การพระราชพิธีในวันที่ ๒๘ มีนาคม เรียกว่าตั้งน้ำ วงด้ายมี พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์และสวดภาณวารใน พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย วันที่ ๒๙ มีนาคม เลี้ยงพระ อ่าน ประกาศสังเวยเทวดา สวดอาฎานาฏิยสูตร ยิงปืนมหาฤกษ์ มหาชัย มหาจักรี มหาปราบยุค วันที่ ๓๐ มีนาคม พระราชทานน้ำพระมหาสังข์ทรงเจิมแก่พระราชวงศ์ วันที่ ๓๑ มีนาคม พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์วันที่ ๑ เมษายน เสด็จ สรงน้ำพระบรมอัฐิและพระอัฐิ ณ หอพระธาตุมณเฑียร เลี้ยงพระ ในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย สรงมูรธาภิเษกที่ชาน หน้าพระที่นั่งจันทรทิพโยภาส (พระที่นั่งราชฤดีในปัจจุบัน) ถ้ามีพระราชวงศ์จะ โสกันต์ก็กำหนดในงานพระราชพิธีนี้ สดับปกรณ์พระบรมอัฐิและ พระอัฐิ เวลาบ่ายมีงานอุทยาน สโมสร กระทรวงวังจัดที่ลงพระนาม และนามถวายพระพร วันที่ ๒ เมษายน เสกน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสนาราม แล้วเสด็จฯ ไปสรงน้ำ พระพุทธรูป ที่หอราชพงศานุสร หอราชกรมานุสร พระศรีรัตนเจดีย์ พระมณฑป หอพระคันธารราษฎร์และพระวิหารยอด แล้ว สดับ ปกรณ์พระบรมอัฐิสมเด็จพระบวรราชเจ้าและพระอัฐิ พระบรมวงศานุวงศ์ที่หอพระนากเวียนเทียนสมโภชพระ พุทธมหามณีรัตนปฏิมากร วันที่ ๓ เมษายน พระบรม วงศานุวงศ์และข้าราชการถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ถือน้ำ แล้วไปถวายบังคมพระบรมอัฐิ สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ที่หน้าพระที่นั่งสนามจันทร์ ในกำแพงแก้วพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย