ระเบียบการแข่งขันเปตองกีฬานักเรียนเทศบาลภาคใต้ ประจำปี 2545 1.
ประเภทการแข่งขัน นักเรียน ชาย,หญิง รุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี (ไม่เกิดก่อนปี
พ.ศ. 2533) 1.1 ประเภทบุคคล เดี่ยว (ชาย,หญิง) 1.3
ประเภทคู่ผสม 1.2 ประเภท คู่ (ชาย,หญิง) 1.4
ประเภททีมผสม 2.
ประเภทการแข่งขัน นักเรียน ชาย,หญิง รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี (ไม่เกิดก่อนปี
พ.ศ. 2530) 2.1 ประเภทบุคคล เดี่ยว (ชาย,หญิง) 2.3
ประเภทคู่ผสม 2.2 ประเภท คู่ (ชาย,หญิง) 2.4
ประเภททีมผสม 3.
การสมัครเข้าแข่งขัน เทศบาลจะส่งใบสมัครและหลักฐานนักกีฬา
ได้ที่เทศบาลที่เป็นเจ้าภาพของแต่ละภาคก่อนวันเริ่มการแข่งขันไม่น้อยกว่า 20 วัน เมื่อยื่นหลักฐาน จะขอแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมอีกไม่ได้ไม่ว่ากรณีใด
ๆทั้งสิ้น โดยส่งหลักฐาน ดังนี้ 3.1 หนังสือนำส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน 3.2 ทะเบียนรูปถ่ายนักกีฬาเปตอง 3.3 บัญชีรายชื่อผู้เข้าแข่งขันเปตอง 3.4 หนังสือแสดงความยินยอมของผู้ปกครองนักกีฬา 3.5 ใบรับรองของครูใหญ่
หรืออาจารย์ใหญ่ หรือผู้อำนวยการโรงเรียน (การรับรองรูปจะต้องเป็น นายทะเบียนโรงเรียนเท่านั้น) 3.6 สำเนาทะเบียนบ้านของนักกีฬาที่ผู้บริหารสถานศึกษาให้การรับรองไว้ถูกต้อง 3.7 รูปถ่ายนักกีฬาที่ติดในเอกสารต่าง
ๆ ต้องหน้าตรง,ไม่สวมหมวก
ไม่สวมแว่นกันแดด
ขนาด 4 x 5 ซม. แต่งเครื่องแบบนักเรียน
ถ่ายแล้วไม่เกิน 6 เดือน และประทับตราโรงเรียนพร้อม ลายเซ็นผู้รับรอง 35 4.
คุณสมบัติของนักกีฬา 4.1 ต้องเป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนเทศบาล 4.2 มีสภาพเป็นนักกีฬาสมัครเล่นตามข้อบังคับกรมพลศึกษาว่าด้วยสถานภาพ
กีฬาสมัครเล่น
พุทธศักราช 2481 โดยอนุโลม 4.3 นักกีฬาคนหนึ่งจะส่งรายชื่อเข้าแข่งขันได้ทุกประเภท 4.4 นักกีฬาที่จะเป็นตัวแทนเทศบาล
เทศบาลอาจพิจารณาคัดเลือกจากหลาย ๆ ทีมที่เข้าแข่งขัน 5.
จำนวนนักกีฬาที่ส่งเข้าแข่งขัน 5.1 โรงเรียนเทศบาลและเมืองพัทยาที่ส่งนักเปตองเข้าแข่งขัน จะส่งชื่อเข้าแข่งขันได้ดังนี้ -
ประเภทเดี่ยว (ชาย,หญิง) ไม่เกินประเภทละ
1 คน -
ประเภทบุคคลคู่ (ชาย,หญิง) ไม่เกินประเภทละ 2 คน -
ประเภทคู่ผสม ไม่เกิน 2 คน -
ประเภททีมผสม ไม่เกิน 3 คน 5.2 เมื่อส่งบัญชีรายชื่อและทะเบียนรูปถ่ายของนักกีฬาแล้ว
โรงเรียนหรือเทศบาลแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมอีกไม่ได้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น 5.3 นักกีฬาที่มีชื่อในแบบแยกประเภทการแข่งขัน
และลงทะเบียนผู้สมัครเข้าแข่งขันมีคุณสมบัติ ถูกต้องพร้อมทั้งได้ส่งรูปถ่ายและทำบัตรประจำตัวครบถ้วนแล้วเท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์เข้าแข่งขันได้ 6.
