เกิดวันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2494
ที่บ้านโคกทราย ตำบลทรายขาว อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช
เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวนพี่น้อง 9 คนของนายล้อม นางจอก เทอดเกียรติชาติ

การศึกษา
ประถมปีที่ 4 จากโรงเรียนบ้านโคกทราย
ประถมปีที่ 7 จากโรงเรียนเชียรใหญ่สงเคราะห์อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช
มัธยมศึกษาปีที่ 3 (ม.ศ.3) จากโรงเรียนวีรนาทศึกษา อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง ไปหัดหนังตะลุงอยู่กับหนังเคล้าน้อย โรจนเมธากุล ที่ตำบลการะเกด อำเภอเชียรใหญ่ เป็นเวลา 2 ปี
ป.กศ. เข้ารับราชการครูที่โรงเรียนหงษ์หยกบำรุง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

เป็นนายหนังตะลุงรุ่นใหม่ที่มีเป้าหมายการเล่นหนังเพื่ออนุรักษ์ และส่งเสริมวัฒนธรรมไทย เคยได้รับรางวัลเด่นในฐานะ ศิลปินผู้ผลิตงานดีเด่นเพื่อเยาวชนประเภทสื่อชาวบ้าน จากคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ เมื่อวันที่ 11 กันยายน
พ.ศ. 2524

ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 17/3 หมู่ที่ 1 ตำบลทรายขาว อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช

        ขณะที่รับราชการอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต บุญธรรมได้ศึกษาเกี่ยวกับศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และความแตกต่างระหว่างคนโลกตะวันออกกับตะวันตกอย่างเอาใจใส่ จนกระทั่งเกิดแรงบันดาลใจอยากจะอนุรักษ์ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย จึงจับงานแสดงหนังตะลุงอีกครั้ง พร้อมกันนั้นก็ได้จัดรายการเกี่ยวกับวัฒนธรรมทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์ (ส.ท.ร.3 ภูเก็ต ป.ช.ส. ภูเก็ต และสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ภูเก็ต) เขียนบทความและบทร้อยกรองลงหนังสือพิมพ์ภูธร ปักษ์ใต้ เสียงทักษิณ และบ้านเรา) ในการเขียนบทความได้รับโล่เกียรติคุณ จากบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในภูเก็ตและของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ส่วนการเขียนบทร้อยกรอง ซี่งส่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ส่วนกลาง ผลงานของเขาก็ได้รับการยอมรับจากกลุ่มวรรณกรรมพินิจ นอกจากนั้นบุญธรรมยังเป็นแกนนำในการจัดตั้งองค์กรครูจังหวัดภูเก็ตอีกด้วย และได้รับเลือกจากคณะครูจังหวัดภูเก็ตให้เป็นประธานชมรมครูท้าวเทพกระษัตรีจังหวัดภูเก็ต (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น "ชมรมครูภูเก็ต" )

         กิจกรรมทุกอย่างที่บุญธรรมได้กระทำ ก็เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมไทยโดยเฉพาะการแสดงหนังตะลุง เขาจะเน้นในเรื่องวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังสอดแทรกธรรมะ การเมืองและวิชาการลงไว้ด้วย เรื่องที่แสดงแม้จะเป็นจักรๆ วงศ์ๆ แต่ก็สอดแทรกเรื่องเหล่านี้ไปอย่างเหมาะสม เช่น ท้าวภุชงค์ในนิยายที่บุญธรรมนำมาแสดงจะต้องพูดถึงเรื่องแร่ ก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย และแถวจังหวัดภูเก็ต พังงา จากผลงานต่างๆ ทำให้คณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ มองเห็นเจตนาและคุณค่าจากผลงานของเขา ดังนั้นในปี พ.ศ.2524 คณะกรรมการดังกล่าวจึงให้บุญธรรมได้รับรางวัลดีเด่นดังกล่าว

         ต่อมาบุญธรรม ได้สอบเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่วิทยาลัยครูภูเก็ต ขณะที่กำลังศึกษาอยู่ เขาได้รับความไว้วางใจจากหนังตะลุงหลายจังหวัดเลือกให้เป็นนายกสมาคมศิลปินชาวภาคใต้

         ต่อมาก็ได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาโทสาขาไทยคดีศึกษาที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ภาคใต้

         บุญธรรม สมรสกับนางสาวนภาพร ฤทธิกาญจน์ มีบุตร 3 คน
ประทีป  จงไกรจักร
ประทีป จงไกรจักร