คือรูปหนังตะลุงทีเป็นเสมือนตัวแทนของชาวบ้านซึ่งจำลองรูปร่างลักษณะ กิริยาท่าทางและนิสัยมาจากคนจริงในสังคมภาคใต้ หนังตะลุงคณะหนึ่งๆ จะมีตัวตลกประมาณ 8 -15 ตัว แต่ละตัวมีรูปร่างและนิสัยแตกต่างกัน แต่ทุกตัวจะพูดภาษาถิ่น มีลีลาการพูดสุ้มเสียงแตกต่างกัน เมื่อเป็นตัวตลกตัวเดียวกันไม่ว่าคณะใดจะนำไปใช้จะต้องรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตัวตลกนั้นๆ ให้เป็นแบบเดียวกันหมด คนเชิดต้องศึกษาและฝึกเชิดแต่ละตัวให้เกิดความช่ำชองถูกต้องตามแบบฉบับจะผิดเพี้ยนไปไม่ได้ ดังนั้น "ยอดทอง" ของหนังตะลุงทุกคณะจะต้องแกะให้รูปร่างหน้าตาเหมือนกัน มีขนาดใกล้เคียงกัน ผู้เชิดทุกคณะต้องฝึกเลียนเสียงยอดทองให้มีสำเนียงเป็นอย่างเดียวกันมีนิสัยตามที่เคยมีมาทุกประการ นายหนังตะลุงจึงต้องสวมวิญญาณของตัวตลกตัวนั้นๆ ตามแบบฉบับที่นิยมสืบถ่ายกันมาอย่างแนบเนียนและครบถ้วน

    
         ตัวตลกของหนังตะลุง มีบทบาทสำคัญเท่าที่ปรากฏอยู่ดังนี้
         1. ให้ผู้ชมเกิดอารมณ์ขัน เนื่องจากหนังตะลุงต้องแสดงกลางคืน ใช้เวลาแสดงนาน และมักแสดงไปจนกระทั่งสว่าง ดังนั้นการที่จะต้องคอยกระตุ้นไม่ให้ผู้ชมง่วงหลับจึงเป็นเรื่องสำคัญ นายหนังจึงต้องคอยแทรกเรื่องตลกให้ได้ฮากันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จึงจำเป็นต้องมีตัวตลกออกมาคอยเรียกเสียงฮาทุกฉากทุกตอน ฉากนั่งเมืองใช้ตัวตลกเป็นอำมาตย์เสนา ฉากเดินป่ามีตัวตลกเป็นผู้ติดตาม ฉากรบใช้ตัวตลกเป็นพลรบคอยยั่วเย้าท้าทาย ฉากรักใช้ตัวตลกคอยหยอกล้อชี้แนะ เป็นต้น โดยมากในแต่ละฉากแต่ละตอนจะมีตัวตลกเกินกว่า 1 ตัว เพื่อจะได้ชวนกันดึงเข้าสู่จุดได้สะดวกยิ่งขึ้น ผู้ชมหนังตะลุงบางคนสนใจการตลกมากกว่าการดำเนินเรื่อง หนังตะลุงที่ตลกเก่ง คือมีแง่มุมตลกได้มาก ตลกเหมาะจังหวะ มีความขำคมอยู่ในที ไม่หยาบโลนมากนัก ให้เป็นที่พอใจของผู้ชมทุกเพศทุกวัย

         2. ทำให้นายหนังสามารถแสดงทัศนะหรือวิพากษ์วิจารณ์ขัดแย้งได้สะดวกยิ่งขึ้น เนื่องจากบางสิ่งบางอย่างที่มีผลกระทบต่อสังคม ถูกจำกัดการแสดงทัศนะวิพากษ์วิจารณ์แต่เป็นความต้องการของสังคมที่ใคร่ฟังหรือได้ระบายออกกรณีเช่นนี้หนังตะลุงจะใช้วิธีแสดงออกผ่านตัวตลก เป็นทีเล่นทีจริง หยิกแกมหยอกหรือบางครั้งก็โจมตีตรงไปตรงมาอย่างรุนแรงสนองทั้งความต้องการของนายหนังเองและของผู้ชม ทำให้เรื่องหนักกลายเป็นเรื่องเบา กรณีเช่นนี้เคยมีนายหนังตะลุงบางคนถูกจับฟ้องร้องฐานด่าเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านตัวตลก มีการสู้คดีกัน นายหนังตะลุงแก้ว่าตนไม่ได้พูด ตัวตลกเป็นตัวพูดให้นำตัวตลกไปจับขังแทน ในที่สุดนายหนังคณะนั้นถูกสั่งห้ามออกตัวตลกนั้นเป็นเวลา 3 ปี นายหนังก็เชื่อฟังพอครบ 3 ปี ก็นำตัวตลกนั้นมาใช้ตามเดิมและบอกเล่ากับผู้ชมที่หายหน้าไป 3 ปีเต็มเพราะติดคุก