การดำเนินการแข่งขัน 6.1 กติกาที่ใช้ในการแข่งขันใช้กติกาของสหพันเปตองแห่งประเทศไทย 6.2 ลูกเปตองใช้ในการแข่งขันใช้ลูกเปตองชนิดแข่งขัน 6.3 นักกีฬาคนใดไม่มาทำการแข่งขันตามกำหนดวัน
เวลา ในการแข่งขัน โดยไม่แจ้งคณะกรรมการจัดการแข่งขันทราบล่วงหน้าก่อนเวลาการแข่งขัน 48 ชั่วโมง คณะกรรมการแข่งขันอาจพิจารณาให้นักกีฬาผู้นั้นหมดสิทธิ์ในการแข่งขัน 6.4 ในการแข่งขัน
ครูผู้ควบคุมทีมหรือครูผู้ฝึกสอนต้องนำนักกีฬาไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมการแข่งขันที่สนามแข่งขันก่อนเวลาเริ่มการแข่งขันไม่น้อยกว่า 30 นาที 6.5 ในวันแข่งขันนักกีฬาคนใดไม่มีครูผู้ควบคุมนำนักกีฬามาทำการแข่งขัน
จะตัดสิทธิ์ห้ามผู้นั้นลง แข่งขันครั้งนั้น
และให้ถือว่าคู่แข่งขันที่มีคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วนเป็นผู้ชนะผ่าน 36 6.6 การแข่งขันสาย
นักกีฬาคนใดไม่พร้อมที่จะลงสนามแข่งขันหลังจากเลยกำหนดเวลาเริ่มการแข่งขันไปแล้ว 5 นาที จะถูกปรับเป็นแพ้ 6.7 นักกีฬาทุกคนต้องแสดงบัตรประจำตัวนักกีฬาต่อเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมการแข่งขัน
เมื่อจะลงทำการแข่งขันทุกครั้ง หากนักกีฬาคนใดลืมบัตรประจำตัวนักกีฬา หรือทำสูญหายไม่สามารถนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมการแข่งขัน
ห้ามนักกีฬาคนนั้นลงทำการแข่งขันในครั้งนั้น 6.8 นักกีฬาคนใดทำบัตรประจำตัวนักกีฬาสูญหาย
คณะกรรมการจัดการแข่งขันจะพิจารณาออกให้ใหม่เมื่อนักกีฬาคนนั้นนำรูปถ่าย 1 รูปมาให้เจ้าหน้าที่ควบคุมการแข่งขัน 6.9 นักกีฬาผู้เข้าแข่งขันจะต้องแต่งกายให้เรียบร้อย
ผู้เล่นประเภทคู่หรือผู้เล่นประเภททีมต้องใส่เสื้อแบบเดียวกัน 6.10หากนักกีฬาผู้ใดแต่งกายไม่เรียบร้อยให้เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมการแข่งขันพิจารณาห้ามนักกีฬาผู้นั้น ลงทำการแข่งขันชั่วคราว จนกว่าจะจัดการให้เป็นที่เรียบร้อยตามที่กำหนดไว้ 7.
