ด้วยองค์การอนามัยโลก
ได้ออกประกาศแจ้งการพบโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ๒๐๑๒
หรือโรคโคโรน่า ๒๐๑๒
(Novel Coronavirus) ในต่างประเทศ
ผ่านเว็บไซต์เมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๕
ว่าพบผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ๒๐๑๒
จำนวน ๒ ราย เสียชีวิต ๑ ราย
โดยเป็นผู้ป่วยชายชาวกาตาร์ อายุ ๔๙ ปี
ซึ่งมีอาการทางระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร่วมกับภาวะไตวาย
และเคยมีประวัติการเดินทางไปประเทศซาอุดิอาระเบีย
ส่วนอีก ๑ ราย เป็นผู้ป่วยชาวซาอุดิอาราเบีย อายุ
๖๐ ปี จนถึงวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๕ ยังไม่พบรายงาน
การแพร่กระจายโรคหรือผู้ป่วยอื่นเพิ่มเติม
สำหรับประเทศไทยยังไม่มีรายงายการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า
๒๐๑๒ และองค์กรอนามัยโลก
ยังไม่แนะนำให้มีการจำกัดการเดินทางไปยังประเทศใด
นั้น
กระทรวงสาธารณสุข
จึงได้มีข้อแนะนำสำหรับผู้เดินทางที่จะไป-กลับจากต่างประเทศ
ดังนี้
๑. ผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศ: ให้เน้นการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล
และหมั่นล้างมือบ่อยๆ นอกจากนั้น
ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่แออัดหรือที่ชุมชนสาธารณะที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก
เพื่อลดความเสี่ยงในการติดโรค
หากจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่ที่มีคนแออัด
ให้ใส่หน้ากากอนามัย
๒. ผู้ที่กลับมาจากต่างประเทศ: หากมีอาการคล้ายไข้หวัด
หรือมีอาการไม่ดีขึ้นภายใน ๒ วัน ควรไปแพทย์
พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง
เชื้อไวรัสโคโรน่า
โดยทั่วไป เป็นกลุ่มของเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจหรือระบบอื่นๆ
ในคนและสัตว์ เช่น หนู ไก่ วัว ควาย สุนัข แมว
กระต่าย และสุกรมีรายงานการพบเชื้อมาตั้งแต่ช่วงปี
ค.ศ.
๑๙๖๕ ประกอบด้วยเชื้อสายพันธุ์ย่อยหลายสายพันธุ์
และพบได้ทั่วโลก โดยในเขตอบอุ่น (temperate
climates) มักพบเชื้อไวรัสโคโรน่า
ในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิโดยอาจมีความรุนแรงของอาการที่แตกต่างกันไป
แต่ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง เช่น เป็นไข้หวัดธรรมดา
หูชั้นกลางอักเสบ เป็นต้น
ส่วนน้อยที่มีอาการรุนแรง
อาจก่อให้เกิดการอักเสบรุนแรงเฉียบพลันและมีการล้มเหลวของระบบทางเดินหายใจ
และเสียชีวิตได้ เช่น ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดโรคซาร์ส
แต่โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะมีอาการไม่รุนแรง (ยกเว้น
ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย)
ในคนที่เป็นโรคไข้หวัดก็มีสาเหตุจากเชื้อไวรัสโคโรน่าได้
ประมาณร้อยละ ๑๕ การติดเชื้อไวรัสโคโรน่าพบได้ในทุกกลุ่มอายุ
แต่พบมากในเด็ก อาจพบมีการติดเชื้อซ้ำได้
เนื่องจากระดับภูมิคุ้มกันจะลดลงอย่างรวดเร็วภายหลังการติดเชื้อเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดโรคซาร์ส
พบการระบาดปี ค.ศ. ๒๐๐๓
โดยพบเริ่มจากประเทศจีนแล้วแพร่กระจายไปทั่วโลก
พบรายงานผู้ป่วยโรคซาร์สทั้งสิ้นมากกว่า ๘,๐๐๐ ราย
และเสียชีวิตมากกว่า ๗๕๐ ราย แต่ขะนี้ (ปี ค.ศ.
๒๐๑๒)
ไม่พบการระบาดแต่อย่างใด สำหรับเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่
๒๐๑๒ เป็นเชื้อสายพันธุ์หนึ่งในกลุ่มไวรัสโคโรน่า
ซึ่งเพิ่งค้นพบใหม่ในปี พ.ศ. ๒๕๕๕
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ณ วันที่ ๒๕ กันยายน
พ.ศ. ๒๕๕๕ พบผู้ป่วยยืนยัน ๒ รายในจำนวนนี้
เสียชีวิต ๑ ราย โดยผู้ป่วยทั้ง ๒ ราย
ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่จะยืนยันว่าติดเชื้อมาได้อย่างไรหรือติดต่อมาจากสัตว์หรือไม่
อีกทั้งไม่สามารถสรุปได้ว่าเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่
๒๐๑๒ มีความรุนแรงมากหรือน้อยเพียงใด
องค์การอนามัยโลกประเมินว่ายังไม่รุนแรงเหมือนโรคซาร์ส
เพราะไม่พบว่าบุคคลรอบข้าง
หรือบุคลากรทางการแพทย์มีการเจ็บป่วยด้วยอย่างไรก็ตาม
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่
๒๐๑๒ หรือ โรคโคโรน่า ๒๐๑๒ ไม่ใช่โรคซาร์สเป็นคนละโรคกัน
เนื่องจากมีสาเหตุจากเชื้อไวรัสโคโรน่าคนละสายพันธุ์
การป้องกัน
-
หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ
หรือจาม
- ควรล้างมือบ่อยๆ
ด้วยน้ำและสบู่
โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย
ก่อนรับประทานอาหาร และหลังขับถ่าย
-
ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่แออัด
หรือที่ชุมชนสาธารณะที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก
หากจำเป็นต้องเข้าไป ให้พิจารณาใส่หน้ากากอนามัย
เพื่อลดความเสี่ยงในการติดโรค
-
แนะนำให้ผู้ป่วยใส่หน้ากากอนามัย
ปิดปากปิดจมูกเวลา ไอ หรือจาม
- ปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยที่ดี
ได้แก่ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ
เทศบาลเมืองทุ่งสง
จึงขอประชาสัมพันธ์ความรู้เกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่
๒๐๑๒ ซึ่งเป็นโรคติดต่ออุบัติใหม่
เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความรู้
ความเข้าใจในการป้องกันดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง
และครอบครัว
แหล่งที่มา :
งานประชาสัมพันธ์
เทศบาลเมืองทุ่งสง/18
พฤศจิกายน 2556
ลงประกาศเมื่อ :
26
พฤศจิกายน 2556 |