ระเบียบการแข่งขันฟุตบอลกีฬานักเรียนเทศบาลและเมืองพัทยา

ประจำปี  2545

1.      ประเภทการแข่งขัน

1.1  นักเรียนชาย (ไม่เกิดก่อน ปี พ.. 2533)

1.2  นักเรียนชาย (ไม่เกิดก่อน ปี พ.. 2530)

 

2.      การสมัครเข้าแข่งขัน

เทศบาลและเมืองพัทยาจะส่งใบสมัครและหลักฐานนักกีฬาได้ที่เทศบาลที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาของแต่ละภาค ก่อนวันเริ่มการแข่งขันไม่น้อยกว่า 20 วัน เมื่อยื่นหลักฐานแล้วจะขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมอีกไม่ได้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น โดยส่งหลักฐานดังนี้

2.1        หนังสือนำส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน

2.2        ทะเบียนผู้สมัครเข้าแข่งขัน

2.3        บัญชีรายชื่อผู้เข้าแข่งขันฟุตบอล

2.4        ใบรับรองนักเรียนโรงเรียนเทศบาลและเมืองพัทยา และหนังสือแสดงความยินยอมของผู้ปกครอง

2.5        สำเนาทะเบียนบ้านของนักกีฬาที่นายทะเบียนท้องถิ่น หรือนายทะเบียนอำเภอให้การรับรองไว้ถูกต้อง

2.6        รูปถ่ายนักกีฬาที่ติดในเอกสารต่าง ๆ ต้องหน้าตรง ไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นกันแดดขนาด 4x5 ซม. แต่งเครื่องแบบนักเรียน ถ่ายแล้วไม่เกิน 6 เดือน และประทับตราโรงเรียนพร้อมลายเซ็นผู้รับรอง

 

3.      คุณสมบัติของนักกีฬา

3.1        ต้องเป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนเทศบาลและเมืองพัทยา ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน ของปีการแข่งขัน ยกเว้นเป็นนักเรียนในสังกัดเทศบาลและเมืองพัทยาย้ายเข้ามาเรียนในสังกัดเดียวกัน ทั้งนี้ต้องแนบเอกสารการโอนย้ายจากเทศบาลเดิมมาพร้อมใบสมัครด้วย

3.2        มีสภาพเป็นนักกีฬาสมัครเล่นตามข้อบังคับกรมพลศึกษาว่าด้วยสถานภาพนักกีฬาสมัครเล่นพุทธศักราช 2481 โดยอนุโลม

3.3        นักกีฬาคนหนึ่งจะส่งรายชื่อเข้าแข่งขันได้เพียง 1 ทีม เท่านั้น

3.4        นักกีฬาที่จะเป็นตัวแทนของทีมเทศบาล เทศบาลอาจพิจารณาคัดเลือกจากหลาย ๆ ทีมที่เข้าแข่งขัน คัดเลือกภายในของแต่ละเทศบาล

3.5        นักกีฬาที่จะเป็นตัวแทนของภาค ต้องเป็นตัวแทนหรือทีมของเทศบาลที่ชนะเลิศรองชนะเลิศ และชนะอันดับที่ 3 การแข่งขันระดับภาค

 

4.      จำนวนนักกีฬาที่ส่งเข้าแข่งขัน

4.1              โรงเรียนหรือเทศบาลและเมืองพัทยาที่ส่งทีมฟุตบอลเข้าแข่งขัน จะส่งชื่อผู้เข้าแข่งขัน ได้ทีมละไม่เกิน 18 คน

4.2              เมื่อส่งบัญชีรายชื่อและรูปถ่ายของนักกีฬาแล้วโรงเรียนหรือเทศบาลและเมืองพัทยาจะขอแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมอีกไม่ได้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น

4.3              หมายเลขประจำตัวนักกีฬาที่ส่งเข้าแข่งขันให้กำหนดตั้งแต่หมายเลข 1-18 เท่านั้น และต้องติดหมายเลขเสื้อประจำตัวของนักกีฬาแต่ละคน ให้ตรงกับหมายเลขในบัญชีรายชื่อนักกีฬาและทะเบียนรูปถ่ายผู้สมัครเข้าแข่งขัน

