|
ปัจจุบันมีคนตั้งข้อสงสัยอยู่เสมอว่า เราจะสอนจริยธรรมได้แค่ไหน เรื่องจริยธรรมสอนกันไม่ได้แต่ฝึกอบรมกันได้ เรามักจะคิดแต่จัดหลักสูตรสอนกันในโรงเรียน เราไม่ได้นึกว่าเป็นเรื่องของการอบรม และการฝึกอบรมจริยธรรมนั้นจะต้องควบคู่ทั้ง ๓ ด้าน ตามหลักไตรสิกขาเพราะว่าการจะพัฒนาหลักธรรมอะไรก็ตาม ต้องเอาหลักนี้มาจัด เพราะเป็นหลักสำหรับอบรมฝึกฝนขั้นต้นได้แก่ |
๑. ปัญญาสิกขา คือความรู้ความเข้าใจในหลักการเป้าหมาย เหตุผล วิธีการต่างๆ รู้ทุกอย่างเท่าที่จำเป็นปัญญาขั้นนี้ไม่ใช่ปัญญาขั้นลึกซึ้ง แต่เป็นปัญญาขั้นพื้นฐานที่ต้องทราบก่อน สมมติว่าเราจะพัฒนาอะไรสักอย่าง เราต้องรู้ก่อนว่าพัฒนาไปทำไม เป้าหมายเป็นอย่างไรและวิธีการพัฒนาจะทำอย่างไร |
๒. ศีลสิกขา คือจะต้องทำพฤติกรรมให้สอดคล้องกับความรู้ความเข้าใจนั้นด้วย ถ้าหากตีความง่ายๆ คือลงมือทำ รู้ เข้าใจ แล้ว ต้องลงมือทำ (หรือจะแปลความตำราว่าการรักษากาย วาจาให้เรียบร้อยก็ได้) |
๓. จิตตสิกขา คือ ต้องมีกำลังใจมั่นคงแน่วแน่ต่อ เป้าหมาย คือเมื่อทำต้องทำซ้ำๆ ซากๆ ต้องทำจนเป็นนิสัย ทำอะไรต้องทำให้สำเร็จ |
หลักไตรสิกขา คือ ปัญญา ศีล จิตตะ แต่คนไทยมักเรียก ศีล สมาธิ ปัญญา ทั้งสามอย่างนี้ต้องทำไปพร้อมๆ กัน ไม่ใช่ทำอันนี้เสร็จแล้วจึงค่อยทำอย่างที่ ๒ ตัวอย่าง เช่น ถ้าหากเราปลูกต้นไม้เราต้องใช้ไตรสิกขาทั้งหมด คือ ต้องคิดว่าจะใช้ดินอย่างไร กระถางอย่างไร ถ้าเราขุดดินปลูกต้นไม้จะต้องใช้จอบหรือใช้เสียม ดินแข็งหรืออ่อน ต้องขุดกว้างลึกขนาดไหน เอาพืชชนิดใดลง ต้องรดน้ำกี่ครั้งต่อวันต้องดูแลอย่างไร ต้องรู้หมด นี้เป็นเรื่องของปัญญาสิกขา การลงมือขุด การเตรียมเพื่อให้การปลุกต้นไม้เป็นไปด้วยดีนี้เป็นเรื่องของศีลสิกขา การดูแลเอาใจใส่รดน้ำพรวนดิน ไม่ใช้ปลุกเสร็จแล้วทิ้งไปเลย นี้เป็นเรื่องของจิตตสิกขา |