คนเรานั้นหากอยากประสบความสำเร็จในชีวิต นอกจากการพัฒนาการ พัฒนาจิตแล้ว การพัฒนาการดำรงตนควบคู่ไปกับการพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้คน นับเป็นสิ่งที่ต้องกระทำเป็นอย่างยิ่ง
เกี่ยวกับการพัฒนา "การดำรงตน" ก็คือการตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท มีสัมมาอาชีวะที่ดีงาม โดยเฉพาะในด้านการงาน ควรจะมีแผนและเป้าหมายดังนี้ อาจทำให้ครบวงจรเรียกว่าวงจรแห่งความสำเร็จ คือ ประการที่ 1 วางแผน คือลองคิดพิจารณาว่าในอนาคตต่อไปจากวันนี้เราทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร และทำไม การวางแผนอย่างนี้ อาจทำเป็นรายวัน รายเดือน รายปี หรือหลาย ๆ ปีก็ได้ ถ้าไม่เคยทำเลย ลองแบบรายวันดูก่อนก็ได้ ลองสมมุติว่าพรุ่งนี้เมื่อมาถึง ตั้งแต่เช้าถึงค่ำ เราจะทำอะไรบ้าง ในแต่ละช่วงของเวลา และไปที่ไหนบ้าง แต่งชุดอะไร จากนั้นก็มีการเตรียมการเพื่อให้สามารถทำไปตามแผนให้ได้ เช่นคิดจะแต่งชุดหล่อ ชุดสวย สีม่วง ก็ไปลองดูซิว่าได้ซักรีดหรือยัง ถ้ายังก็ไปจัดเตรียมไว้ให้พร้อม และลองทำไปตามกำหนดเวลาต่าง ๆ ตามที่วางไว้ ซึ่งแน่นอน อาจไม่เป็นไปตามแผนทั้งหมด แต่ก็ทำให้ดูอะไรได้มากขึ้น ประการที่ 2 ปฏิบัติตามแผน เมื่อวางแผนแล้ว ก็ปฏิบัติไปตามที่วางแผนไว้ เป็นขั้นเป็นตอน เรื่องการปฏิบัติตามแผนนี้เป็นเรื่องสำคัญมากที่คนเขาชอบพูดกันว่า การวางแผนภาษาฝรั่งเรียกว่า "แพลนนิ่ง" คนไทยเราวางแผนเสร็จก็มักจะ "นิ่ง" ตามชื่อ คือไม่ได้ปฏิบัติไปตามที่แผนวางไว้ เลยทำอะไรไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้น เมื่อวางแผนแล้ว จึงต้องปฏิบัติตามแผนให้ได้ ประการที่ 3 ประเมินผลแผน ภายหลังการวางแผนชีวิตไปแล้ว และปฏิบัติไปตามที่วางแผนไว้แล้ว แน่นอน บางอย่างก็ประสบความสำเร็จด้วยดี บางอย่างก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะมีอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ เราจึงต้องมีการประเมินผลแผนว่าเป็นอย่างไรบ้าง มีปัญหาอุปสรรคใดบ้าง และจะแก้ไขอย่างไร ทั้งนี้ในส่วนที่ไม่ประสบความสำเร็จก็จะได้หาหนทางแก้ไขในคราวต่อไป โดยกลับไปวางแผนใหม่ แล้วก็ปฏิบัติตามแผนใหม่และประเมินผลใหม่อีกครั้ง ทั้ง 3 ขั้นตอนนี้ ถ้าเรานำมาใช้ในการดำรงชีวิตของเราบ่อย ๆ จะทำให้ชีวิตมีแก่นสาร มีการดำรงชีวิตไปอย่างมีคุณค่า ยิ่งถ้านำไปใช้กับอาชีพการงานที่ทำแล้ว จะยิ่งแจ๋วมาก แต่อนิจจา คนไม่ค่อยทำกันหรอก หรือทำก็ไม่ค่อยจริงจังอะไรกันนัก เรียกว่าอยู่กันแบบลอยลมไป แล้วแต่โชคชะตาราศีจะกำหนด หรือแล้วแต่หน้าที่การงานที่เจ้านายเขาสั่งมาจะกำหนด แล้วก็ทำไปตามเขา ไม่ได้ทำไปตามเรา