         3. ช่วยให้นายหนังได้พักเหนื่อยไปในตัว เพราะเนื่องจากการแสดงหนังตะลุงแต่ละครั้ง ต้องใช้เวลาต่อเนื่องกันหลายชั่วโมง การดำเนินเรื่องอย่างเป็นกิจจะลักษณะทำให้นายหนังเหนื่อยมาก เพราะต้องคิดบทกลอนบ้าง คิดบทสนทนาบ้างเรื่องก็ดำเนินไปเร็วเกินควร ต้องใช้เรื่องยาวๆ ยากแก่การผูกเรื่องและคลี่คลายเหตุการณ์จึงใช้วิธีตลกแทรกมากๆ เพราะสามารถจะดึงเรื่องใดเข้ามาสอดแทรกก็ได้ เมื่อเรียกเสียงฮาได้ครั้งหนึ่ง นายหนังก็ได้หยุดพักผ่อนไปในตัว หรือแม้จะตลกต่อเนื่องไปก็ไม่เคร่งเครียดเหมือนกับการดำเนินเรื่อง

         4. ทำให้การเชิดหนังตะลุงมีหลากลักษณะและเป็นศิลปะที่คงอยู่ได้ เนื่องจากตัวตลกหนังตะลุงมีลักษณะเฉพาะแตกต่างกัน มีน้ำเสียงและนิสัยผิดแปลกกัน ทำให้ลีลาการเชิดการสวมบทบาทมีหลายลักษณะ ผู้ชมจึงไม่เบื่อง่าย แม้ลูกคู่ที่บรรเลงดนตรีก็สนุกตาม และที่สำคัญยิ่งก็คือตัวตลกช่วยให้การแสดงหนังตะลุงเข้าถึงจิตใจประชาชนได้ทุกเพศทุกวัยสามารถดึงเหตุการณ์เฉพาะหน้าหรือสภาพความเป็นจริงของสังคมที่เป็นปัจจุบันมาสอดใส่ในบทบาทของตัวตลกได้ทุกเรื่องทุกช่วงตอน หนังตะลุงจึงเป็นสื่อชาวบานที่ตามสมัยนิยมกันอยู่เสมอ อันเป็นคุณลักษณะสำคัญที่ช่วยให้ศิลปะการเชิดหนังตะลุงของภาคใต้คงอยู่ได้
         การเสนอมุขตลกของหนังตะลุงบางคณะ นอกจากจะใช้ตัวตลกเป็นสื่อ อาจจะใช้ตัวสำคัญ เช่น เจ้าเมืองบางเมืองเป็นตัวตลกก็มี ในกรณีเช่นนี้เรียกกันว่า "ตลกรูปใหญ่ ส่วนการตลกที่ใช้ตลกโดยตรงชาวบ้านเรียกว่า "ตลกรูปกาก" (รูปกาก หมายถึงรูปประกอบเบ็ดเตล็ดไม่ใช่รูปสำคัญ ) หนังตะลุงบางคณะใช้ฤาษีทุศีล (เช่น ฤาษีเซ่ง) หรือใช้ยักษ์บ้าๆ บอๆเป็นตัวตลกก็มี

