|
คลองหัวไทร-ปากพนัง ความยาวประมาณ 63 กิโลเมตร เริ่มต้น ที่คลองปากพนัง ไหลลงทะเลสาปสงขลา ที่ตำบลระโนด(ปากระวะ อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา) นอกจากนี้ยังมีคลองสาขาอีกหลายแห่ง
เช่น คลองพัทธสีมา คลองบางดิ่ง คลองท่าเสา คลองบางปราชญ์ คลองหัวลำภู คลองแพรกเมือง คลองบางตะพาน คลองรามแก้ว คลองโพรงจระเข้ คลองดอนผาสุก คลองควนชะลิก เป็นต้น ซึ่งมีความสำคัญต่อการประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรมของอำเภอหัวไทร มาตั้งแต่ในอดีต นอกจากนี้ยังมีคลองพลเอกอาทิตย์ และคลองชลประทาน ซึ่งได้มีการขุดในภายหลังเพื่อการเกษตรในพื้นที่ทำนา อำเภอหัวไทร มีปัญหาในเรื่องทรัพยากรน้ำ นื่องจากมีการขาดแคลนน้ำจืดในการอุปโภค บริโภค รวมทั้งในการทำการเกษตร นอกจากนี้การที่ประชาชนในพื้นที่ได้หันมาทำการเลี้ยงกุ้งกุลาดำกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีปัญหาเรื่องน้ำเค็มลุกลำเข้าไปในแหล่งน้ำจืด แต่ในปัจจุบันได้มีโครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งมีการแบ่งโซนเป็นเขตน้ำจืดและน้ำเค็มออกจากกันชัดเจนขึ้น ซึ่งคาดว่าสภาพปัญหาในเรื่องทรัพยากรคงจะเบาบางหรือหมดไปในที่สุด ควรติดตามและเร่งรัดทุกโครงการอย่างต่อเนื่องทุกปี
คลองส่งน้ำพลเอกอาทิตย์ กำลังเอก จำนวน 2 สาย คือ จากหมู่ที่ 8 ตำบลเขาพังไกร - หมู่ที่ 9 ตำบลทรายขาว และจากหมู่ที่ 1 ตำบลท่าซอม - หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านราม แล้วเข้าเขตอำเภอเชียรใหญ่
ป่าไม้
อำเภอมีพื้นที่ป่าไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ป่าสงวนแห่งชาติเขาพระบาท ซึ่งอยู่ในท้องที่ตำบลทรายขาวมีพื้นที่ประมาณ 1,500 ไร่ นอกจากนี้ยังมีป่าชุมชน ซึ่งเป็นโครงการของรัฐบาลส่วนใหญ่ปลูกไม้สน พื้นที่ที่ทำนากุ้ง ต้นไม้ถูกทำลายลงจำนวนหนึ่งควรที่จะมีการรณรงค์ปลูกป่าชุมชนและปลูกป่าในที่สาธารณะเพิ่มขึ้น
- ป่าไม้ ในท้องที่อำเภอหัวไทร มีป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 1 ป่า คือ ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาพระบาท ท้องที่ตำบลทรายขาว เนื้อที่ประมาณ 1,525 ไร่
สภาพโดยทั่วไป ยังคงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ป่าและพันธุ์ไม้นา ๆ ชนิด แต่บางส่วนได้ถูกบุกรุก ยึดถือครอบครองและใช้ประโยชน์ในดินลูกรัง ประมาณ 10-20 % ของพื้นที่
- โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ
มีจำนวน 1 แปลง พื้นที่ประมาณ 1,000 ไร่ บริเวณอ่างเก็บน้ำทุ่งทับใน ท้องที่ตำบลแหลม พันธุ์ไม้ที่ใช้ปลูก หว้า, กระถินเทพา, สะเดาเทียม และ ขี้เหล็กบ้าน รวมทั้งรณรงค์ปลูกต้นตาลโตนด
- โครงการส่งเสริมปลูกไม้เศรษฐกิจ จำนวน 72 ราย พื้นที่ 1,225 ไร่ ท้องที่ตำบลแหลม , ตำบลควนชะลิก, ตำบลทรายขาว, ตำบลบางนบ, ตำบลเขาพังไกร และ ตำบลหัวไทร
ดิน
