|
|||
Traditionof Nakhon Sri Thammarat |
ประเพณีตักบาตรธูปเทียน อยู่คู่กับวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ทุกวันนี้ยังคงมีอยู่ถึงแม้ว่าอาจจะแตกต่างไปจากประเพณีดั้งเดิมบ้าง |
ความเป็นมา ประเพณีตักบาตรธูปเทียนเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาเพราะเป็นประเพณีถวายสังฆทานเนื่องในโอกาสเข้าพรรษาคือ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 และสมัยสุโขทัยได้รับการสืบทอดประเพณีนีด้วย ดังหลักฐานที่ปรากฏในศิลาจารึกหลักที่ 1 ว่า
|
แต่เดิมจัดที่วัดพระธาตุ ฯ เพียงแห่งเดียว ช่วงพระสงฆ์จะประจำที่วัดพระธาตุ พอถึงวันเข้าพรรษา ชาวเมืองจะนำเครื่องสังฆทานไปถวายพระสงฆ์ เมื่อถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ซึ่งเป็นวันเข้าพรรษา ช่วงบ่าย เวลาประมาณ 14.00 เป็นต้นไป พระสงฆ์จากวัดต่าง ๆ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากวัดพระมหาธาตุทั้งในเมืองและนอกเมือง ต่างมาพร้อมกันเป็นแถวยาวที่หน้าวิหารทับเกษตร วัดพระมหาธาตุ ฯ เพื่อรอรับบิณฑบาตรดอกไม้ธูปเทียนด้วยย่ามในแขวขวา ชาวเมืองก็นำธูปเทียนซึ่งเตรียมไว้เป็นช่อ ๆ ใส่ถาดถวายพระสงฆ์ ไปตามลำดับ รูปละมัด เรียกว่า " การตักบาตรธูเทียน " |
เมื่อตักบาตรธูปเทียนแล้ว ชาวเมืองพร้อมใจกัน จุดเปรียง (การจุดเปรียงคือ " จองเปรียง " เป็นพิธีของพราหมณ์ เพื่อจุดโคมรับเทพเจ้า ทำกันในวันเพ็ญเดือน 12 เพื่อบูชาพระบรมธาตุเจดีย์และพระพุทธรูป) บริเวณหน้าพระพุทธรูปและฐานเจดีย์ทุกฐานในวัดพระธาตุ โดยการเอาด้ายดิบใส่ลงไปในภาชนะเล็ก ๆ (เปลือกหอยแครง) แล้วหยดน้ำมันสัตว์หรือน้ำมันมะพร้าวลงในเปลือกหอยแล้วจุดไฟที่ด้าย |
แต่ต่อมาเมื่อถึงวันเข้าพรรษาชาวเมืองนครต่างพากันไปชุมชนที่วัดใกล้บ้าน นำเทียนพรรษาขนาดใหญ่พอที่จะใช้ตลอดพรรษาไปถวายพระสงฆ์ นอกจากนี้ยังมีดอกไม้ ธูปเทียน ผ้าอาบน้ำฝน ตั่ง เตียง ตะเกียง ยาและอาหาร |
สมัยปัจจุบันประเพณีตักบาตรธูปเทียนเปลี่ยนแปลงไปหลายประการ กล่าวคือ
|
ประเพณีการตักบาตรธูปเทียน แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างพุทธศาสนากับชาวนคร แสดงออกถึงค่านิยมอันสูงส่งในทางพุทธศาสนาของชาวนคร และประการสำคัญประเพณียังคงตกทอดมาถึงลูกหลานเรามุกวันนี้ นับเป็นมรดกที่เชิดหน้าชูตาชาวนครอย่างยิ่ง ด้วยประเพณีนี้มีเฉพาะในจังหวัดนครศรีธรรมราช |
ประเพณีขันหมากพระปฐม ประเพณีลากพระ |