    
         รูปหนังตะลุงคณะหนึ่งๆ ซึ่งมีประมาณ 100 - 200 ตัว มีทั้ง ฤาษี มนุษย์ เทวดา ยักษ์มาร และรูปประกอบอื่นๆ หนังตะลุงถือว่ามีศักดิ์ศรีต่างกัน การจัดเก็บซ้อนในแผงเก็บรูปก็ดี การจัดปักหรือแขวนรูปไว้ในโรงขณะแสดงก็ดี ต้องจัดเป็นพวกลำดับให้ถูกตามศักดิ์ เช่น ฤาษีมีศักดิ์สูงสุดต้องเก็บไว้บนสุด เมื่อแขวนรูปเทวดาต้องอยู่เหนือศีรษะ รูปฝ่ายอธรรม เช่น ยักษ์ โจร นางเบียน ต้องปักวางไว้ซ้ายมือของหนัง รูปฝ่ายธรรมะไว้ทางขวา เหล่านี้เป็นต้น สำหรับตัวตลกนั้นถือว่าเป็นรูปที่มีศักดิ์สูงรองจากฤาษี พระอิศวร เทวดาและเจ้าเมืองลงไปแต่มีความสำคัญกว่าตัวพระตัวนางหรือเจ้าเมืองที่ขาดคุณธรรมรูปตลกบางตัวนายหนังถือเป็นรูปศักดิ์สิทธิ์มีการปิดทองเต็มตัวมีการเคารพบูชาเป็นพิเศษ แต่ทั้งนี้ย่อมแตกต่างกันไปตามความศรัทธาของคณะนั้นๆรูปตลกบางตัวแกะสลักขึ้นอย่างมีพิธีรีตอง มีการเลือกวันเริ่มแกะสลัก เลือกลักษณะของหนังที่นำมาตัด บางรูปใช้หนังเท้าจากศพของคนที่นายหนังบูชานับถือมาเป็นส่วนประกอบซึ่งโดยมากมักจะใช้เป็นตัวตลกเอก อาจมีพิธี "เบิกปาก" เพื่อให้มีความศักดิ์สิทธิ์พูดจาเป็นที่พอใจ ผูกใจคนดู เหล่านี้เป็นต้น

    
         รูปตัวตลกแต่ละตัวมีวิธีการแกะสลักและประกอบให้แขนทั้ง 2 ข้างสามารถเคลื่อนไหวได้ โดยแบ่งตัดแขนแต่ละข้างเป็น 3 ตอน เป็นช่วงแขนบนตอนหนึ่ง ใช้เชือกเหนียวร้อยต่อกันเพื่อให้แขนเคลื่อนไหวได้ทั้ง 3 ส่วน คล้ายคนจริง โดยจะใช้ไม้กลมเล็กผูกโยงร้อยไว้กับสันหลังมือสำหรับเชิดให้มือเคลื่อนไหว อาจทำท่ายกมือไหว้ ผลัก ถอง ตบตี เอื้อม ฉุด ลาก ได้ทุกประการ นอกจากนั้นปากของรูปตัวตลกก็ทำให้สามารถเคลื่อนไหวริมฝีปากล่างขึ้นลงได้ โดยมีเชือกผูกสไรับชักปากให้อ้าออกและมีคันโยงคล้ายคันเบ็ดขนาดเล็กผูกแนบซ่อนไว้เพื่อดึง จึงสามารถชักปากตัวตลกขึ้นลงได้ตามจังหวะของการพูดทำให้มีชีวิตชีวายิ่งขึ้น วิธีพากย์รูปหนังตะลุงโดยการชักปาก"นี้เป็นเหตุให้เกิดสำนวนภาษากล่าวตำหนิคนที่พูดอะไรโดยไม่เป็นตัวของตัวเองว่า " ถูกชักปาก "





อ้ายหนูนุ้ย หรือนายหนูนุ้ย เป็นคนวิกลจริต รูปร่างหน้าตาและกริยาท่าทางดูประหลาด เที่ยวเดินเตร็ดเตร่อยู่แถวตลาดคลองขวาง จังหวัดสงขลา "หนังนุ้ยหมาตาย" บรมครูหนังตะลุงไปพบเข้าจึงเอามาเป็นแบบตัดเป็นตัวตลก มีกรรไกรหนีบหมากเป็นอาวุธประจำตัว
อ้ายยอดทอง หรืออ้ายยอดทองบ้านาย มีอาชีพขายพลูอยู่ที่อำเภอเขาชุมทอง จังหวัดนครศรีธรรมราช ชอบแต่งตัว นิยมชมชอบคนสวยงาม จึงมักอยู่ใกล้ชิดเจ้านายรูปงามที่แต่งตัวสวย มีนิสัยขี้โม้ คุยโวโอหัง บ้ายอและเจ้าชู้