ดังนั้นการพัฒนาการดำรงชีวิตตนจึงไม่เกิดมากนัก คราวนี้มาถึงการพัฒนา "ความสัมพันธ์กับผู้คน" บ้าง ในหลายตอนที่ผ่านมาได้กล่าวถึงหลักทั่วไป รวมทั้งหลักของนักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงของต่างประเทศมาแล้ว ต่อไปนี้จะขอคุยแบบหลักไทย ๆ บ้าง หลักการนี้รวบรวมโดยอาจารย์ชิต นิลพานิช อดีตอธิการบดีวิทยาลัยการปกครองและผู้ว่าราชการจังหวัดหลายจังหวัด ท่านได้รวบรวมหลักมนุษยสัมพันธ์ที่ใช้ในการปกครองและการบริหารงานไว้มากมาย โดยท่านถือหลักว่า คนเรานั้นมีผู้คนแวดล้อมอยู่ 4 ประเภท คือ เบื้องสูง ได้แก้เจ้านาย หรือผู้บังคับบัญชา เบื้องกลาง ได้แก่เพื่อร่วมงานระดับเดียวกันเบื้องต่ำ คือลูกน้อง หรือผู้ใต้บังคับบัญชา และเบื้องรอบ ๆ ทั่วไป คือ ลูกค้า ประชาชน บุคคลทั้ง 4 ประเภทนี้ ถ้าอยากสัมพันธ์ให้ดี ต้องเข้ากับเขาให้ได้ ซึ่งท่านอาจารย์ชิตได้สรุปย่อ ๆ ไว้เยอะแยะ ลองอ่านไล่ไปดูก็ได้ว่าเราได้ทำหรือยัง ถ้ายังไงลองทำดูนะครับ รับรองว่าแจ๋ว |
|||||||
1 |
หลักการเข้ากับผู้บังคับบัญชา |
||||||
ทำงานให้ดี หลีกเลี่ยงการสอพลอ | |||||||
หาทางให้ความคิดของผู้บังคับบัญชาได้ผล | |||||||
เคารพยกย่องตามฐานะ | |||||||
ไม่ควรพูดว่า "ได้ครับ" หรือ "ไม่ได้ครับ" ตลอดเวลา ควรใช้คำว่า "แต่ว่า" บ้าง | |||||||
อย่าก่อศัตรูกับเพื่อนร่วมงานในระดับเดียวกัน | |||||||
เรียนรู้นิสัยการทำงานของผู้บังคับบัญชา | |||||||
อย่ารบกวนผู้บังคับบัญชาด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ | |||||||
เข้าหาผู้บังคับบัญชาให้เหมาะกับเวลาและโอกาส | |||||||
อย่านินทานายลับหลัง | |||||||
อย่าโกธรเมื่อผู้บังคับบัญชาไม่เห็นด้วยกับความคิดของเรา | |||||||
เมื่อผู้บังคับบัญชาปฏิบัติดีต่อเราจะต้องหาทางแสดงความขอบคุณ | |||||||
อย่าบ่นถึงความยากลำบากในการปฏิบัติงานต่อหน้านาย | |||||||
สรรเสริญนายในโอกาสต่าง ๆ | |||||||
ประเมินตัวเองเป็นระยะ ๆ ว่า | |||||||
เงินเดือนขึ้นหรือเปล่า | |||||||
ถูกถามความเห็นบ้างหรือเปล่า | |||||||
ถูกสั่งงานข้ามหัวบ้างหรือเปล่า | |||||||
ถูกตำหนิบ้างหรือเปล่า | |||||||
มีความรู้เกี่ยวกับตัวผู้บังคับบัญชา และครอบครัวบ้างหรือไม่ | |||||||
|
2 |
หลักการเข้าหาเพื่อนร่วมงานระดับเดียวกัน |
|||||
เข้าหาเขาก่อน | |||||||
มีความจริงใจต่อเขา | |||||||
อย่าซัดทอดความผิดให้เขา | |||||||
ยกย่องชมเชยเขาในกรณีที่สมควร | |||||||
ให้ความร่วมมือด้วยความเต็มใจเสมอ | |||||||
แจ้งให้เขาทราบโดยด่วนในเรื่องที่เกี่ยวกับความรับผิดชอบของเขา | |||||||
ฟังความเห็นเขาบ้าง | |||||||
หลีกเลี่ยงการทำตัวเหนือกว่า | |||||||
เสมอต้นเสมอปลาย | |||||||
