ชื่อท้องถิ่น |
เตยหอม หวานข้าวไหม้ ปาแป๊ะอาริง พังลั้ง |
ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Pandanus odorus Ridl.,Pandanus amaryllifolius Roxb. |
วงศ์ |
PANDANCEAE |
ชื่อสามัญ |
|
ลักษณะ |
เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวที่ขึ้นเป็นกอ ชอบขึ้นในพื้นที่ชื้นแฉะใกล้น้ำ แต่ละกอเกิดจากหัวหรือเหง้าใต้ดิน ลำต้นสูงประมาณ 2 ฟุต ใบคล้ายกับใบสัปปะรด ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ใบมีกลิ่นหอม |
การขยายพันธุ์ |
โดยใช้หัวหรือเหง้า ไปปลูกในหลุมที่เตรียมไว้ หรือปลูกใส่กระถางก็ได้ |
ส่วนที่นำมาเป็นยา |
ใบ และ ราก |
สารเคมีและสารอาหารที่สำคัญ |
ประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหย และ มีสีเขียวของคลอโรฟิลล์ ซึ่งในน้ำมันหอมระเหยประกอบด้วยสารหลายชนิด เช่น ไลนาลิลอะซีเตท (Linalyl acetate) เบนซิลอะซีเตท (Benzyl acetate) ไลนาโลออล (Linalool) และ เจอรานิออล (geraniol) และ เอทิลวานิลลิน (Ethylvanillin) |
สรรพคุณทางยา และวิธีใช้ |
โรคหัด โรคผิวหนัง : ใช้ใบสดตำพอก ยาบำรุงหัวใจ : ใช้ใบสดตำ คั้นเอาน้ำ จะได้น้ำสีเขียวมาผสมอาหาร แต่งกลิ่น แต่งสีขนม หรือ ใช้ในรูปของใบชา ชงกับน้ำร้อน หรือใช้ใบสดต้มกับน้ำจนเดือด เติมน้ำตาลเล็กน้อยใช้ดื่มเป็นประจำ โรคเบาหวาน: นำส่วนต้นและราก ต้มกับเนื้อหรือใบไม้สักจะช่วยรักษาโรคเบาหวาน |
ข้อระวัง |
- |
ตำลึง | ถั่วพู |