โถ หรือ อ้ายโถ เป็นตัวตลกหนังตะลุงตัวหนึ่ง มีตัวตลกตัวนี้เฉพาะหนังตะลุงบางคณะเท่านั้น เช่น หนังแสงโถ หนังนครินทร์ ชาทอง เป็นต้น อ้ายโถ เป็นคนจีน ร่างเตี้ย ล่ำสัน ไว้เปีย หัวเล็ก นุ่งกางเกงขายาวแบบจีน (อาจพับกางเกงขึ้นมาเสมอเข่า) บางทีสวมกางเกงมีจุดแดง เป็นคนที่เห็นแก่กินและสนใจเรื่องกินมากกว่าเรื่องอื่นๆ ขี้ขลาดตาขาวไม่สู้คน

พูน หรือ อ้ายพูน เป็นชื่อตัวตลกหนังตะลุงตัวหนึ่ง โดยปกติจะรับบทบาทเป็นเสนาประจำเมืองยักษ์และมักทำหน้าที่เฝ้าประตูเมือง อ้ายพูนมีรูปร่างอ้วนใหญ่ ผิวดำ หัวล้าน จมูกทู่ยาวและงุ้ม พุงยาน ก้นเชิดงอน นุ่งกางเกงขาสั้น หรือบางทีนุ่งผ้าดำครึ่งท่อน ไม่สวมเสื้อ มักถือขวานเป็นอาวุธ นิสัยคล้ายๆ กับยอดทอง เป็นคนชอบทำบ้าๆ บอๆ เอาเป็นจริงจังไม่ค่อยได้ทำตัวเป็นคนพาลและชอบดุตามความเคยชินที่ใกล้ชิดอยู่กับพวกยักษ์



เท่ง หรือ อ้ายเท่ง เป็นชื่อรูปตลกของหนังตะลุงซึ่งทุกคณะมักมีประจำโรง และทุกคณะ สวมลักษณะนิสัย ลีลาการพูด สำเนียงพูดเป็นลักษณะเดียวกัน มักออกเป็นตัวเสนาคู่กับหนูนุ้ย
ประวัติความเป็นมา เชื่อกันว่ารูปเท่งมีผู้ตัดเลียนรูปร่างลักษณะและถอดนิสัยมาจากคนจริง ซึ่งเป็นชาวบ้านคูขุด อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา คนผู้นั้นมีอาชีพทำน้ำตาลโตนด ทำหวาก(ทำกระแช่) และรุนกุ้งฝอยให้เมียขาย
รูปร่างลักษณะ ตัดด้วยหนังหนาสีดำล้วน ผอมบาง สูง โย่ง ท่อนบนยาวกว่าท่อนล่าง ผิวดำ หัวเถิก ผมหยิกเป็นปอย อยู่เฉพาะส่วนท้ายทอย จมูกทู่โต ตาขาวโต ปากกว้าง หน้าตาพิกลคล้ายนกกะฮังหรือคล้ายหัวตุ๊กแก มือเคลื่อนไหวได้ทั้ง ๒ ข้าง นิ้วมือข้างซ้ายกำหลวมๆ นิ้วชี้กับหัวแม่มืองอหงิกเป็นวงเข้าหากัน ส่วนมือข้างขวาเหลือเพียงนิ้วชี้เพียงนิ้วเดียวทู่โต เพราะเป็นคุดทะราดมาแต่เด็กๆ และมักใช้มือทั้ง ๒ ข้างทำท่าด่าแม่ผู้อื่นแทนถ้อยคำอย่างที่ ภาษาใต้เรียกว่า "ฉับโขลก"
การแต่งกาย ไม่สวมเสื้อ นุ่งผ้าโสร่งลายตาหมากรุก ขาว-ดำ เคียนพุงด้วยผ้าขาวม้าเหน็บมีดพื้นเมืองซึ่งเรียกว่า "อ้ายครก" เท้าเปลือย แต่หนังตะลุงสมัยใหม่ตัดรูปเท่งสวมชุด อ.ส. ก็มีชุดทหารพรานก็มี เพื่อใช้เชิดเฉพาะตอนตามบทบาทในเนื้อเรื่องที่สมมติให้เป็น
นิสัย เท่งเป็นตัวตลกคะนอง ขบขันง่าย มุทะลุไม่กลัวคน ชอบล้อเลียนเพื่อน มีความฉลาดแหลมในบางโอกาส แต่บางครั้งก็พูดพล่อยๆ มักท่าดีทีเหลว ชอบขู่สำทับเพื่อน แต่ใจจริงไม่สู้คน ใครด่าว่าก็ไม่โกรธ แต่มักยอกย้อน ชอบด่าว่าเขาง่ายๆ และอยู่ข้างจะบ้ายอ
ลีลาการพูด พูดช้าๆ แต่ไม่ชัดคำ เกือบติดอ่าง มีอารมณ์ขันอยู่ในที มักมีเสียงหัวเราะแทรก บางครั้งพูดโผงผางแบบขวานผ่าซากไม่เกรงใจใครจะด่าว่าใครไม่ยั้งคิด เมื่อพลั้งผิดมักด่าตัวเอง ชอบทำท่าประกอบคำพูดและจ้องหน้าคู่สนทนา

