ชื่อท้องถิ่น |
แมงคุด(ไทย), เมงค็อพ (พม่า) |
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Garcinia mangostana L. |
วงศ์ |
GUTTIFERAE |
ชื่อสามัญ |
Mangosteen |
ลักษณะ |
เป็นไม้ยืนต้น สูง 10-12 เมตร ลำต้นตั้งตรง ผิวลำต้นเรียบ สีน้ำตาลถึงดำ ทุกส่วนมียางสีเหลือง ใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปไข่ หรือรูปรีแกมขอบขนาน กว้าง 6-11 ซม. ยาว 15-25 ซม. ขอบใบเรียบเนื้อในหนา หลังใบสีเขียวเป็นมัน ท้องใบสีเหลืองอ่อน ดอกออกเดี่ยวๆ หรือเป็นคู่ที่ซอกใบใกล้ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงสีเขียวอมเหลือง กลีบดอกสีแดง ฉ่ำน้ำ ผลเป็นผลสด ค่อนข้างกลม มีกลีบเลี้ยงติดอยู่ที่ก้านผลสีม่วงคล้ำ เปลือกหนา เมล็ดมีเนื้อสีขาวหุ้ม |
การขยายพันธุ์ |
โดยการเพาะเมล็ด หรือ ตอนกิ่ง มังคุดเจริญเติบโตช้ามากจากการเพาะเมล็ด ต้องกินเวลา 15 ปี กว่าจะให้ผล ชอบที่มีแดดรำไร รดน้ำเช้าและเย็น |
ส่วนที่นำมาเป็นยา |
เปลือกผลแห้ง |
สารเคมีและสารอาหารที่สำคัญ |
ผลอุดมด้วยวิตามิน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก เปลือกผลมีสารพวกแทนนิน สารแมงโกสติน สารแซนโทน |
สรรพคุณทางยา และวิธีใช้ |
แก้บิด : ใช้เปลือกผลแห้งครึ่งผล (ประมาณ 4 กรัม ) ย่างไฟให้เกรียมบดเป็นผงละลายน้ำหรือฝนกับน้ำปูนใสประมาณครึ่งแก้ว ใช้ดื่มทุก 2 ชั่วโมง รักษาบาดแผล น้ำกัดเท้า แผลเปื่อยพุพอง : ใช้เปลือกผลแห้งฝนกับน้ำปูนใส พอข้น ทาบริเวณที่เป็น วันละ 3-4 ครั้ง หลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้ว ล้างแผลเปื่อยใช้เปลือกผลสด หรือแห้ง ต้มน้ำเคี่ยวให้งวดเล็กน้อย นำมาล้างแผล วันละ 2-3 ครั้ง แก้อาการท้องเสียเรื้อรัง,โรคลำไส้ : ใช้เปลือกมังคุดตากแห้งครึ่งลูก ย่างไฟ หรือต้มกับน้ำ นำมาฝนกับน้ำปูนใส รับประทานทุก 2 ชั่วโมง |
ข้อควรรู้ |
|
มะหาด | แมงลัก |