4.4              นักกีฬาที่มีชื่อในบัญชีรายชื่อนักกีฬา ทะเบียนผู้สมัครเข้าแข่งขันมีคุณสมบัติถูกต้อง พร้อมทั้งได้ส่งรูปถ่ายและทำบัตรประจำตัวครบถ้วนแล้วเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์เข้าแข่งขันได้

 

5.      การดำเนินการแข่งขัน

5.1        กติกาที่ใช้ในการแข่งขัน ใช้กติกาของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย หรือกรมพลศึกษาหรือตามที่กรมการปกครองกำหนด

5.2        ทีมใดไม่มาทำการแข่งขันตามกำหนดวัน เวลา ในการกำหนดการแข่งขัน โดยไม่แจ้งให้คณะกรรมการจัดการแข่งขันทราบล่วงหน้าก่อนเวลาการแข่งขัน 48 ชั่วโมง คณะกรรมการจัดการแข่งขันอาจพิจารณาให้นักกีฬาผู้นั้นหมดสิทธิ์ในการแข่งขัน

5.3        ในการแข่งขัน ครูที่มีชื่อเป็นผู้ควบคุมทีมหรือครูผู้ฝึกสอน ต้องนำนักกีฬาไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมการแข่งขันที่สนามแข่งขันก่อนเวลาเริ่มการแข่งขันไม่น้อยกว่า 30 นาที เมื่อถึงกำหนดการแข่งขันแล้วทีมใดมีผู้เล่นน้อยกว่า 9 คน จะไม่ให้ทำการแข่งขัน และถือว่าทีมนั้นแพ้ในการแข่งขันครั้งนั้น การแข่งขันทีมใดมีผู้เล่นน้อยกว่า 7 คน ให้ปรับทีมนั้นเป็นแพ้ในการแข่งขันครั้งนั้น

5.4        ในวันแข่งขัน นักกีฬาทีมใดไม่มีครูผู้ควบคุมนำนักกีฬามาทำการแข่งขัน จะตัดสิทธิ์ห้ามผู้นั้นลงแข่งขันในครั้งนั้น และให้ถือว่าคู่แข่งขันที่มีคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วนเป็นผู้ชนะผ่าน

5.5        การส่งรายชื่อผู้เข้าแข่งขัน ครูผู้ควบคุมทีมนักกีฬาต้องส่งรายชื่อผู้เข้าแข่งขันประจำวัน พร้อมด้วยลายเซ็นของนักกีฬาแต่ละคน และชื่อผู้ควบคุม ผู้ฝึกสอน ตามแบบฟอร์มใบส่งรายชื่อผู้เข้าแข่งขันประจำวันต่อเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมการแข่งขันเมื่อไปถึงสนามแข่งขัน

5.6        การมาแข่งขันสาย นักกีฬาทีมใดไม่พร้อมที่จะลงสนามแข่งขันหลังจากเลยกำหนดเวลาเริ่มการแข่งขันไปแล้ว 15 นาที ให้ปรับทีมนั้นเป็นแพ้ในการแข่งขันครั้งนั้น และต้องมาทำการแข่งขันในครั้งต่อไปตามปกติด้วย ในกรณีที่นักกีฬาของทีมมาครบ 11 คน และถึงเวลาเริ่มการแข่งขันแล้วจะไม่อนุญาตให้ทีมนั้นขอเลื่อนเวลาการแข่งขันออกไป และจะต้องลงทำการแข่งขันทันที

5.7        นักกีฬาทุกคนต้องแสดงบัตรประจำตัวนักกีฬา ต่อเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมการแข่งขันทุกวันที่ตนมาทำการแข่งขัน หากนักกีฬาคนใดลืมบัตรประจำตัวนักกีฬาหรือทำสูญหายไม่สามารถนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมการแข่งขันได้ ห้ามนำนักกีฬาคนนั้นลงทำการแข่งขันในครั้งนั้นจนกว่าจะนำบัตรประจำตัว นักกีฬามาแสดงให้เป็นที่ถูกต้อง

5.8        นักกีฬาคนใดที่ทำบัตรประจำตัวนักกีฬาสูญหาย คณะกรรมการจัดการแข่งขันจะพิจารณาออกให้ใหม่เมื่อนักกีฬาคนนั้นนำรูปถ่าย 1 รูป มาให้เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมการแข่งขัน