สะหม้อ เป็นตัวตลกของหนังตะลุงบางคณะ เป็นตัวแทนของชาวไทยมุสลิมผู้มีลีลาการพูดจาที่ชวนขบขัน มักออกคู่กับขวัญเมือง
ประวัติความเป็นมา หนังกั้น ทองหล่อ บ้านน้ำกระจาย อำเภอเมืองสงขลา ยืนยันว่าเป็นรูปตัวตลกที่ตนเป็นต้นคิด ทำขึ้นเพื่อเป็นตัวตลกพิเศษประจำคณะของตน โดยได้นำเอาคนจริงจากหมู่บ้านสะกอม อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา มาเป็นต้นแบบและเอาชื่อจริงมาใช้ คือตัดเลียนแบบมาจากนายสะหม้อ (สะเมาะ) ซึ่งเป็นลูกชายของโต๊ะยีโซะ บ้านสะกอม อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ตามประวัติว่าหนังกั้น ทองหล่อ เองก็ยังไม่เคยได้เห็นตัวจริง แต่ทำรูปขึ้นตามจินตนาการจากเสียงเล่าลือว่าเป็นคนมีนิสัยตลกโปกฮา เป็นคนดุและเป็นนักเลงเต็มตัว ต่อมาหนังตะลุงคณะอื่นๆ ก็นิยมตัดรูปสะหม้อไปแสดงกันอย่างแพร่หลาย
รูปร่างลักษณะ หลังโกง มีโหนกคอ คางย้อยๆ แบบคนชรา รูปร่างผอมสูงแต่ท้องป่องคล้ายคนอมโรค
การแต่งกาย สวมหมวกแขก ไม่สวมเสื้อ นุ่ง ผ้าโสร่งพับชายบนปล่อยกลับลงไปตามแบบที่ชาวไทยมุสลิมนิยมแต่งชักชายผ้าให้ข้างหนึ่งตื้นแล้วปล่อยข้างหลังลึกๆ มือซ้ายถือไม้สะแด็ด
นิสัย ชอบตะลกคะนอง หยอกล้อและพูดทับเพื่อนเก่ง ตามลักษณะนิสัยของชาวสะกอมทั่วๆ ไปที่มักพูดจาเป็นเชิงหยิกแกมหยอก ชอบพูดยกยอผู้อื่นเป็นนิดๆ พอเพลินใจ แล้วตวัดกลับด้วยการติเตียนอย่างเจ็บแสบและรุนแรง มีความเป็นนักเลงกล้าได้กล้าเสีย นับถือศาสนาอิสลามแต่ไม่เข้าถึงหลักศาสนา ชอบขัดคอคนอื่นเล่นให้เป็นที่สนุกคะนอง แต่ใจจริงมีความนับถือและรักใคร่เพื่อนฝูง มีความเอื้ออารี เสียสละ แต่ก็ไม่ยอมเสียเปรียบใครง่ายๆ
ลีลาการพูด พูดตามสำเนียงชาวไทยมุสลิมที่หมู่บ้านสะกอม อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา พูดเนิบๆ ช้าๆ หนักแน่น พูดจาแบบคนหัวโบราณ ไม่กล่อมเกลาถ้อยคำสำนวน คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น ไม่เกรงใจใคร เมื่อสบโอกาสมักคุยเขื่องและแฝงด้วยอารมณ์ขัน มีความเชื่อมั่นในความคิดเห็นและเหตุผลของตัวเอง



