![]() |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
วันเช็งเม้งของแต่ละปีหากเปรียบเทียบกับประเพณีไทยในทางพุทธศาสนา ก็จะเหมือนกับวันพระซึ่งในความเชื่อก็คือวันพระเป็นวันที่ผีหรือวิญญาณจะได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ สามารถไปไหนมาไหนได้ จึงเป็นโอกาสดีของลูกหลานที่มีความเชื่อ
จะได้ทำพิธีกราบไหว้บูชาด้วยอาหารคาวหวาน ผลไม้ เสื้อผ้า กระดาษเงิน กระดาษทอง(กิมจั๊ว) น้ำชา สุรา และเงินทองของใช้ต่างๆ โดยจัดทำการเซ่นไหว้ที่แท่นบูชา ณ ที่บ้านของลูกหลานแต่ละคน ด้วยการจุดธูปบอกกล่าวเชิญกลางแจ้ง
พร้อมขออนุญาตหรือบอกธรณีประตูพาวิญญาณเข้าบ้านมาที่แท่นบูชาที่มีกระถางธูป และรูปถ่ายหรือป้ายวิญญาณก็ตาม โดยการเซ่นไหว้ทุกครั้งต้องบอกเจ้าที่หรือแป๊ะเอี้ยทุกครั้ง และต้องทำช่วงเช้าไม่เกิน 5โมงเช้า เพราะหลังจาก 5 โมงเช้าควรจุดธูปหรือกล่าวลา
พร้อม ๆ จัดการอาหารคาว ผลไม้ น้ำชา สุรา หลังจากที่ได้นำกระดาษ (กิมจั้ว) เซ่นไหว้ไปเผาเรียบร้อยแล้ว
การเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่ฮวงจุ้ยตามสุสานต่าง ๆ เอี้ยวชุนบั๊ก ซินแส กล่าวว่า ความจริงแล้วลูกหลานจะหาวันที่ดี และสะดวกแก่ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายลูกชาย หลานชาย ลูกสาว หลานสาว ที่จะมาพร้อมกันที่ฮวงจุ๊ยทั้งเครื่องเซ่นไหว้แล้ว ซึ่งจะต้องมากันแต่เช้า ๆ เซ่นไหว้ด้วยอาหารคาวหวาน น้ำชา สุรา ผลไม้ ทุกคนที่เป็นลูกหลานยังต้องเตรียมอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นจอบ เสียม มีด บุ้งกี๋ สี แปรง น้ำสะอาด ซึ่งการนำอุปกรณ์นี้มาเพื่อร่วมกันพัฒนาพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นเอาดินขึ้นถมหลังฮวงจุ๊ย หรือล้างป้ายพร้อมทาสีให้เกิดความสวยงาม ยังจะได้ช่วยรดน้ำพรวนดินต้นไม้บริเวณฮวงจุ๊ย และใกล้เคียง มิใช่เพียงดูแลหญ้าที่ปลูกไว้หลังฮวงจุ๊ยเพียงอย่างเดียว เพราะต้นไม้ที่อยู่รอบ ๆ บริเวณฮวงจุ๊ยบางต้นที่เกิดขึ้นมามีผลดี แต่บางต้นอาจส่งผลเสียแก่ฮวงจุ๊ยได้ ซึ่งหากท่านได้มีความเป็นคนช่างสังเกต จะเห็นได้จากแผ่นป้ายชื่อหน้าแท่นบูชา ที่บางป้ายอาจสลักตัวหนังสือไทยไว้ด้วย แผ่นป้ายหินแกะสลักหรือแผ่นปูนก็ตาม ตัวหนังสือจีนตัวเล็กที่อยู่ทั้งสองข้าง ชื่อ ที่อยู่ และวันสร้าง ส่วนตัวหนังสือจีนใหญ่นั้นสุดแต่ว่า บรรพบุรุษที่ฝังอยู่หลุมซึ่งเป็นชาย ถ้าหากไม่มีครอบครัวจะสลักแถวเดี่ยว แต่ถ้ามีภรรยาก็จะสลักชื่อภรรยาลงไปด้วย โดยชื่อภรรยาจะอยู่ขวามือเมื่อหันออกตามแผ่นป้าย ถ้าภรรยาหลายคน ภรรยาหลวงจะอยู่ซ้ายมือสามีจะอยู่กลางภรรยาคนต่อไปอยู่ขวา ตัวหนังสือเมื่อนับจากข้างบนลงล่างตัวหนังสือตัวที่ 3 - 4 คือตัวชื่อสกุล ซึ่งหากใครก็ตามตายไปแล้วจะใช้สีเขียวทาตัวหนังสือ ถ้ายังไม่ตายตัวหนังสือจะต้องเป็นตัวหนังสือสีแดง เช่นเดียวกับตัวหนังสือตัวเล็กที่บอกที่อยู่ และวันสร้างฮวงจุ๊ย ซึ่งต้องใช้สีแดงจัดการทาให้เรียบร้อย แต่ในปัจจุบันความเปลี่ยนแปลงมีมาก ตัวหนังสือทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นชื่อคนเป็นหรือคนตายก็ตาม จะใช้สีทองหรือทองคำเปลวปิดหมดทุกตัวอักษร ซึ่งเป็นคนที่มีความรู้ภาษาจีนก็พอทราบได้จากตัวที่บอกวันเวลาสร้าง ว่าเจ้าของชื่อที่สลักไว้ตายไปแล้วหรือยัง แต่คนที่ไม่มีความรู้ภาษาจีนอ่านไม่ได้ก็จะไม่รู้อย่างแน่นอน |
|
|
|