www.tungsong.com 

     

รายละเอียดกิจกรรมปั่นจักรยาน  ครั้งที่ 16

วันเสาร์ที่ 13 กันยายน 2551

   
               คณะกรรมการแก้ไขปัญหาอุทกภัยเมืองทุ่งสงแบบบูรณาการได้จัดกิจกรรม "ขี่จักรยาน ลดใช้พลังงาน ลดโลกร้อน ปลูกหญ้าแฝกถวายแด่พ่อหลวง" ครั้งที่ 16 ขึ้นในวันเสาร์ที่ 13 กันยายน 2551  ณ ริมเหมืองน้ำ ชุมชนท่าแพเหนือ และริมคลองท่าแพ ชุมชนท่าแพใต้ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อปลูกต้นไม้คนละ 2 ต้น เฉลิมพระเกียรติ 12 สิงหามหาราชินี และดูแลรักษาต้นไม้และหญ้าแฝกที่ปลูกไว้ริมคลองและริมเหมืองตลอดสาย
 
 

เวลา

รายละเอียด

06.30 น.

ผู้ร่วมกิจกรรมพร้อมกัน ณ สวนหลวงเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา (สวนหลวง ร.9)

07.00 น.

ประธานปล่อยขบวนจักรยานจากจุดเริ่มต้น จนถึงจุดนัดหมาย หนองป่าแก่ ตามแผนที่เส้นทางฯ ระยะทางประมาณ 9 ก.ม.

ประธานกล่าวเปิดกิจกรรม พบปะผู้ร่วมกิจกรรม

8.00 น.

ร่วมดูแลรักษาหญ้าแฝกและต้นไม้เดิมและปลูกซ่อมแซมใหม่

10.00 น.

ร่วมรับประทานอาหารและเดินทางกลับ

 

ชมภาพกิจกรรม

ผังเส้นทาง       

คลิกขยายภาพ

 

 

 

เรื่องน่ารู้

12 ประโยชน์ของต้นไม้

1

ป่าไม้ใช้ก๊าซ CO2 ในการผลิตอาหาร ป่าไม้จึงช่วยกำจัดปัญหาเรือนกระจก (green house effect ) อันเนื่องมาจากการ สะสมตัวของก๊าซ CO2 ที่มนุษย์ผลิตขึ้น (เช่นจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงเป็นต้น) โดยสภาวะเรือนกระจก นี้เป็นตัวก่อปัญหาที่ทำให้โลกร้อนขึ้น ดังนั้นป่าจึงช่วยเปลี่ยนก๊าซ CO2 ให้กลายเป็นแหล่งคาร์บอนที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิต โดยต้นไม้ 1ต้น สามารถสร้างเนื้อไม้ มาจากการดูดก๊าซ CO2 ในปริมาณ 9 kg ต่อปี

2

นช่วงกลางวันป่าไม้คายก๊าซ O2 เพื่อให้สิ่งชีวิตใช้ในการหายใจ ป่าจึงเหมือนแหล่งฟอกอากาศที่เป็นปอดของโลก

3

ต้นไม้คายไอน้ำออกสู่ชั้นบรรยากาศ จึงทำให้อากาศในบริเวณนั้นมีความชื้นสูงขึ้น และเมื่ออากาศมีความชุ่มชื้น มากพอ, ก้อนเมฆ จะสามารถรวมตัวและตกเป็นฝนได้ในที่สุด ป่าจึงเปรียบเสมือนเป็นผู้เรียกฝน  

4

ต้นไม้ให้ร่มเงาและลดความรุนแรงของแสงแดดที่ตกกระทบพื้นดินโดยตรง ต้นไม้จึงลดการสูญเสียความชื้นในดินไม่ให้หมดไปอย่างรวดเร็ว และลดการเกิดฝุ่น

5

รากของต้นไม้ยังช่วยอุ้มน้ำเอาไว้ในดิน ทำให้แผ่นดินรักษาความชุ่มชื้นเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง จนอาจบังเกิดเป็นแหล่งตาน้ำให้มีได้ใช้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ป่าจึงเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร จากข้อมูลองค์การ UNESCO พบว่า ถ้ามีป่า ดินจะดูดซับน้ำได้ถึง 98%และปล่อยน้ำฝนออกมา 2% ถ้าไม่มีป่า ดินจะดูดซับน้ำได้แค่ 3%และปล่อยน้ำฝนออกมา 97%