ในพื้นที่อำเภอหัวไทร สภาพทั่วไปเป็นที่ราบลุ่มดินส่วนใหญ่เป็นดินเหนียว ซึ่งประชาชนจะใช้ในการปลูกข้าว ทำไร่นาสวนผสม เลี้ยงสัตว์น้ำจืด สวนทางด้านตะวันออก เนื่องจากอยู่บริเวณชายฝั่งทะเล จึงมีลักษณะดินร่วนปนทราย ซึ่งปัจจุบันประชาชนจะใช้ประโยชน์ในการเลี้ยงกุ้งกุลาดำริมฝั่งทะเล ริมคลองหัวไทร - ปากพนัง และ คลองสาขา
สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและมลภาวะ
- ทรัพยากรภูเขา ได้แก่ เขาพระบาทและเขาต่าง ๆ ได้มีการบุกรุกขุดดินลูกรัง ทำให้ป่าไม้และดินเสื่อมโทรม ยากแก่การป้องกัน เนื่องจากช่องว่างของกฎหมายและขาดจิตสำนึกร่วมกัน
- ทรัพยากรดิน เนื่องจากความแห้งแล้งและป่าไม้ถูกทำลาย ส่งผลกระทบต่อแม่น้ำลำคลอง ทำให้มีน้ำเค็มมีปริมาณมากขึ้นและราษฏรได้ประกอบอาชีพเลี้ยงกุ้งกุลาดำ ทำให้สภาพดินได้รับผลกระทบต้องแบ่งเขตพื้นที่เป็นเขตน้ำจืด น้ำเค็มรวมทั้งจัดระบบชลประทานเพื่อการเลี้ยงกุ้งและแก้ไขปัญหาน้ำเสีย และ พื้นที่บางส่วนเป็นที่ลุ่ม ลึก ทำให้น้ำและดินมีรสเปรี้ยว ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพเกษตรกรรมควรมีการปรับปรุงดิน
- คลองหัวไทร - ปากพนัง เนื่องจากน้ำเสียจากชุมชนและน้ำเสียจากบ่อกุ้งไหลลงสู่ลำคลองโดยไม่ได้มีการบำบัด ทำให้นำเสียและมีสารเคมีตกค้าง ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศต้องมีการขุดลอกและติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียรวม และคลองส่งน้ำหลายสายมีวัชพืช ปกคลุม
- มลภาวะด้านขยะ เนื่องจากปริมาณขยะและสิงปฏิกูล ในเขตเทศบาลและเขตชุมชน ยังไม่มีระบบกำจัดขยะที่เพียงพอและถูกวิธี ส่งผลกระทบต่อมลภาวะและสิ่งแวดล้อม โดยรวม เป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข นอกจากนี้การใช้สารพิษและปุ๋ยเคมี ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของประชาชนจำเป็นจะต้องสร้างความตระหนักและสร้างจิตสำนึก ให้ทุกฝ่ายมาร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
- ทรัพยากรชายทะเล เนื่องจากมีชุมชนและบ้านเรือนของราษฎรตั้งอยู่กระจัดกระจาย ไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย มีการทิ้งขยะและสิ่งปฏิกูลลงในหาดทรายชายทะเล รวมทั้งการวางระบบท่อ และระบบบำบัดน้ำเสียโดยไม่ถูกวิธี จำเป็นจะต้องหามาตรการป้องกัน รณรงค์สร้างจิตสำนึกพัฒนาหาดทรายชายทะเล รวมทั้งปรับปรุงอนุรักษ์สัตว์น้ำประมงชายฝั่งและก่อสร้างคันหินป้องกันคลื่นซัดชายฝั่ง ซึ่งทำให้ได้รับความเสียหาเป็นประจำทุกปี
- ปัญหาภัยธรรมชาติ เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของอำเภอหัวไทรเป็นที่ราบลุ่มราษฏรจึงต้องประสบปัญหาอุทกภัยในฤดูฝนเป็นประจำทุกปี รวมทั้ง ปัญหาการระบายน้ำด้วย ซึ่งสร้างความเสียหายทางด้านการเกษตรและสร้างความเดือดร้อน ให้กับประชาชนในพื้นที่ส่วนในฤดูร้อนบางปีก็เกิดฝนทิ้งช่วงทำให้ประสบปัญหาภัยแล้งอีกด้วย
|