ซ.นอร์ตโคต พาร์กินสัน (C. Northcote Parkinson M.K. Rustomji) อาจารย์สอนหนังสือ นักประวัติศาสตร์ นักการเมือง และนักเขียนข่าวสังคม ได้รวบรวมเคล็ดกลับการเป็นผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จเอาไว้ ซึ่งประกอบด้วยหลักการง่ายๆ 12 ข้อ นำเสนอในรูปแบบของบทละครที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย (สมชาย พิทยาอุดมกฤษ์ : แปล)  มาดูกันว่าเคล็ดลับเหล่านั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง
1. มนุษยสัมพันธ์
          มักจะมีผู้กล่าวว่าชื่อนั้นสำคัญไฉน แต่ลองคิดดูว่าถ้ามีใครจำชื่อเราได้ เราจะรู้สึกภูมิใจนิดๆ มากกว่าที่เขานึกชื่อเราไม่ออก การจำชื่อคนที่เราจะติดต่อด้วยเป็นก้าวแรกของธุรกิจ เพราะถ้าแม้แต่ชื่อเขาเรายังจำไม่ได้ จะให้เขาคิดอย่างว่าเราสนใจที่จะคุยกับเขา ดังนัเนถ้าคุณอยากเป็นผู้นำ นอกจากคุณจะต้องจำเรื่องเก่งและจำตัวเลขเก่งแล้ว คุฯยังต้องจำชื่อคนเก่งอีกด้วย ชื่อจะเพราะหรือไม่เพราะนั้นไม่สำคัญ แต่เรียกชื่อเขาได้อย่างไพเราะนั้น สำคัญแน่
          ในฐานะที่คุณเป็นหัวหน้า คุณอยากรู้ว่าลูกน้องคุณนั้นคิดอย่างไร และประพฤติปฏิบัติอย่างไร ถ้าอย่างนั้นคุณต้องเปิดโอกาสให้เขาแสดงความคิดเห็นและไม่เพียงแต่คิดเปิดโอกาสเท่านั้น คุณต้องส่งเสริมด้วย คุณและเขาไม่ได้เป็นชนชั้นพราหมณ์กับชนชั้นจัณฑาลที่จะพูดคุยกันไม่ได้ควรเป็นการเปิดระบบสื่อสารที่ดี แล้วคุณจะเข้าใจถึงความนึกคิดของพวกเขา คาดการณ์ได้เลยว่าเขาต้องการอะไร และถ้ามีเรื่องไม่ชอบมาพากลคุณก็สามารถที่จะตัดไฟได้แต่ต้นลม และนี่คือมนุษยสัมพันธ์
2. จุดสำคัญบริหาร
        หัวหน้าของเขาก็มีปัญหาเช่นกันกับหัวหน้าอีกจำนวนมาก เขามีความคิดที่จะทำงานสำคัญหลายๆอย่าง เขาอยากพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง บ่อยครั้งที่เขาตั้งใจจะเรียนรู้งานแต่เขากลับนึกท้อใจ เมื่อความรู้สึกของความไม่แน่นอนในการทำงานผ่านแวบเข้ามาในสมอง นี่คือรากฐานสำคัญอย่างหนึ่งของการบริหารงานบุคคล ถ้าคุณไม่สามารถบริหารงานให้มีเสถียรภาพได้ คุณจะขาดความคิดกระตือรือร้นจากบุคคลระดับหัวหน้าของคุณ
        ถึงแม้ว่าจะค่อนข้างด่วนอย่างไรก็ตาม ถ้าคุณจะต้องทำอะไรลงไปที่เกี่ยวกับลูกน้อง คุณควรจะได้มีการพูดคุยสอบถามกันบ้าง เพื่อดูว่าเขามีความคิดเห็นอย่างไรเขาคัดค้านในจุดไหนบ้าง อย่างน้อยเขาก็จะมีความรู้สึกว่าเราให้เกียรติเขา ในสังคมประชาธิปไตยนั้น การสั่งการอะไรที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเขาถ้าทำได้ควรจะมีการพูดคุยกันบ้างไม่เช่นนั้นเขาอาจคิดว่าคุณเป็นจอมเผด็จการ
3. รู้หลักการความนุ่มนวล
