|
||
![]() |
![]() |
![]() |
อุตสาหกรรมและการขนส่ง
อุตสาหกรรมของประเทศเยอรมนีถูกทำลายลงในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่กลับฟื้นตัวอย่างรวดเร็วด้วยความช่วยเหลือจากประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ ปัจจุบันนี้คนเยอรมนีกว่า 40 % ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม รถยนต์ ประเทศเยอรมนีเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา รถยนต์ที่มีชื่อเสียงคือ บี เอ็ม ดับบลิว (BMW) โฟล์กสวาเก้น (Volswagen) ปอร์เช่ (Porsche) ออดี้ (Audi) และเมอเซเดศเบนซ์ (Mercedes Benz) เมื่อปี พ.ศ. 2428 นายกอตลีบ เดมเลอร์ และนายคาร์ลเบนซ์ สร้างรถยนต์คันแรกได้สำเร็จ เครื่องเคลือบ เมืองไมเซนเป็นเมืองเล็ก ๆ ในประเทศเยอรมนีมีชื่อเสียงในการทำเครื่องเคลือบดินเผาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะคือ ลวดลายและรูปดาบสีขาวไขว้กัน เครื่องใช้ไฟฟ้า ประเทศเยรอมนีมีชื่อเสียงทางด้านการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ยี่ห้อบราวน์(Braun) บีเอเอสเอฟ (BASF) มีเล่อ (Miele) และซีเมนส์ (Semens) ในเมืองใหญ่จะมีระบบการขนส่งใต้ดิน รถไฟระหว่างเมืองและรถเมล์ ระบบชำระเงินผ่านระบบขนส่งสาธารณะร่วม โดยตั๋วใบเดียวสามารถใช้ได้กับรถไฟใต้ดิน รถเมล์ การขนส่งทางอากาศ สายการบินประจำชาติคือ สายการบินลุฟท์ฮันซา (Lufthansa) มีท่าอากาศยานอยู่ที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งเป็นเมืองที่มีสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป พืชผลเกษตร ผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญคือ ข้าวสาลี,มันฝรั่ง,น้ำตาล(จากหัวปิทรูท) |
![]() |
![]() |
![]() |