5.9        ผู้เข้าแข่งขันต้องแต่งกายให้เรียบร้อยเหมือนกับตามที่แจ้งในบัญชีรายชื่อผู้เข้าแข่งขันประจำวัน และต้องติดหมายเลขประจำตัวผู้เล่นทั้งด้านหน้าและด้านหลังให้เห็นชัดเจนตรงกับบัญชีส่งรายชื่อและทะเบียนรูปถ่ายนักกีฬาผู้เข้าแข่งขันสีเสื้อผู้รักษาประตูต้องมีสีแตกต่างจากสีเสื้อของผู้เล่นทั้งสองทีม และเสื้อผู้เล่นต้องแตกต่างจากผู้ตัดสิน ในกรณีที่สีเสื้อของผู้เล่นเหมือนกัน ให้เปลี่ยนสีเสื้อผู้เล่นโดยการเสี่ยงทีมใดไม่ยอมเสี่ยงและเสี่ยงแล้วไม่ยอมเปลี่ยนเสื้อให้ปรับเป็นแพ้ในการแข่งขันครั้งนั้น ผู้เข้าแข่งขันต้องสวมถุงเท้ายาวพร้อมสนับแข้งและรองเท้าฟุตบอล ทั้งระดับภาคและระดับประเทศ

5.10    หากนักกีฬาผู้ใดแต่งกายไม่เรียบร้อย ให้เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมการแข่งขันพิจารณาห้ามนักกีฬาผู้นั้นลงทำการแข่งขัน หรือให้พักการแข่งขันชั่วคราวจนกว่าจะจัดการให้เป็นที่เรียบร้อยตามที่กำหนดไว้

5.11    กำหนดเวลาการแข่งขันและพักระหว่างแข่งขันเป็นไปตามระเบียบสากล

5.12    สนามและลูกฟุตบอล

-          สนามแข่งขันอายุไม่เกิน 13 ปี

ขนาด 55.0 x 85.0 เมตร

ประตูขนาด 2 x 5.50 เมตร

-          สนามแข่งขันอายุไม่เกิน 16 ปี เป็นสนามขนาดมาตรฐานสากล

-          ลูกฟุตบอลที่ใช้แข่งขันใช้ตามระเบียบสากล ทั้ง 2 ประเภท

5.13    การแข่งขันระดับภาค

การแข่งขันแต่ละรอบ (ยกเว้นรอบชิงชนะเลิศ) หากมีทีมที่ได้คะแนนเข้ารอบเท่ากันให้ใช้วิธีจับสลากเป็นวิธีตัดสิน ทีมที่ชนะการ จับสลาก จะได้เข้าทำการแข่งขันในรอบต่อไป

รอบรองชนะเลิศ

ถ้าปรากฏผลการแข่งขันเสมอกัน ให้หาทีมที่ชนะด้วยวิธีเตะลูกโทษ ณ จุดเตะโทษ (ไม่มีการต่อเวลา) สำหรับผู้ที่จะเตะลูกโทษต้องเป็นผู้เล่นที่อยู่ในสนามแข่งขันก่อนหมดเวลาการแข่งขันเท่านั้น ทีมใดฝ่าฝืนให้ปรับทีมนั้นเป็นแพ้

การแข่งขันชิงตำแหน่งที่  3

เมื่อสิ้นสุดเวลาของการแข่งขันแล้ว หากผลของการแข่งขันยังเสมอกันอยู่ ไม่มีการต่อเวลาให้ใช้วิธีเตะลูกโทษ ณ จุดเตะโทษ เพื่อหาทีมชนะตำแหน่งที่ 3 เพียงทีมเดียว

รอบชิงชนะเลิศ (คู่ชิงชนะเลิศ)

ถ้าปรากฏผลการแข่งขันเสมอกันให้ต่อเวลาการแข่งขันออกไปอีก 10 นาที ครึ่งเวลาละ 5 นาที เปลี่ยนแดนกันโดยไม่มีการหยุดพัก แต่หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำประตูได้ก่อนให้ถือว่าเป็นผู้ชนะการแข่งขัน ถ้าปรากฏว่าผลของการแข่งขันยังเสมอกันอยู่อีกให้ใช้วิธีเตะลูกโทษ ณ จุดเตะโทษนั้น เพื่อหาทีมที่ชนะเลิศ เพียงทีมที่ชนะเลิศเพียงทีมเดียว สำหรับผู้ที่จะเตะลูกโทษ ณ จุดเตะโทษนั้น จะต้องเป็นผู้เล่นที่เล่นอยู่ในสนามแข่งขันก่อนหมดเวลาการแข่งขันเท่านั้น ทีมใดฝ่าฝืนให้ปรับทีมนั้นเป็นแพ้

5.14    การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ

-          คณะกรรมการจัดการแข่งขันจะได้กำหนดโปรแกรมการแข่งขันและแจ้งให้ทราบต่อไป

-          การแข่งขันแต่ละครั้งถ้าผลการแข่งขันเสมอกันให้หาทีมชนะด้วยวิธีเตะลูกโทษ ณ จุดโทษ

-          วิธีเตะลูกโทษ ณ จุดโทษ เหมือนกับการแข่งขันในระดับภาค

-          การแข่งขันชิงตำแหน่งที่ 3 เหมือนกับการแข่งขันในระดับภาค

-          การแข่งขันคู่ชิงชนะเลิศ เหมือนกับการแข่งขันในระดับภาค

5.15    การเปลี่ยนตัวผู้เล่นในระหว่างการแข่งขัน อนุญาตให้เปลี่ยนตัวผู้เล่นได้ทีมละ 3 คน

5.16    คะแนนการแข่งขัน ให้ถือเกณฑ์การให้คะแนนการแข่งขันดังนี้

ทีมชนะได้          3          คะแนน

เสมอได้             1          คะแนน

แพ้                    0          คะแนน

ไม่มาแข่งขัน       0          คะแนน

 

6.      การรักษามารยาท

6.1        ครูผู้ควบคุมทีม ครูผู้ฝึกสอนและนักกีฬาต้องยอมรับคำตัดสินของกรรมการผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ตัดสินการแข่งขันครั้งนั้น ๆ ทุกกรณี

6.2        ตลอดเวลาการแข่งขันครูผู้ควบคุมทีมครูผู้ฝึกสอนและนักกีฬาต้องประพฤติตนให้สมกับการเป็นเจ้าหน้าที่และนักกีฬาที่ดี กับต้องปฏิบัติตนตามระเบียบและกติกาการแข่งขันโดยเคร่งครัด

6.3        นักกีฬาที่ถูกกรรมการคาดโทษ

-          คาดโทษด้วยใบเหลือง 2 ครั้ง ในรอบใด ๆ ก็ตาม (ทุกระดับการแข่งขัน) ห้ามลงทำการแข่งขันในครั้งต่อไป 1 ครั้ง หรือมากกว่านั้นตามควรแก่กรณี

-          คาดโทษด้วยใบแดง 1 ครั้ง ในรอบใด ๆ ก็ตาม ห้ามลงทำการแข่งขันในครั้งต่อไป 1 ครั้ง หรือมากกว่านั้นตามควรแก่กรณี

6.4        หากทีมใดฝ่าฝืนส่งนักกีฬาที่ถูกกรรมการผู้ตัดสินคาดโทษหรือลงโทษดังกล่าวลงแข่งขันให้ปรับทีมนั้นเป็นแพ้ในการแข่งขันครั้งนั้น และมีผลกับทีมอื่น ๆ ในรอบนั้น ๆ

6.5        ในวันแข่งขันนักกีฬาผู้ใดเจตนาผละออกจากการแข่งขันในขณะการแข่งขันกำลังดำเนินอยู่ถือว่าเป็นการผิดมารยาทนักกีฬาอย่างร้ายแรง ให้ปรับนักกีฬาผู้นั้นและทีมนั้นเป็นแพ้ในการแข่งขันครั้งนั้นกับตัดสิทธิ์นักกีฬาผู้นั้นหรือนักกีฬาทีมนั้นเข้าร่วมการแข่งขันต่อไป

6.6        นักกีฬาที่แสดงกิริยาวาจาและพฤติตนไม่เหมาะสมหรือเล่นรุนแรงผิดมารยาทจนถูกกรรมการผู้ตัดสินให้ออกจากการแข่งขัน เป็นการผิดวิสัยของนักกีฬาที่ดี คณะกรรมการจัดการแข่งขันจะพิจารณาโทษห้ามลงทำการแข่งขันเป็นครั้งคราวหรือตลอดไป

 

7.      กองเชียร์

กองเชียร์ต้องเชียร์ด้วยความเรียบร้อย และรักษามารยาทในการเชียร์

 

