อำเภอทุ่งสงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ประสบกับปัญหาฝนตกหนักในหลายพื้นที่
รวมทั้งมีน้ำท่วมขังในหลายชุมชนในเขตเทศบาล
ซึ่งเมื่อเกิดน้ำท่วมขัง โรคร้ายต่างๆ
บางโรคที่ปกติไม่พบมากนัก ก็อาจพบอย่างแพร่หลายมากขึ้น
หนึ่งในจำนวนนั้นได้แก่ โรคเลปโตสไปโรซิส (Leptospirosis)
หรือที่ชาวบ้านคุ้นเคยกันดีกว่าในชื่อ “โรคฉี่หนู” นั่นเอง
โรคฉี่หนู เป็นโรคระบาดในคนที่ติดต่อมาจากสัตว์
มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง โรคนี้พบได้ทั่วโลก
โดยพบอย่างประปรายตลอดปี แต่พบระบาดรุนแรงในฤดูฝน
ในประเทศไทย พบระบาดมากในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน
ซึ่งเป็นผลมาจากการที่น้ำฝนชะล้างเอาเชื้อโรคจากสิ่งแวดล้อม
เข้ามารวมกันอยู่ในบริเวณน้ำท่วมขัง
ทำให้เชื้อโรคสามารถติดไปกับคนและสัตว์ต่างๆ
ที่สัมผัสกับน้ำขังเหล่านั้นในที่สุด
แม้ว่าหนูจะเป็นพาหะสำคัญของโรคนี้จนมีผู้นำไปตั้งเป็นชื่อของโรค
แต่อันที่จริงแล้ว สัตว์อื่นๆ
อีกหลายชนิดก็เป็นพาหะของโรคนี้ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นวัว
ควาย หรือสัตว์เลี้ยงใกล้ตัวอย่าง แมว และสุนัข เป็นต้น
การติดเชื้อ
มักเกิดขึ้นผ่านทางบาดแผลที่เกิดจาการแช่น้ำเป็นเวลานานๆ
ผู้ปกครองจึงไม่ควรปล่อยให้เด็กๆ ลงเล่นน้ำ
เพราะเสี่ยงติดเชื้อโรคนี้
ซึ่งอาจมีผลร้ายแรงทำให้เสียชีวิตได้
ขณะนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อโรคนี้แล้วทั่วประเทศมากกว่า 1,000
ราย
สาเหตุหนี่งที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเนื่องจากโรคฉี่หนูไม่น้อย
อาจเนื่องมาจากอาการของโรค
ซึ่งในเบื้องต้นจะคล้ายกับโรคไข้หวัดธรรมดา
หรือโรคติดเชื้อที่มีสาเหตุมาจากเชื้อโรคอื่นๆ เช่น
โรคไข้เลือดออก คือ ปวดศีรษะ โดยมักจะปวดบริเวณหน้าผาก
หรือบริเวณหลังตา นอกจากนั้น
ยังมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ บริเวณขาและเอว
มีไข้สูงร่วมกับมีอาการหนาวสั่น และอาจมีตาแดง สู้แสงไม่ได้
กลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรค
-
เกษตรกร ชาวไร่ชาวนา ชาวสวน
-
คนงานฟาณืมเลี้ยงสัตว์ โค สุกร ปลา
-
กรรมกรขุดท่อระบายน้ำ เหมืองแร่ โรงฆ่าสัตว์
-
กลุ่มอื่นๆ เช่น แพทย์ เจ้าหน้าที่ห้องทดลอง
ทหารตำรวจที่ปฏิบัติงานตามป่าเขา
-
กลุ่มประชาชนทั่วไป มักเป็นเกิดในที่มีน้ำท่วม
ผู้ที่บ้านมีหนูมาก
ผู้ที่ปรุงอาหารหรือรับประทานอาหารที่ไม่สุก
หรือปล่อยอาหารทิ้งไว้โดยไม่ปิดฝา
การติดต่อของโรค
สัตว์ที่นำเชื้อได้แก่ พวกสัตว์แทะ เช่น หนู โดยเฉพาะ
หนูนา หนูพุก รองลงมาได้แก่ สุนัข วัว ควาย
สัตว์พวกนี้เก็บเชื้อไวในไตเมื่อหนูปัสสาวะเชื้อจะอยู่ในน้ำหรือดิน
เมื่อคนสัมผัสเชื้อซึ่งอาจจะเข้าทางแผล เยื่อบุในปากหรือตา
หรือแผล
ผิวหนังปกติที่เปียกชื้นเชื้อก็สามารถไชผ่านไปได้เช่นกัน
เชื้ออาจจะเข้าร่างกายโดยการดื่มหรือกินอาหารที่มีเชื้อ
ระยะฟักตัวของโรค
ระยะติดต่อ
อาการที่สำคัญ อาการทางคลินิกของโรคแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆได้
2 กลุ่ม
กลุ่มที่ไม่มีอาการตัวเหลืองตาเหลือง
หรือกลุ่มที่อาการไม่รุนแรง กลุ่มนี้อาการไม่รุนแรง
หลังจากได้รับเชื้อ 10-26 วันโดยเฉลี่ย 10
วันผู้ป่วยก็จะเกิดอาการของโรคได้แก่ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง
อาจจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน อาการอาจจะมีตั้งแต่ 1-หลายวัน
ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ระยะ
1.
