประเทศ

มีลักษณะเป็นเนินเขา

ทิศเหนือ

ในเทือกเขานครศรีธรรมราช ประกอบด้วยป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 3 ป่า คือ ป่าปลายรา ตำบลถ้ำพรรณรา เนื้อที่ 37,681 ไร่ ป่าคลองซ่อน ตำบลดุสิต เนื้อที่ 1,717 ไร่ และป่าทุ่งหนอง

 



ครวญ เนื้อที่ 16,288 ไร่

ทิศใต้และทิศตะวันออก

เป็นที่ราบลุ่ม มีแหล่งน้ำที่สำคัญ ๆ คือ แม่น้ำตาปี คลองวง คลองยาว คลองเที๋ยะ และคลองรา และมีน้ำผุดธรรมชาติ 1 แห่ง บริเวณเกาะลอย น้ำผุดหรือเกาะพระ หมู่ที่ 3 ตำบล ดุสิต ซึ่งเป็นน้ำของคลองเล


Go to Top

 

ภูมิอากาศมี 2 ฤดู คือ

  • ฤดูร้อน ระหว่าง เดือน กุมภาพันธุ์ ถึง เดือนมิถุนายน
  • ฤดูฝน ระหว่าง เดือน กรกฎาคม ถึงเดือน มกราคม

 



ประชากรประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก โดยเฉพาะการปลูกยางพารา 48,500 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 80 ทำนาข้าว 9,500 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 15.8 และทำสวนผลไม้ 1,500 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 2.5 อาชีพอื่น ๆ 1000 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 1.7


Go to Top

 

        การคมนาคมมีถนนอย่างดีเพียง 2 สาย คือ ทางหลวงแผ่นดินหรือถนนเพชรเกษม หมายเลข 41 เป็นเส้นทางสายหลักผ่านพื้นที่อำเภอนี้ และทางหลวงจังหวัด 4224 สายถ้ำพรรณรา - ทานพอ นอกนั้นเป็นถนนลูกรังและถนนดินธรรมดาเชื่อมระหว่างหมู่บ้านและตำบลต่าง ๆ จำนวน 27 สาย

 

แผนทีอำเภอถ้ำพรรณรา


Go to Top

 

        อำเภอถ้ำพรรณรา มีสถานที่สำคัญเป็นที่รู้จักของประชาชนภายในและอำเภอใกล้เคียง นอกเหนือจาก ถ้ำทองพรรณรา ถ้ำที่สำคัญอีกถ้ำคือ ถ้ำกัลยามิตร หรือเขาพันถ้ำ ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 7 ตำบลดุสิต มีฐานะเป็นที่พักสงฆ์ในการอาศัยเป็นสำนักวิปัสสนากรรมฐาน ชาวบ้านเรียกว่า ถ้ำไร ตามเจ้าของที่ดินเดิมชื่อนายไร ต่อมาพระภิญโญได้ซื้อมาจนเปลี่ยนชื่อเป็น ถ้ำกัลยาณมิตร มีสภาพทั่ว ๆ ไปเป็นป่า ภายในถ้ำมีความสวยงามของหินงอกหินย้อยตามธรรมชาติ มีภาพเขียนของคนดบราณและเคยเป้นฐานที่มั่นของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ที่ใช้ถ้ำบางถ้ำเป็นที่

 

ประชุมหรือชุมนุมของสมาชิกพรรค และสถานที่น่าสนใจ แหล่งสุดท้ายคือ เขตอนุรักษ์เกาะลอยหรือเกาะพระ หรือน้ำผุดคลองเล เป็นบ่อน้ำผุดขนาดใหญ่หรือมีสภาพเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 3 ตำบล ดุสิต มีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์น้ำและปกคลุมด้วยต้นไม้หนาแน่นเหมาะแก่การท่องเที่ยว โดยมคำขวัญที่สอดรับการท่องเที่ยวและสภาพภูมิประเทศว่า

     พระไสยาสน์ล้ำค่า ตระกาลตาถ้ำกัลยามิตร

     ผลผลิตยางพารา อนุรักษ์ป่าฉ่ำชื่น

     ขึ้นถ้ำเป็นประเพณี สายตาปีชลเขต


   ......Back