8        การประท้วง

8.1        การประท้วงคุณสมบัตินักกีฬา ผู้ควบคุมทีมมีสิทธิ์ยื่นหนังสือประท้วงคุณสมบัตินักกีฬาว่าไม่ถูกต้อง โดยยื่นต่อคณะกรรมการจัดการแข่งขันให้คณะกรรมการจัดการแข่งขันสอบสวนข้องเท็จจริงเกี่ยวกับคุณสมบัติของนักกีฬาที่ถูกประท้วง โดยสอบสวนพยานหลักฐานต่าง ๆ แล้ว บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรหากการสอบสวนมีมูลว่าขาดคุณสมบัติก็ให้ชี้ขาดประท้วงทันทีโดยปรับเป็นแพ้หรือห้ามนักกีฬานั้นแข่งขัน ต่อไป แก้วแต่กรณีอันสมควร

8.2        การประท้วงให้ปฏิบัติ ดังนี้

8.2.1        ให้ยื่นคำประท้วงเป็นลายลักษณ์อักษรโดยผู้ควบคุมทีม

8.2.2        คำประท้วงต้องมีข้อความชัดเจนและมีพยานหลักฐานประกอบครบถ้วน ถ้าหากไม่มีพยานหลักฐานประกอบคำประท้วงจะไม่รับคำประท้วงนั้น

8.2.3        การประท้วงผลการแข่งขันต้องยื่นประท้วงภายใน 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่การแข่งขันครั้งนั้นได้   สิ้นสุด (ไม่นับวันหยุดราชการ) กรณีประท้วงเรื่องคุณสมบัตินักกีฬาต้องยื่นประท้วงก่อนลงสนามแข่งขัน

8.3        การประท้วงทุกกรณีถ้าเป็นผลจะไม่มีผลย้อนหลังในรอบที่ผ่านมา แต่จะมีผลกับทีมที่เข้าแข่งขันในรอบที่มีการประท้วงเท่านั้น การนับคะแนนจะมีผลต่อทีมคู่กรณีที่ประท้วงและกับทีมที่ยังไม่ได้ทำการแข่งขันในรอบนั้น ๆ แต่จะไม่มีผลกับทีมที่แข่งขันไปแล้วในรอบนั้น ๆ

8.4        การประท้วงทุกกรณี ถ้าเป็นผลให้ปรับผลการแข่งขันของนักกีฬาผู้นั้นหรือทีมนั้นเป็นแพ้ โดยให้เจ้าภาพรอบคัดเลือกระดับภาคและเจ้าภาพรอบชิงชนะเลิศริบถ้วยรางวัล เหรียญรางวัล และใบประกาศ-เกียรติคุณคืน พร้อมกับเลื่อนลำดับผลการแข่งขันของนักกีฬาในลำดับถัดไปขึ้นมาแทน

 

9        รางวัล

9.1        รอบคัดเลือกระดับภาค ให้เทศบาลที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับภาคพิจารณามอบถ้วยรางวัลและเหรียญรางวัลพร้อมใบประกาศเกียรติคุณ

9.2        รอบชิงชนะเลิศ คณะกรรมการจัดการแข่งขันพิจารณามอบถ้วยรางวัล และเหรียญรางวัล พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ

 

 

เอกสารที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาฟุตบอล  ประกอบด้วย

 

เอกสารหมายเลข   1       หนังสือนำส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน

เอกสารหมายเลข   2       ใบรับรองนักเรียนโรงเรียนเทศบาลและเมืองพัทยา และหนังสือแสดงความยินยอมของผู้ปกครอง

เอกสารหมายเลข  3        ทะเบียนผู้สมัครเข้าแข่งขัน

เอกสารหมายเลข  5       บัญชีรายชื่อนักกีฬาสมัครเข้าแข่งขัน

เอกสารหมายเลข  6       บัญชีรายชื่อผู้เข้าแข่งขันฟุตบอลประจำวัน

เอกสารหมายเลข   11     ตัวอย่างบัตรประจำตัวนักกีฬา

เอกสารหมายเลข   12     ใบรายงานของผู้ตัดสินและรายชื่อผู้ตัดสิน ผู้กำกับเส้นการแข่งขันฟุตบอล

เอกสารหมายเลข   17     ใบเปลี่ยนตัวผู้เล่นฟุตบอล

 

หน้าแรก