สีแก้ว เป็นชื่อตัวตลกสำคัญของหนังตะลุง มักออกคู่กับยอดทอง
ประวัติความเป็นมา เชื่อกันว่าเป็นรูปตัวตลกที่ตัดขึ้นโดยเลียนแบบจากคนจริง ซึ่งเป็นชาวบ้านรัตปูร (รัตปูน) ตำบลเชิงแส อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา
รูปร่างลักษณะ อ้วน เตี้ย แบบมะขามข้อเดียง ผิวดำคล้ำ ดูข้างๆ จลลงพุงตามอย่างผู้ที่เลยวัยกลางคนไปแล้วทั่วๆ ไป หัวล้านเกลี้ยง จมูกโต คางสั้น
การแต่งกาย ไม่สวมเสื้อ สวมสร้อยคอ นุ่งผ้าโจงกระเบน ผ้าลายตาหมากรุก (บางคณะไม่สวมถุงน่อง) ไม่สวมรองเท้า ไม่ถืออาวุธและไม่พกอาวุธ นิสัย เป็นคนซื่อสัตย์สุจริต มีสติปัญญารอบคอบ หลักแหลม มีธรรมะธัมโม พูดน้อยและจริงจังเป็นคนหนักแน่น บึกบึน สู้ไม่ถอย เมื่อต่อสู้มักใช้หัวชนคู่ต่อสู้แทนอาวุธ ชอบอบรมสั่งสอนตัวตลกอื่นๆ ที่ประพฤติผิด มักมีความขัดแย้งกับยอดทอง ซึ่งเป็นเพื่อนคู่หู เป็นคนสงวนท่าทีและมีตบะ สีแก้วเป็นผู้มีความรู้ทางไสยศาสตร์ มีเวทย์มนต์คาถาและอยู่ยงคงกระพัน สามารถเอาชนะพวกยักษ์มารซึ่งไม่มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่มากนัก
ลีลาการพูด สีแก้วเป็นคนพูดน้อย พูดช้าๆ หนักแน่น ชัดถ้อยชัดคำ พูดด้วยความมั่นใจ น้ำเสียงน่านับถือ รู้จังหวะการพูด เมื่อสนทนากับผู้ใหญ่มักพูดด้วยความคารวะ ไม่สอดเสือก ไม่พูดนอกประเด็น

ปราบ หรือ อ้ายปราบ เป็นชื่อตัวตลกหนังตะลุงส่วนมากมักเป็นทหารของฝ่ายยักษ์ อ้ายปราบเป็นคนที่จมูกเป็นริดสีดวงจนจมูกยุบจึงพูดแบบคนจมูกบี้ เพื่อนๆ จึงมักล้อเลียนเสียงและเป็นเหตุให้ทะเลาะกัน นุ่งกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อ ตัดผมสั้นหวีแสกกลาง มือถือหวีข้างหนึ่งถือ กระจกข้างหนึ่ง เป็นคนเจ้าสำรวย ชอบแต่งกาย เป็นห่วงทรงผมยิ่งกว่าอื่นใด มักหยุดพูดหยุดทำงาน เพื่อแอบหวีผมแต่งหน้า แม้ตอนรบรากันบางครั้งต้องหยุดหวีผมแล้วรบกันต่อ แต่ไม่เป็นคนเจ้าชู้เพราะสนใจตัวเองมากกว่าคนอื่น



อินแก้ว เป็นตัวตลกหนังตะลุงตัวหนึ่ง มักทำหน้าที่เฝ้าประตูเมือง คอยซักถามแขกเมือง และนำความไปกราบบังคมทูลเจ้าเมือง เป็นตัวตลกที่มีเฉพาะหนังตะลุงบางคณะ อินแก้วมีรูปร่างผอม ค่อนข้างสูง ฟันล่าง ครอบฟันบน มีผมหร็อมแหร็มเป็นกระจุกอยู่ตรงกลางกระหม่อม นุ่งผ้าลายตาหมากรุก ไม่สวมเสื้อ มีนิสัยเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่มีชั้นเชิง เป็นคนเอางานเอาการ

อ้ายเหมียน
มีนิสัยชอบรำมโนราห์ เป็นรูปหนังตะลุงที่หนังหนูจันทร์คิดทำขึ้นให้ เป็นตัวตลกเด่นประจำคณะ เพื่อเรียกความสนใจจากคนดู

นายหนัง
นายหนัง
การเปลี่ยนแปลงเทคนิคการนำเสนอ
การเปลี่ยนแปลงเทคนิคการนำเสนอ