        พวกเราเคยสังเกตบ้างไหมว่า เวลาที่พบปะคนที่ไม่รุ้จัก เรามักจะรู้สึกเกรงใจและพยายามแสดงออกซึ่งมารยาทที่ดีให้เขาเห็น แต่กับคนที่รู้จักกันหรือกับเพื่อนร่วมงาน การแสดงออกนี้ชักจะหดหายลงไป เผลอๆ ก็ไม่เห็นหัวเห็นหูกันด้วยตรงกับคำพูดที่ว่า สนิทนักมักไม่เกรงใจกัน เรากำลังมองข้ามสิ่งสำคัญไปเสียแล้ว อัธยาศัยอันดีเป็นเครื่องผูกมัดมิตรภาพและสร้างความร่วมมือที่ดีให้เกิดกับหมู่คณะ ดังนั้นจงมีอัธยาศัยที่ดีกับทุกคนไม่เฉพาะแต่กับคนแปลกหน้าเท่านั้น
        คุณเป็นหัวหน้า คุณมีหน้าที่ปกครองลูกน้อง คุณต้องดูแลเขาเหมือนหัวหน้าดูแลลูกน้อง ไม่ใช่แบบพ่อแม่ดูแลเด็กเล็ก คุณต้องสอนงานให้ลูกน้องพัฒนาเขาให้มีความสามารถ เชื่อมั่นและช่วยเหลือตัวเองได้ นี่คืองานสำคัญที่บริษัทจ้างคุณให้มาทำด้วยเงินเดือนแพงๆ อย่าดูแลลูกน้องแบบป้อนน้ำป้อนข้าวที่ต้องการจัดให้ทุกอย่าง คุณต้องปลุกเขาให้อยากยกฐานะของเขาให้สูงขึ้นเรื่อยๆ ตามความรู้ความสามารถของเขาที่แสดงออก
4. สิ่งที่พึงละเว้น
        คุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งของหัวหน้าก็คือ ความยุติธรรม แต่ความยุติธรรมนั้นต้องถ้วนหน้า ไม่ใช่แบบฝนตกไม่ทั่วฟ้า จนกลายเป็นเลือกที่รักมักที่ชัง ซึ่งปกติแล้วหัวหน้าต้องมีการให้ความดีความชอบแก่ลูกน้อง แต่การกระทำของคุณนั้นต้องเปิดเผย ถ้ามุบมิบทำ คุณอาจจะตกเป็นขี้ปากพนักงาน ว่าเป็นเจ้านายที่ลำเอียง การมีหัวหน้าที่ลำเอียงนั้น ย่อมเป็นการบั่นทอนขวัญและกำลังใจของพนักงาน เพราะถ้าตัวเองประจบไม่เก่ง ก็อย่าหวังเลยว่าหัวหน้าจะโปรดปราน ดังนั้นการให้ความดีความชอบเพราะอะไร 
        วิธีที่จะทำให้สังคมอยู่สงบคือพากันปิดปากแล้วปิดตา แต่นั่นคงจะเป็นสังคมของคนสิ้นคิด แต่ถ้าคุณจะ เปิดปาก คุณก็ต้อง เปิดตาด้วย คงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า หลับหูหลับตา นั่นคือ การไม่รับผิดชอบต่อคำพูดที่พูดออกไปเมื่อเปิดปากพูดก็ต้องเปิดตาดูคำพูดให้ดีเหมือนกันว่าถ้าคำพูดเป็นตัวตนก็จะได้ดูว่ามันโสภาน่ารักักแค่ไหน มิตรภาพที่สร้างกันมาเป็นสิบปีหรือทีมงานที่รวมตัวกันแล้วอย่างมั่นคงอาจจะพังครืนได้ในบัดดลด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ ดังนั้นคำพูดที่ว่า "จงเปิดตาถ้าจะเปิดปาก" จึงไม่ใช่เพียงแค่เบิกตาเสียกว้างแล้วก็พูดๆ คุณต้องมองให้แน่ใจว่าคุณกำลังพูดอะไร
5. ข้อพึงเน้นเป็นผู้นำ
        ในฐานะที่เป็นนักบริหาร งานของคุณในวันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ และจะดียิ่งขึ้นในวันต่อๆ ไป การที่คุณคิดเช่นนี้ได้ คุณต้องถามตัวเองก่อนว่าคุณมีเป้าหมายอะไรหรือไม่ ทุกวันนี้ลูกน้องของคุณเดินออกจากห้องของคุณอย่างกระฉับกระเฉงเพื่อที่จะไปทำงานที่ดีขึ้น หรือออกไปอย่างเงียบหงอย รอดูว่างานจะออกหัวหรือก้อยแล้วแต่บุญพาวาสนาส่ง สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีเป้าหมายไว้หรือเปล่า ดังนั้นจงตั้งเป้าเป็นจุดหมายเพื่อให้ทุกคนก้าวเดินไปสู่จุดนั้น ให้กำลังใจและดึงเอาจุดดีของเขาออกมาให้ได้ ไม่ใช่คอยแต่ขุดค้นเอาส่วนของเขาขึ้นมาพร่ำบ่น แทนที่จะฮึกเหิมก้าวเดินไปสู่จุดหมายที่เป็นเป้า เขาอาจจะหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้นเพราะซึมไปเลย