ระยะเชื้อเข้ากระแสเลือด Leptospiremic
เมื่อเชื้อเข้าร่างกายจะเข้าสู่กระแสเลือด
ผู้ป่วยจะมีอาการดังนี้คือ
-
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดศีรษะทันที มักจะปวด บริเวณหน้าผาก
หรือหลังตา บางรายปวดบริเวณขมับทั้งสองข้าง
-
ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรงมากโดยเฉพาะบริเวณน่อง โคนขา
กล้ามเนื้อหลังและมีอาการกดเจ็บกล้ามเนื้อ
-
ไข้สูง 28-40 องศา เยื่อบุตาแดง
อาการต่างๆอาจอยู่ได้ 4-7 วัน
นอกจากอาการดังกล่าวผู้ป่วยจะมีอาการเบื่ออาหาร
คลื่นไส้อาเจียน บางรายมีอาการถ่ายเหลว ปวดท้อง
การตรวจร่างกายในระยะนี้ที่สำคัญจะตรวจพบ ผู้ป่วยตาแดง
มีน้ำตาหรือขี้ตาไหล คอแดง มีจ้ำเลือดตามผิวหนัง
บางรายมีผื่นตามตัว
2.
ระยะร่างกายสร้างภูมิ
ระยะนี้ถ้าเจาะเลือดจะพบภูมิต่อเชื้อเพิ่ม
ผู้ป่วยจะมีไข้ขึ้นใหม่ ปวดศีรษะ
คอแข็งมีการอักเสบของเยื่อหุ้มสมอง
และมีเชื้อออกมาในปัสสาวะ
3.
กลุ่มที่มีอาการเหลือง
กลุ่มนี้ไข้จะไม่หายแต่จะเป็นมากขึ้นโดยพบมีอาการเหลือง
และไตวาย มีผื่นที่เพดานปาก มีจุดเลือดออกตามผิวหนัง
ตับและไตวาย ดีซ่าน เยื่อหุ้มสมองอักเสบ กล้ามเนื้ออักเสบ
อาจจะมีอาการไอเป็นเลือด อาการเหลืองจะเกิดวันที่ 4 ของโรค
ผู้ป่วยอาจจะเสียชีวิตในระยะนี้หรือในต้นสัปดาห์ที่สามจากไตวาย
อาการแสดงที่สำคัญ ได้แก่
1.
ภาวะเยื่อบุตาบวมแดงเกิดขึ้นในตาทั้งสองข้างภายใน 3
วันแรกของโรค และอยู่ได้นานตั้งแต่ 1-7 วัน
อาจจะพบร่วมกับเลือดออกที่ตาขาวข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้
2.
กดเจ็บกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง โดยเฉพาะที่น่อง
3.
มีเลือดออกแบบต่างๆ โดยเฉพาะในรายที่มีอาการรุนแรง
เช่นจุดเลือดออกตามผิวหนัง petichae ผื่นเลือดออก purpuric
spot เลือดออกใต้เยื่อบุตา conjunctival haemorrhage
หรือเสมหะเป็นเลือด
4.
ผื่น อาจจะพบได้หลายแบบ ผื่นแดงราบ ผื่นแดง
ผื่นลมพิษ
5.
อาการเหลือง อาการเหลืองมักเกิดวันที่4-6 ของโรค
การรักษาตามอาการและภาวะแทรกซ้อน
ดังนั้น เทศบาลเมืองทุ่งสง
จึงขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยูในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง
ระมัดระวังอันตรายจากโรคฉี่หนู รวมทั้ง พ่อค้า แม่ค้า
ที่ประกอบอาชีพค้าขายน้ำอัดลม
หรือค้าขายภาชนะที่บรรจุน้ำต่างๆ
ควรรักษาความสะอาดปลอดภัย และถูกสุขลักษณะบรรจุภัณฑ์ต่างๆ
เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า
และเพื่อเมืองทุ่งสงปลอดภัยจากการระบาดของโรคฉี่หนู
แหล่งที่มา :
งานประชาสัมพันธ์ เทศบาลเมืองทุ่งสง
ลงประกาศเมื่อ :
25/11/2552 16:30:23
น. |