สรรเสริญเขาในโอกาสอันควร | |||||||
หลีกเลี่ยงการขอร้องหยุมหยิม | |||||||
ใจกว้างพอประมาณ | |||||||
พบปะสังสรรค์กันตามควร | |||||||
ให้อภัยซึ่งกันและกัน | |||||||
3 |
หลักการเข้ากับผู้ใต้บังคับบัญชา |
||||||
รู้จักควบคุมอารมณ์ตนเอง | |||||||
อย่าอารมณ์ฉุนเฉียว | |||||||
อย่าหลงตัวเองว่าเก่งกว่าคนอื่น | |||||||
อย่าใช้อำนาจเกินความจำเป็น | |||||||
อย่าตัดสินใจในเวลาโกธร | |||||||
อย่าเลือกที่รักมักที่ชัง | |||||||
วิธีส่งเสริมกำลังใจ | |||||||
เอาใจเขามาใส่ใจเรา | |||||||
ยกย่องเมื่อเขาปฏิบัติดี | |||||||
แสดงความเชื่อมั่นในตัวผู้ใต้บังคับบัญชา | |||||||
อย่าจุกจิกจู้จี้ เหมือนคนเป็นโรคประสาท | |||||||
เอาใจใส่ในความยากลำบากในการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชา | |||||||
มีความจริงใจและเห็นอกเห็นใจ | |||||||
รู้จักใช้รางวัลล่อใจ | |||||||
ให้บำเหน็จรางวัลอย่างเป็นธรรม | |||||||
หลีกเลี่ยงการใช้ระบบหยุมหยิมเกินความจำเป็น | |||||||
ชี้แจงความเคลื่อนไหวในวงงาน | |||||||
ชี้แจง นโยบาย แผนงาน และปัญหาต่าง ๆ อย่างกระจ่างชัดและทันต่อเหตุการณ์ | |||||||
อย่าทำให้เขารู้สึกว่านายเท่านั้นที่ควรรู้ และลูกน้องไม่มีความสำคัญแต่อย่างใด | |||||||
อย่าปล่อยให้เก็บเรื่องราวจากข่าวลือ | |||||||
เมื่อเขาถามข้อข้องใจ หาคำตอบที่ถูกต้องมาทำความเข้าใจให้ได้ | |||||||
ความเห็นของเขาที่ยังไม่สามารถปฏิบัติได้ ชี้แจงเหตุผลให้เขาทราบ | |||||||
รักษาผลประโยชน์ของผู้ใต้บังคับบัญชา | |||||||
เอาใจใส่ในผลประโยชน์ของเขา | |||||||
ใครสมควรได้รับการเลื่อนขั้น เลื่อนฐานะ รีบดำเนินการให้ | |||||||
ใครมีเรื่องทุกข็ร้อนหาทางปัดเป่าให้ | |||||||
ใครทำดีรีบให้รางวัลตอบแทน | |||||||
เอาใจใส่ในความทุกข์สุขส่วนตัวและครอบครัวของเขา | |||||||
อย่าเบียดบังผลประโยชน์ของผู้ใต้บังคับบัญชา | |||||||
อย่าสัญญาแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาในสิ่งที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ หรือไม้ตั้งใจที่จะปฏิบัติ | |||||||
อย่าให้ยาหอมกับผู้ใต้บังคับบัญชาโดยไม่มีความจริงใจ | |||||||
อย่าใจแคบกับผู้ใต้บังคับบัญชา | |||||||
พยายามละเว้นหรือหลีกเลี่ยงการกระทำดังต่อไปนี้ เพราะจะทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเสื่อมศรัทธา ขาดความจงรักภักดี | |||||||
เจ้าอารมณ์ ขี้โมโห ฉุนเฉียว | |||||||
เลือกที่รัก มักที่ชัง | |||||||
ชอบแสดงอำนาจ | |||||||
ซัดทอดความผิด | |||||||
ไม่กล้ารับผิดชอบ | |||||||
ระเบียบจัดเจนเกินควร จุกจิก จู้จึ้ (เหมือนคนเป็นโรคประสาท) | |||||||