การรักษามารยาท 7.1 ครูผู้ควบคุม
ครูผู้ฝึกสอนและนักกีฬาต้องยอมรับคำตัดสินของกรรมการผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ตัดสินการแข่งขันครั้งนั้น
ๆ ทุกกรณี 7.2 ตลอดเวลาการแข่งขัน
นักกีฬาต้องประพฤติตนให้สมกับเป็นนักกีฬาที่ดี กับต้องปฏิบัติตนตามระเบียบและกติกาการแข่งขันโดยเคร่งครัด 7.3 ในวันแข่งขันนักกีฬา
ผู้ใดเจตนาผละออกจากการแข่งขันในขณะการแข่งขันกำลังดำเนินอยู่ ถือว่าเป็นการผิดมารยาทนักกีฬาอย่างร้ายแรง
ให้ปรับนักกีฬาผู้นั้นเป็นแพ้ในการแข่งขันครั้งนั้น กับ ตัดสิทธิ์นักกีฬาผู้นั้นมิให้เข้าร่วมการแข่งขันต่อไป 7.4 นักกีฬาที่แสดงกิริยาวาจาและประพฤติตนไม่เหมาะสม
หรือเล่นรุนแรง ผิดมารยาทจนถูกกรรมการผู้ตัดสินให้ออกจากการแข่งขัน เป็นการผิดวินัยของนักกีฬาที่ดี
คณะกรรมการจัดการแข่งขันจะพิจารณาโทษห้ามลงทำการแข่งขันเป็นครั้งคราวหรือตลอดไป 8.
กองเชียร์ กองเชียร์ต้องเชียร์ด้วยความเรียบร้อยและรักษามารยาทในการเชียร์ 37 9.
การประท้วง 9.1 การประท้วงคุณสมบัตินักกีฬา
ผู้ควบคุมทีมมีสิทธิ์ยื่นหนังสือประท้วงคุณสมบัตินักกีฬาว่าไม่
ถูกต้องโดยยื่นต่อคณะกรรมการจัดการแข่งขันให้คณะกรรมการจัดการแข่งขันสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคุณสมบัติของนักกีฬาที่ถูกประท้วง
โดยสอบสวนพยานหลักฐานต่าง ๆ แล้วบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรหากการสอบสวนมีมูลว่าขาดคุณสมบัติก็ให้ชี้ขาดการประท้วงทันทีโดยปรับเป็นแพ้หรือห้ามนักกีฬาผู้นั้นเข้าร่วมการแข่งขันต่อไป
แล้วแต่กรณีอันสมควร 9.2 การประท้วงให้ปฏิบัติดังนี้ 9.2.1
ให้ยื่นคำประท้วงเป็นลายลักษณ์อักษร
โดยผู้ควบคุมทีม 9.2.2
คำประท้วงต้องมีข้อความชัดเจนและมีพยานหลักฐานประกอบครบถ้วน
ถ้าหากไม่มีพยานหลักฐานประกอบคำประท้วงจะไม่รับคำประท้วงนั้น 9.2.3
การประท้วงผลการแข่งขันต้องยื่นประท้วงภายใน 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่การแข่งขันครั้งนั้นได้สิ้นสุด (ไม่นับวันหยุดราชการ)
กรณีประท้วงเรื่องคุณสมบัตินักกีฬาต้อง
ยื่นประท้วงก่อนลงสนามแข่งขัน 9.3 การประท้วงทุกกรณีถ้าเป็นผลจะไม่มีผลย้อนหลังในรอบที่ผ่านมา
แต่จะมีผลกับทีมที่เข้าแข่งขันในรอบที่มีการประท้วงเท่านั้น การนับคะแนนจะมีผลต่อทีมคู่กรณีที่ประท้วงและกับทีมที่ยังไม่ได้ทำการแข่งขันในรอบนั้น
ๆ แต่จะไม่มีผลกับทีมที่แข่งขันไปแล้วในรอบนั้น ๆ 9.4 การประท้วงทุกกรณีถ้าเป็นผลให้ปรับผลการแข่งขันของนักกีฬาหรือทีมนั้นเป็นแพ้
โดยให้เจ้าภาพริบถ้วยรางวัล เหรียญรางวัลและใบประกาศเกียรติคุณคืนพร้อมกับเลื่อนลำดับผลการแข่งขันของนักกีฬาในลำดับถัดไปขึ้นมาแทน |
หน้าแรก |