 

6

รากไม้ช่วยยึดดินเอาไว้ จึงชะลอการชะล้างและสูญเสียหน้าดินอันอุดมสมบูรณ์

7

ต้นไม้ช่วยรักษาความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน ป่าช่วยปรับปรุงคุณภาพของดิน โดยเศษซากอินทรีย์ที่เกิดจากการทับถมของต้นไม้ ใบไม้ เป็นสารปรับปรุงดินและเป็นปุ๋ยแก่ดิน นอกจากนั้น เศษซากอินทรีย์ที่เกิดจากการทับถมของต้นไม้ ใบไม้ เหล่านี้ ยังทำหน้าที่ดูดซับน้ำฝนที่ตกลงมาได้ถึง 6 กรัม ต่อ อินทรียวัตถุ 1 กรัม  

8

ป่าช่วยลดแตกต่างระหว่างความชื้นบนพื้นดินและความชื้นบนพื้นน้ำ (ในบริเวณที่อยู่ใกล้ที่สุดเช่นทะเล) ป่าจึงช่วยให้อุณหภูมิบนแผ่นดินและแผ่นน้ำไม่แตกต่างกันมากเกินไป ป่าจึงมีส่วนช่วยลดการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติเนื่องจากลมพายุได้

9

นอกจากนั้นป่ายังเป็นแหล่งกำบังภัยทางธรรมชาติแก่สิ่งมีชีวิต และป่าช่วยลดความรุนแรงของภัยธรรมชาติ ด้วยการช่วยปะทะแรงลม แรงฝน และแรงพายุ ให้มีความรุนแรงน้อยลง หรืออ่อนตัวลง

10

ป่าขนาดใหญ่ที่ต่อเนื่องทำให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นแหล่งขยายพันธ์พืชและพันธ์สัตว์ และเป็นแหล่งที่ทำให้เกิดพืชและสัตว์หลากหลายพันธ์ออกไป จึงช่วยในการการดำรงเผ่าพันธ์ของสิ่งมีชีวิต ตั้งแต่ตัวที่เล็กจิ๋วที่สุดในระดับจุลินทรีย์จนถึงตัวที่ใหญ่โตที่สุดเช่นช้าง ป่าและสัตว์ป่าจึงมีความเกื้อกูลต่อกัน เพราะป่าให้อาหารและแหล่งอาศัยแก่สัตว์ป่าและสัตว์ป่า ช่วยป่าขยายพันธ์พืชและให้มูลเป็นปุ๋ย เป็นต้น ดังนั้นสัตว์ป่าจึงช่วยรักษาสมดุลของป่า และป่าช่วยรักษาสมดุลของธรรมชาติให้เหมาะสมแก่การดำรงค์ชีวิต ทุกสิ่งในโลกนั้นแท้จริงแล้วต่างมีประโยชน์ต่อกันและกันทั้งในทางตรงและในทางอ้อม และต่างมีส่วนในการช่วยกันหมุนวัฏจักรแห่งชีวิต ให้ดำเนินไปอย่างครบวงจรเพื่อความอยู่รอดแห่งเผ่าพันธุ์

11

ป่านอกจากเป็นที่มาของแหล่งอาหาร, อากาศแล้ว ก็ยังเป็นที่มาของแหล่งสมุนไพร แหล่งยารักษาโรคด้วย

12

ป่าช่วยในการดูดซับแหล่งแร่ธาตุและสารเคมีในพื้นแผ่นดิน เพื่อให้คนและสัตว์เอาไปใช้ประโยชน์ได้

มายเหตุ:

 สภาวะเรือนกระจกหรือ green house effect คือปรากฏการณ์ที่มีก๊าซ เช่น CO2 หรือ ,มีเทน ไปสะสมอยู่ในชั้นของบรรยากาศเป็นปริมาณมาก จนทำให้ชั้นบรรยากาศกระทำตัวเหมือนเป็นกระจก กล่าวคือกระจกยอมให้คลื่นสั้นของรังสีจากดวงอาทิตย์ผ่านเข้ามา แต่ไม่ยอมให้คลื่นยาวเช่นคลื่นความร้อนผ่านออกไป ทำให้เกิดความร้อนสะสมอยู่ภายใน ผลก็คือสภาวะเรือนกระจกจะทำให้โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