ชอบรวมอำนาจ | |||||||
ทำตัววิเศษกว่าคนอื่น | |||||||
ชอบทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาอึดอัดอับอาย | |||||||
ดูหมิ่นผู้ใต้บังคับบัญชา | |||||||
ไม่เห็นความสำคัญในผลงานการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชา | |||||||
ไม่มีความเชื่อมั่นในตัวผู้ใต้บังคับบัญชา | |||||||
มีแต่ยาหอม ปราศจากความจริงใจต่อผู้ใต้บังคับบัญชา | |||||||
เอาตัวรอดแต่ผู้เดียว | |||||||
ชอบขู่เข็ญ | |||||||
มรรยาทส่วนตัวหยาบคาย | |||||||
ขี้หวาดระแวง | |||||||
ไม่รับฟังความคิดเห็นของผู้ใต้บังคับบัญชา | |||||||
ไม่รักษาคำพูดที่ได้สัญญาไว้ | |||||||
ไม่ต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของลูกน้อง | |||||||
ชอบเสี้ยมเขาควายให้ชนกัน | |||||||
หูเบาไม่สนใจกับปัญหาในวงงาน | |||||||
ไม่สนใจคำเรียกร้องของผู้ใต้บังคับบัญชา | |||||||
ทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าใจผิดเกี่ยวกับเหตุการณ์ในวงงาน | |||||||
ปิดบังความรู้ในการทำงาน กลัวลูกน้องแย่งเก้าอี้ | |||||||
นินทาผู้ใต้บังคับบัญชา | |||||||
ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับผู้ใต้บังคับบัญชาที่เป็นสตรี | |||||||
ไม่มีศิลปะการสอนงานผู้ใต้บังคับบัญชา | |||||||
ไม่สนใจความเป็นอยู่ของผู้ใต้บังคับบัญชา | |||||||
|
4 |
หลักการเข้ากับประชาชน |
|||||
ศึกษาและพยายามใช้ภาษาพื้นเมือง | |||||||
พยายามทราบความต้องการของเขา | |||||||
หาโอกาสไปเยี่ยมเยือน สนทนาปราศรัย | |||||||
ไม่ปฏิเสธการต้อนรับของชาวบ้าน | |||||||
หาโอกาสเข้าร่วมพิธีทางศาสนา | |||||||
เลิกความรู้สึกเป็นเจ้าขุนมูลนาย | |||||||
เปลี่ยนทัศนคติให้เป็นไปตามระบบรักกันฉันท์พี่น้อง | |||||||
สุจริต | |||||||
ไม่เบียดเบียนหยามชาวบ้าน | |||||||
มีท่าทีเป็นมิตรเสมอ | |||||||
นำบริการต่าง ๆ ไปสู่ประชาชน | |||||||
ติดตามดูแลลูกน้องที่ออกไปทำงานร่วมกับประชาชนเป็นกรณีพิเศษ | |||||||
หาทางที่จะทราบความเป็นอยู่และพฤติการณ์ของชาวบ้านโดยละเอียด | |||||||
เปิดโอกาสให้เขาระบายทุกข์ร้อน | |||||||
ครับทั้งหมดนี้ก็เป็นหลักการเข้าถึงบุคคลที่อาจารย์ชิต นิลพานิช ท่านรวบรวมไว้ ผมเองในฐานะลูกศิษย์ท่านก็ขออนุญาตนำมาเผยแพร่ต่อ ก็ลอง ๆ ดูนะครับว่าเราทำครบตามที่อาจารย์สอนแนะไว้หรือยัง ถ้ายังลองทำดูนะครับ รับรองว่าจะสัมพันธ์กับผู้คนทุกระดับชั้นได้อย่างดี มีสุขจริง ๆ |
|||||||
ที่มา: ข้อเขียนจากคอลัมน์ "สาระน่ารู้" วารสารกำนันผู้ใหญ่บ้าน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย |
|||||||
[ อ่านบทความย้อนหลัง ] |