6. หลักการทำงานเป็นหมู่
        ท่านประธานบริษัทอาจจะนั่งรถคันโอ่อ่ายังกับคฤหาสน์เคลื่อนที่ เคียงคู่กับศรีภรรยาซึ่งสวมสร้อยเพชร ในขณะที่หัวหน้าของเราอาจจะปั่นจักรยานกลับบ้าน ประธานบริษัทกับหัวหน้าออกจะแตกต่างกันในฐานะการเงิน แต่ละคนมีความสำคัญในฐานะของตนทั้งนั้น ไม่ว่าหัวหน้าระดับไหนก็ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในฝ่ายบริหารที่ออกแรงหน้าบูดเบี้ยวประคองโรงงานร่วมกันอยู่ ทางหนึ่งที่จะทำให้หัวหน้าทั้งหลายรู้สึกว่าเขานั้นคือส่วนหนึ่งของฝ่ายบริหารก็คือพยายามถ่ายทอดนโยบายและการดำเนินงานของบริษัทให้เขารับทราบอยู่เสมอ ถ้าทำได้อย่างนี้ นั่งรถเก๋งขับขี่จักรยาน ก็ชูคอได้พอกันในการบริหาร
7. ข้อควรรู้ที่ควรงด
        นักบริหารนั้นควรจะมีเทพยดาอยู่เคียงข้างสักคน แต่ไม่ได้หมายถึงยุให้คุณหาเด็กเอ๊าะไว้สักคน เทพยดาองค์นี้ คือเทพยดาแห่งการยั้งคิด จงฟังเสียงกระซิบเตือนจากเธอทุกครั้งที่คุณมีความกดดันทางอารมณ์ เธอจะเตือนมิให้คุณทำกระทำการใดๆ ในขณะที่คุณกำลังโกรธกริ้วหรืออยู่ในสภาวะที่จิตใจกำลังหงุดหงิด ให้เธอช่วยตัดโมหะจองเวรที่ต้องการโต้ตอบคนอื่นให้สาสม คุณจะกระทำอย่างไรออกไปก็ตาม ขอให้ยั้งคิดเท่านั้นว่า คุณจะได้ผลดีกลับมาหรือไม่ สนใจไหมที่จะมีเทพยดาแห่งการยั้งคิดไว้เคียงข้างสักคน
8. การกำหนดระบบงาน
         ให้รู้แจ้ง ระบบงานเริ่มต้นด้วยการตัดสินใจ ให้แน่วแน่ว่าจุดมุ่งหมายของหน่วยงานเราคืออะไร
        แจกแจงงาน งานในระบบถูกแบ่งเป็นพวกๆ หรือเป็นระดับตั้งแต่ระดับง่าย หรือสำคัญน้อยที่สุด ไปจนถึงขั้นยากหรือสำคัญมากที่สุด
         ทำการอธิบาย ในระดับงานขั้นต้นดำเนินโดยพนักงานระดับล่างๆ ซึ่งอาจจะเป็นคนกลุ่มใหญ่ คนพวกนี้ต้องได้รับการอธิบายถึงลักษณะและวิธีการทำงานอย่างละเอียดและชัดเจน
         วางสายงานปฏิบัติ ทุกๆ คนในระบบงานจะต้องรู้ซึ้งถึงขอบเขตความรับผิดชอบของตนเองอย่างแน่ชัด
         ทุกสิ่งจัดเป็นที่ทาง หยิบก็ง่าย หายก็รู้ ดูก็งามตา เรื่องนี้เป็นห้องหนึ่งของหัวใจในระบบงาน
         สร้างสรรค์ความมั่นใจ เมื่อระบบงานประกอบด้วยขั้นตอนสำคัญดังกล่าวมาแล้ว ประการสุดท้ายคือการสร้างความเชื่อมั่นอย่างจริงจัง
9. บริหารให้ก้าวหน้า
        พนักงานที่คุณวางตัวไว้ในตัวพวกแรกหรือระดับต้นนั้น เมื่อเวลาผ่านไปก็ต้องมีพนักงานที่เก่งขึ้น และถึงเวลาที่คุณต้องมีการเปลี่ยนแปลงงาน คนที่เก่งขึ้นไม่สมควรที่จะอยู่ที่งานที่ต่ำกว่าระดับความสามารถของตนเอง ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงคุณก็ต้องมีการจัดงานกันใหม่ คุณต้องคำนึงว่าได้ข้อมูลจากเขาเหล่านั้นพอเพียงหรือยัง การวางงานให้เหมาะสมเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ไม่ใช่บางคนทำงานพัลวันจนมือด้าน ส่วนบางคนนั่งเฉยทั้งวันจนก้นด้าน
10. ข้อศึกษาวานิชยุทธ์
        หัวหน้าเราอาจจะนั่งกุมขมับอยู่นานสองนานก่อนที่เขาจะลงมือทำงานสักอย่าง เขาไม่ได้นั่งปวดหัวเพราะเรื่องส่วนตัว แต่เขากำลังใช้ความคิดตรึกตรองดูว่างานที่กำลังจะทำนั้นน่าจะมีจุดไหนที่บกพร่องน่าจะมีจุดไหนที่เป็นไปอย่างมีเหตุมีผลเป็นขั้นเป็นตอน แล้วเขาก็จะเพิ่มเติมมาตรการหรือข้อควรระวังลงไปในจุดที่เขาวิเคราะห์ออกมา แล้วจึงลงมือทำ กฎหรือทฤษฎีทั้งหลายของปรมาจารย์หรือเซียนระดับไหนก็ตาม ไม่อาจกำหนดลงไปได้เลยว่ามันจะขจัดข้อผิดพลาดได้ นอกจากคุณจะต้องใช้ความคิดของคุณก่อนทำ คุณอาจเสียเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงในการคิดก่อนทำ เพื่อแลกกับเวลาเป็นวันที่เสียไปกับการแก้ไขข้อผิดพลาดในการทำก่อนคิด
11. ก้าวสู่จุดความสำเร็จ
        หัวหน้าของเรานั้นเป็นหัวหน้าที่ทำงานเก่งคนเดียวเป็นตัวเก่งที่จะได้ก้าวไปถึงผู้ช่วยผู้จัดการ แต่เขาก็ยังมีบางสิ่งบางอย่างที่ต้องเรียนรู้ เขาสื่อข้อความในเรื่องที่จำเป็นต้องรู้ให้กับลูกน้องอยู่เสมอๆ ซึ่งเขามักจะคิดว่าลูกน้องจำและเข้าใจที่เขาพูด แม้แต่เอกสารประกาศต่างๆ ที่เขาติดบอร์ดไว้เขาก็คิดว่าลูกน้องทุกคนได้อ่านได้รับรู้ทั้งหมด นี่แหละคือสิ่งที่หัวหน้าของเราต้องมาเรียนรู้กันใหม่
12. กลเม็ดแห่งผู้นำ
        เป็นลูกน้องต้องจำทนลำบาก เป็นเจ้านายสิยากกว่าสิบเท่า การเป็นเจ้านายนั้นเป็นยาก เจ้าอาจจะนั่งทำงานอยู่ในห้องใหญ่หรูหรามีเลขานุการ เวลาใครเขียนชื่อก็มักจะนำหน้าด้วยคำว่าท่านหรือ ฯพณฯ ใครไม่รู้ก็คิดว่าเป็นหัวหน้านี่สบายเหลือเกิน แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น ปัญหาที่มีมาถึงเขาล้วนแต่เป็นปัญหาใหญ่ มีทั้งความเครียดและความกดดัน มีคนเป็นร้อยที่อยากเห็นเขาได้ดี ในขณะเดียวกัน ก็มีคนเป็นพันที่อยากเห็นเขาล้ม ตำแหน่งหน้าที่ทำให้ต้องมีการต่อสู้ ปัดแข้งปัดขา หรือเลื่อยขาเก้าอี้กันอุตลุด และนี่คือความลำบากที่แท้จริงของหัวหน้า การก้าวเข้าสู่ตำแหน่งสูงสุดของการบริหาร จะต้องแลกมาด้วยความอุตสาหะ ผู้ใดที่ไม่เต็มใจหรือไม่อดทนที่จะลงทุนทั้งแรงกายและแรงใจ เพื่อให้ถึงจุดสุดยอดนี้ ก็ขอให้กลับไปลงอยู่ปลายทางที่กลางๆ
        ด้วยเคล็ดลับ 12 ข้อนี้ จะเปลี่ยนคุณให้กลายเป็นคนทำงานที่มีความพร้อมสำหรับการก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้บริหารได้อย่างไม่ยากเย็น และมีความสุข
 

 

แหล่งอ้างอิง:
      นราทิพย์  กวางเส็ง
.  "12 ก้าว สู่ความสำเร็จ" โพสต์ทูเดย์ (11 เมษายน 2548) หน้า C8.

 

อัจฉรา  แผ่นทอง : ออกแบบ จัดทำ

 

[อ่านบทความย้อนหลัง]